หลังจากที่กินและดื่มกันมามากพอแล้ว
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา ฉินเหยียนส่งแขกทุกคนกลับ พร้อมกับถามว่า
“เหตุใดสิบสองปิ่นหิรัญย์ยังมาไม่ถึงอีก?”
เขาคำนวณระยะทาง พบว่านี่ก็ใกล้เวลาที่พวกนางจะต้องมาถึงเมืองไป๋ลู่แล้ว เขาหันกลับไปพูดว่า
“เฉิงเซิน เจ้ารีบไปต้อนรับสิบสองปิ่นหิรัญย์ หากพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง เกรงว่าจะสายเกินไป”
เฉิงเซินเกาหัวด้วยความลำบากใจ และรับคำสั่งว่า
“ท่านอ๋องไม่ต้องกังวล ข้าจะรีบทำตามคำสั่งขอรับ”
พูดจบ เขาก็ขี่ม้าไปรับสิบสองปิ่นหิรัญย์ที่ท่าเรือทันที
...
อีกด้านหนึ่ง
เมื่อฮ่องเต้หลู่รู้ว่าเฉิงอาหนิวสามารถตอบคำถามข้อที่สองได้ ทั้งท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเงียบงัน
“ฟ้าสว่างสดใสราวกับกลางวัน ทำเช่นนั้นได้จริงๆ หรือ?”
รายงานกว่าร้อยฉบับถูกวางไว้ตรงหน้าฮ่องเต้หลู่ เขาถามออกไปไม่น้อยกว่าแปดร้อยครั้งแล้วในวันนี้
ใครจะรู้ได้ว่าในเวลานี้ฮ่องเต้หลู่รู้สึกอย่างไร!
จู่ๆ การที่เฉิงอาหนิวปรากฎตัวขึ้น เป็นปาฏิหาริย์จากสวรรค์ และสร้างชื่อเสียงในหมู่ประชาชนไม่มากก็น้อย คงจะดีหากเขาเป็นชาวอาณาจักรหลู่ แต่เขาดันเป็นชาวอาณาจักรฉิน เป็นชาวอาณาจักรฉินนั่นไม่เท่าไหร่ แต่เขาเป็นอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินต่างหาก
“เหอะ!”
“กราบทูลรายงานพ่ะย่ะค่ะ!”
กองทัพป่าหลวงรีบเข้ามายังท้องพระโรงและส่งจดหมายให้ฮ่องเต้หลู่
เขาเปิดอ่านทันที ขมวดคิ้วแน่น สูญเสียความสง่างามไปในทันที!
“สิบสองปิ่นหิรัญย์คนใกล้ชิดจักรพรรดินีอาณาจักรจ้าวมาถึงเมืองไป๋ลู่แล้ว!”
“ใครกันนะ?”
“สิบสองปิ่นหิรัญย์ที่กล่าวกันว่ามีความสามารถไม่น้อยไปกว่าผู้ดูแลหอหลิวอย่างนั้นหรือ?”
“ตอนนี้เลิกเล่นละครแล้วสินะ ในเมื่อสิบสองปิ่นหิรัญย์ถูกเรียกมาที่นี่โจ่งแจ้งเช่นนี้ พวกเขาจะประกาศสงครามกับพวกเราอย่างนั้นหรือ?”
“ในอดีต ชาวอาณาจักรฉินทำลายอาณาจักรจ้าว มีเพียงผู้ดูแลหอหลิวคนเดียวที่โผล่มา แต่ครั้งนี้มาถึงสิบสองคนในคราเดียว! หากมิใช่สงครามแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก!”
เสนาบดีคนหนึ่งออกมาพูดว่า
“ฝ่าบาททรงมีพระปรีชาญาณ พวกเราไม่ต้องนั่งนิ่งรอความตาย หากไม่กำจัดเฉิงอาหนิว จะเกิดปัญหาตามมาไม่รู้จบ! ขอฝ่าบาททรงโปรดสั่งสังหารเฉิงอาหนิวด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้หลู่ยังทันได้พูดอะไรออกมา มีคนออกมาคัดค้านทันที
“ห้ามทำเช่นนั้นเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ! ทุกคนล้วนรู้ดีว่าตัวตนของเฉิงอาหนิวเป็นใคร หากเราใช้กำลังจัดการถือว่าเป็นการหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว!”
“จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาคืออ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน ภัยแล้งเมื่อสามปีก่อนเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย การแก้แค้นหลายคนของชาวอาณาจักรฉิน พวกเราจะต้านทานได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
ชั่วขณะหนึ่ง ในท้องพระโรงเต็มไปด้วยเสียงสนทนาอย่างตื่นตระหนก
“แบบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ตอนนี้ชื่อเสียงของเฉิงอาหนิวเป็นที่รู้จักของประชาชนแล้ว ประชาชนขอให้เขาสถาปนาตนเป็นฮ่องเต้ คงไม่อยากให้ฮ่องเต้ต้องส่งต่อบัลลังก์ให้กับชาวอาณาจักรฉินหรอกใช่หรือไม่?”
สีหน้าของฮ่องเต้หลู่ไม่พอใจมาก อีกทั้งยังพูดอะไรไม่ออก
เรื่องที่บรรดาขุนนางข้าราชการกังวล ก็เป็นเรื่องที่เขากังวลเช่นเดียวกัน เขาไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับเฉิงอาหนิวอย่างไร
เมื่อตอนนี้ทุกอย่างเดินมาสู่ทางตัน ไม่สามารถทำอะไรได้ สารจากท่านผู้อาวุโสก็เดินทางมา
หัวหน้าขันทีรีบยื่นจดหมายให้ฮ่องเต้หลู่ในทันที
ฮ่องเต้หลู่เปิดจดหมายออกมาอย่างประหม่า เห็นตัวอักษรสี่ตัวใหญ่เขียนอยู่บนนั้นว่า
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
...
ไป๋ลู่
เช้าวันรุ่งขึ้น ฟ้าเพิ่งเริ่มสาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...