ในขณะที่ทุกคนถกเถียงกันอย่างดุเดือด ในกลุ่มคนก็มีลุงคนหนึ่งที่อุ้มเด็กผู้หญิงเอาไว้ แล้วถามคนที่อยู่ข้างๆอย่างประหลาดใจว่า
“เจ้าว่าสินสอดร้อยไมล์นี่ให้ใครงั้นรึ?”
ชาวเมืองที่อยู่ข้างๆอธิบายขึ้นว่า “ให้บุตรสาวแห่งตระกูลจ้าว จ้าวจือหย่า!”
เฝิงตู่มองขบวนรถม้ายาวเหยียดแล้วพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “เจ้าแน่ใจรึ?”
ชาวเมืองตอบกลับอย่างกระตือรือร้นว่า “ดูก็รู้ว่าเจ้ามาจากต่างถิ่น เรื่องนี้กระจายออกไปแล้ว รับประกันเลยล่ะ สินสอดส่งมาแล้วจะเป็นเท็จได้อย่างไร”
เฝิงตู่ถอนหายใจยาวๆ
“แย่แล้ว เดิมทีภูเขาไป๋ลู่ก็มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาอยู่แล้ว แถมตอนนี้นางยังเกี่ยวข้องกับผู้ชายร่ำรวยอีก แล้วจะให้ข้าส่งจดหมายให้เขาได้อย่างไร!”
ทหารหน่วยลาดตระเวนได้ยินว่ามีคนพูดว่าส่งจดหมายยากจึงได้หันกลับไปมอง แต่เพราะมันมีมากเกินไป จึงมองไม่เห็นคนเลย แต่คำพูดนี้ก็ได้ทำให้เขานึกออกได้ จึงได้ตบขาอย่างแรง
“เกิดเรื่องใหญ่เพียงนี้ ข้าแค่มาส่งจดหมาย มัวมาดูอะไรกันเนี่ย อย่าเสียเวลาเลยดีกว่า!”
เมื่อคิดดังนั้นแล้วก็รีบขี่ม้าแล้วมุ่งหน้าไปตามขบวนรถที่มองไม่เห็นปลายแถว เข้าไปในเมืองไป๋ลู่
ผู้คนในเมืองตกตะลึงเมื่อเห็นขบวนส่งของหมั้นที่ทอดยาวจากประตูเมืองไปยังตีนเขาไป๋ลู่ เป็นระยะทางหลายสิบไมล์ไปถึงนอกเมือง มีเพียงคนที่ได้เห็นกับตาเท่านั้น ที่จะรู้ว่ามันน่าตะลึงแค่ไหน
ทหารหน่วยลาดตระเวนตกตะลึงอย่างมาก ไม่คิดว่าการสมรสของบุตรสาวตระกูลจ้าวจะทำทั้งเมืองเอิกเกริกขนาดนี้
ขบวนรถม้าทอดยาวไปจนถึงตีนเขาไป๋ลู่ เนื่องจากภูเขาสูงชัน รถม้าจึงขึ้นไปไม่ได้ และมีเหล่าคนงานที่พากันยกหีบขึ้นไปเรื่อยๆ คนที่ต่อแถวยกของทอดยาวกันอย่างมาก ทหารหน่วยลาดตระเวนตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก และมีเสียงพึมพำของผู้เล่าเรียนรอบๆพูดขึ้นว่า
“เฉิงอาหนิวบ้าไปแล้วรึไง เขาเป็นเขยแต่งเข้าตระกูลนะ เหตุใดจึงยังเตรียมของหมั้นมากมายเพียงนี้?”
“ใครจะไปรู้เล่า มีเงินมากมายเพียงนี้จะมาเป็นเขยแต่งเข้าอีกทำไม อย่าว่าแต่สินสอดร้อยไมล์เลย แค่หนึ่งไมล์ก็สามารถดึงเส้นสายของตระกูลจ้าวมาได้ทั้งหมดแล้ว”
“ไม่รู้ว่าสมองของเขามีอะไรอยู่เลย! เงินพวกนี้อยู่กับเขาสิ้นเปลืองสิ้นดี!”
......
สถานศึกษาไป๋ลู่
เมื่อจ้าวเหวินเซิงเห็นสินสอดของหมั้นที่กองเต็มภูเขาอยู่ในลาน เขาก็รู้สึกขนลุกไปหมด และมองไปยังฉินเหยียนด้วยสีหน้าประหลาดใจแล้วถามขึ้นว่า “นี่เจ้าทำอะไร?”
ฉินเหยียนยิ้มอย่างภูมิใจ “นี่คือน้ำใจเล็กๆน้อยๆของลูกเขย เป็นน้ำใจเล็กน้อยที่มาจากใจมากกว่า อย่างไรท่านพ่อตาอย่าได้รังเกียจเลยนะ”
จ้าวเหวินเซิงพูดอย่างประหลาดใจว่า “ข้าเข้าใจเรื่องน้ำใจ แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ มันเต็มสถานศึกษาไปหมดแล้ว”
ฉินเหยียนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “นี่เป็นเพียงเล็กน้อย อย่างไรหากจะสู่ขอบุตรสาวของท่าน จะทำให้ท่านเสียหน้าได้อย่างไรกัน”
เมื่อจ้าวเหวินเซิงได้ยินว่าเล็กน้อยก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...