คนอื่นๆต่างก็หยุดยืนอยู่ตรงนี้แล้วพากันคุกเข่าลง มีเพียงฮ่องเต้หลู่ที่เดินเข้าไปในลานกว้างหอผู้อาวุโส
บริเวณลานมีต้นโพธิ์หลายต้น มีกิ่งก้านอันเขียวชอุ่มและใบสูง ตรงหน้าประตูมีรูปปั้นกวางหินครึ่งมนุษย์สองตัวตั้งตระหง่านราวกับเทพผู้พิทักษ์ สง่างามและน่าเกรงขามอย่างมาก
ฮ่องเต้หลู่จัดระเบียบตนเองแล้วคุกเข่าลง เขาประสานมือคารวะทำความเคารพต่อตำหนัก
“ผู้เป็นลูกหลานขอพบท่านผู้อาวุโสขอรับ มีเรื่องด่วนต้องการจะรายงาน”
ผู้อาวุโสไม่ได้เผยหน้าตา แต่เสียงอันนุ่มลึกของเขาดังมาทั่วทุกทิศถึงหัวใจของทุกคน
“เรื่องที่เจ้ารายงาน ข้ารู้แล้ว”
ฮ่องเต้หลู่และเหล่าขุนนางต่างก็ตะลึง ท่านผู้อาวุโสรู้แล้วรึเนี่ย สมแล้วที่เป็นท่านผู้อาวุโส ต่อให้ไม่ออกมาก็ยังรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี
“สถานศึกษาไป๋ลู่ปรากฏนักปราชญ์แห่งวรรณกรรมอีกคนแล้ว ทำให้เกิดเรื่องอัศจรรย์อย่างฝูงนกแสวงบุญ ดอกบัวสีทองปรากฏ กวางขาวปรากฏ เป็นความโชคดีของอาณาจักรหลู่ ข้ามีผู้สืบทอดแล้ว”
ซือหม่าจี๋สีหน้าย่ำแย่อย่างมาก เขากัดฟันแย่งพูดว่า “ท่านผู้อาวุโส แต่เขาคือคนอาณาจักรฉิน!”
เมื่อสิ้นเสียงแล้วเสียงดังสนั่นของท่านผู้อาวุโสก็ดังขึ้นทั่วยอดเขา ทำให้ภูเขาเผิงหลายสั่นคลอน
“อะไรนะ! เขาคือคนอาณาจักรฉินรึ!”
เสียงดังกึกก้องอย่างมาก ก้อนหินบนพื้นถึงกับเกิดความสั่นสะท้าน
ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หลู่ หรือขุนนางที่อยู่นอกลานต่างก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะเพราะเสียงนี้ มีขุนนางใหญ่หลายคนที่ร่างกายอ่อนแอจนหมดสติไป
บัดนี้ฮ่องเต้หลู่ใบหน้าเคร่งขรึม บนหน้าผากมีเม็ดเหงื่อที่ไหลลงมา สามารถทำให้ท่านผู้อาวุโสคาดเดาไม่ได้เช่นนี้ ดูท่าเรื่องนี้จะหนักกว่าที่คิดไว้เสียอีก!
เสียงของท่านผู้อาวุโสดังขึ้นอีกครั้ง “นักปราชญ์แห่งวรรณกรรมปรากฏนั้นคือชะตาลิขิต คนผู้นี้มีความสามารถเหนือข้า ข้ากังวลยิ่งนัก”
“นี่มัน......”
ทุกคนล้วนตกใจขวัญหายกันหมด ผู้อาวุโสบอกว่าอาจจะเทียบเฉิงอาหนิวไม่ได้งั้นรึ จะเป็นไปได้อย่างไร?
“ปีนี้ข้ามีอายุสองร้อยแปดสิบห้าปีแล้ว เดิมทียังสามารถมีชีวิตต่อได้อีกสิบเจ็ดปี แต่เมื่อคนผู้นี้ปรากฏตัวแล้วแย่งโชคของข้าไป เกรงว่าจะเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว”
“นี่มัน......”
ทุกคนยิ่งกระวนกระวายมากกว่าเดิม ใกล้จะถึงเวลาของผู้อาวุโสแล้ว นี่มันข่าวร้ายในข่าวร้ายชัดๆ
“แต่พวกเจ้าวางใจเถิด ทุกอย่างมีทางออกเสมอ ก่อนข้าจะขึ้นสวรรค์ ข้าจะสร้างหนทางรอดให้อาณาจักรหลู่แน่นอน ซือหม่าจี๋อยู่ที่นี่ ส่วนคนอื่นๆกลับไปเถิด ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนก็พอ อย่าได้ฝืนชะตาลิขิต”
“ขอรับ”
ฮ่องเต้หลู่เองก็ไม่กล้าถามอะไรมากความ เขาพาเหล่าขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นลงจากเขาไป
เมื่อทุกคนลงจากเขาไปแล้วผู้อาวุโสก็ออกคำสั่งว่า
“ตำราพิชิตชัยสงครามซุนจื่อกล่าวไว้ว่า รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ซือหม่าจี๋ เจ้าจงรีบเขียนจดหมายให้จ้าวเหวินเซิงแห่งสถานศึกษาไป๋ลู่ถ่วงเวลาไว้ ข้าจะได้ถือโอกาสนี้ทำความเข้าใจคนผู้นี้”
“ขอรับ ศิษย์จะเขียนเดี๋ยวนี้”
......
อีกด้านหนึ่ง ณ สถานศึกษาไป๋ลู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...