เฉิงเซินตัวสั่นไปหมด เขารีบคุกเข่าลงมายอมรับผิด “กระหม่อมมิได้ตั้งใจพ่ะย่ะค่ะนายท่าน! ตอนที่ทำการลาดตระเวน กระหม่อมพบว่าไส้ศึกสองฝ่ายกำลังเข่นฆ่ากัน กระหม่อมไม่กล้าตัดสินใจเองจึงรีบมารายงานพ่ะย่ะค่ะ”
“แต่กองทัพพยัคฆ์เสือดาวไม่ยอมให้กระหม่อมเข้าเฝ้า กล่าวว่าต่ำกว่าระดับห้าไม่มีสิทธิ์เข้าเฝ้ายามค่ำคืน กระหม่อมกลัวว่าจะเกิดเรื่อง จึงได้คิดปีนกำแพงเข้ามาแทน กระหม่อมสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เห็นว่าท่าทีสำนึกผิดที่จริงใจของเขา จึงพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายลงว่า
“เปลี่ยนระเบียบแล้วล่ะ ใกล้จะพิธีอภิเษกสมรสแล้วทุกอย่างต้องระมัดระวังมากขึ้น ดังนั้นจึงมีระเบียบไม่ให้ผู้ที่ระดับต่ำกว่าห้าเข้าเฝ้าในยามค่ำคืน ในเมื่อท่านอ๋องประทับใจในตัวเจ้า เช่นนั้นข้าก็ไม่เอาความ หากมีการบุกรุกเข้ามาแล้วทำให้ท่านอ๋องพิโรธอีก จะถูกตัดศีรษะโดยไม่มีข้อยกเว้น!”
เฉิงเซินก้มศีรษะลง เหงื่อไหลลงตามโครงหน้าแล้วพูดด้วยเสียงสั่นคลอนว่า “ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์จึงโบกมือ “ถอยไปก่อนเถิด”
เฉิงเซินคำนับแล้วออกจากจวนเจ้าเมืองไปอย่างรวดเร็ว เมื่อออกจากประตูจวนเจ้าเมืองแล้ว ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อแห่งความตกใจกลัว หัวใจของเขาเต้นรัวจนไม่อาจสงบได้เลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ราวกับความฝัน หากบนเสื้อเขาไม่มีรูที่ถูกรากษสราวัณยิงธนูใส่ เขาก็เกือบจะคิดว่ามันคือความฝันแล้ว!
อย่างไรเขาก็ไม่มีทางคิดว่าคนต่ำต้อยเช่นเขาจะมีโอกาสได้พบหน้าของอ๋องเหยียน ถูกอ๋องเหยียนถามไถ่อย่างอ่อนโยน แถมยังได้ทานอาหารร่วมโต๊ะกับอ๋องเหยียนอีก มันเกินจริงมาก!
เฉิงเซินนึกถึงแต่ละฉากที่มีร่วมกับอ๋องเหยียน เขาก็ยิ่งรู้สึกนับถือชื่นชมอ๋องเหยียนมากขึ้น ผู้ที่ไม่ถือสาเรื่องเล็กๆน้อยๆ และมีคุณธรรม เป็นชายที่เขาขอสาบานติดตามไปตลอดชีวิต
......
ในขณะเดียวกัน จ้าวจีเอ๋อร์และฉินเหยียนก็คลอเคลียกันอยู่บนที่นอน
ฉินเหยียนถามอย่างครุ่นคิดว่า “เจ้าคิดว่าเฉิงเซินเป็นอย่างไรบ้าง?”
จ้าวจีเอ๋อร์นอนอยู่บนหน้าอกของฉินเหยียนแล้วพูดความจริง “ได้พบหน้ากันเพียงครั้งเดียว ไม่อาจรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไรเพคะ”
ฉินเหยียนนึกถึงพี่เจ็ดและพี่สะใภ้ที่แนะนำเฉิงเซินให้แก่เขา แต่ตอนนั้นเขากำลังจัดการเรื่องโกลาหลของทั้งสี่อาณาจักร จึงไม่ได้มาพบหน้าของเฉิงเซินเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สุดท้ายก็บังเอิญมาพบหน้ากับเฉิงเซินหลายครั้งเมื่อกลับเมืองมาเพียงวันเดียว เรื่องวาสนาช่างเป็นเรื่องที่เข้าใจยากเสียจริง
เมื่อนึกถึงความตั้งใจนั้นของเฉิงเซิน ฉินเหยียนก็พูดว่า “ข้ากลับรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้คือผู้มีความสามารถ อนาคตของเขาไม่อาจจำกัดได้เลย”
จ้าวจีเอ๋อร์พูดสมทบว่า “ท่านอ๋องมองคนถูกมาโดยตลอดเพคะ”
ฉินเหยียนครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะให้เขาอยู่ข้างกายข้า อย่างไรเขาก็สอบผ่านโจทย์ของตำหนักอ๋องเหยียนได้จนหมด คนเช่นนี้จะต้องเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้แน่นอน กำลังของเขาอาจอยู่เหนือข้าก็ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...