แม้ว่าบรรดาปั๋วซื่อเหล่านี้คิดว่าฉินเหยียนมีความสามารถและคิดว่าเขาเขียนออกมาได้เฉียบคมมาก แต่ไม่มีใครคิดว่าว่าฉินเหยียนจะทำให้คนอื่นๆ ประหลาดใจเช่นนี้
ในขณะที่ปั๋วซื่อกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น นักวิชาการหลายคนจากสำนักเผิงหลายก็มาถึง นอกจากนี้ยังมีสมาชิกราชวงศ์ที่ดูแลการสอบของสำนักไป่เสี่ยวเซิงในครั้งนี้อีกด้วย นั่นคืออ๋องหลานหลิง
บรรดาปั๋วซื่อเมื่อเจอหน้ากันต่างแลกของขวัญซึ่งกันและกัน
อ๋องหลานหลิงพุ่งเข้าประเด็นที่ต้องการพูด
“วันนี้สำนักไป๋เสี่ยวเซิงเปิดรับสมัครนักเรียนให้เข้าสอบเพื่อรับราชการ ในบรรดาคนเหล่านี้มีคนที่มีพรสวรรค์หรือมีคนที่เข้าตาบ้างหรือไม่?”
ปั๋วซื่อที่มีคุณสมบัติมากที่สุดในสำนักไป๋เสี่ยวเซิงยื่นขอสอบของเฉิงอาหนิวให้เขาแล้วพูดว่า
“มีอยู่คนหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ชายคนนี้เขียนนิทานสอนใจไม่ถึงสี่ชั่วโมงเสียด้วยซ้ำพ่ะย่ะค่ะ พระองค์โปรดอ่านดูพ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องหลานหลิงหยิบกข้อสอบมาอ่านอยางระมัดระวัง จากนั้นกล่าวชมว่า
“เขียนนิทานเรื่อสามคนกลายเป็นเสือได้ไม่เลวเลยนี่ ทั้งการแต่งประโยค ได้สร้างรูปแบบการยกตัวอย่างใหม่ๆ ชายคนนี้เขียนตัวอย่างที่มีจากเรื่องจริงและสามารถนำไปใช้ได้จริงหรือ?”
“ได้ขอรับ”
ชายชราหยิบกระดาษข้อสอบใบที่สองของเฉิงอาหนิวออกมาแล้วมอบให้อ๋องหลานหลิง
หลังจากที่อ๋องหลานหลิงอ่านข้อสอบ สมองเขาสั่นสะเทือนทันที รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ประการแรกเป็นเพราะรูปแบบการเขียนของเฉิงอาหนิว ประการที่สองคือพฤติกรรมที่น่าตกใจของอ๋องเหยียน
หากอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินถ่อมตนต่อคนที่มีสถานะต่ำต้อยกว่าตน แต่คนที่มีความสามารถวางตัวและปฏิบัติต่อกันด้วยความสุภาพ จุดนี้ชาวอาณาจักรหลู่อย่างพวกเขาไม่อาจเทียบได้
เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองปั๋วซื่อและพูดอย่างมีความหมาย
“เนื้อหาด้านในเป็นความหมายที่แท้จริงของการเดินหน้าอย่างรวดเร็วของอาณาจักรฉิน พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่?”
คำถามนี้ทำให้ปั๋วซื่อหลายคนต่างนิ่งงัน ต่างหยิบข้อสอบของเฉิงอาหนิวมาอ่าน
พวกเขาเข้าใจเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่เขาไม่เข้าใจความหมายของอ๋องหลานหลิง พวกเขาจึงพากันส่ายหน้า
เห็นได้ชัดว่าอ๋องหลานหลิงผิดหวังเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วและพูดอย่างชี้แนะว่า
“ตอนนี้ในอาณาจักรหลู่ของพวกเรา เรื่องการแบ่งชนชั้นนั้นชัดเจนมาก คิดอยากจะข้ามชนชั้น และเปลี่ยนจากคนทั่วไปมาเป็นข้าราชการนั้นยังยากมาก”
“แต่ถ้าเจ้าอ่านดูดีๆ อาณาจักรฉินแทบจะไม่มีแนวคิดนี้อยู่เลย แม้แต่คนทั่วไปหรือลูกขอทานก็สามารถเข้าเรียนได้”
“แต่อาณาจักรหลู่ของเรา แม้ว่าเราจะให้โอกาสคนทั่วไปได้เป็นข้าราชการในสำนักไป๋เสี่ยวเซิง พวกเขาต้องผ่านการสอบหลายขั้น ถึงจะมีโอกาสสอบ นี่คือช่องว่าง”
หลังจากที่อ๋องหลานหลิงพูดเช่นนั้น ทุกคนต่างเงียบ ท้ายที่สุดแนวคิดด้านการเรียนที่หยั่งรากลึกในอาณาจักรหลู่นั้นเป็นเรื่องยากที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
อ๋องหลานหลิงถอนหายใจเบาๆ และถามออกไปว่า
“เจ้าวางแผนทดสอบผู้สมัครสอบรายนี้อย่างไร?”
ชาชราประสานมือตอบกลับว่า
“พวกเราได้หารือกันแล้วพ่ะย่ะค่ะว่าจะให้ชายคนนี้เขียนนิทานสอนใจต่อ หากเขาสามารถเขียนออดมาได้ดี เขาจะได้รับการเลื่อนขั้นหนึ่งอันดับ”
ฮ่องเต้พอใจกับคำตอบ
“ไม่เลว ส่งต่อคำสั่งทันที ให้เขาเขียนนิทานสอนใจต่อ ข้าเองก็อยากเห็นว่าเขามีขีดจำกัดแค่ไหน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...