เมื่อจ้าวเหวินเซิงอ่านจบแล้วก็แทบจะหมดสติไป
ทั้งหมดล้วนเป็นของที่คนอื่นเขาไม่ต้องการแล้ว เขายังเห็นเป็นสมบัติอีก! อย่างไรเขาก็เป็นถึงรองหัวหน้าคณะแห่งสถานศึกษาไป๋ลู่อาณาจักรหลู่เชียวนะ บังอาจใช้ของที่ไม่ต้องการแล้วมาให้เขา จงใจเย้ยหยันเขาไม่ใช่รึ!
จ้าวเหวินเซิงโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เมื่อครู่ยังชื่นชอบลูกเขยคนนี้ แต่ตอนนี้ยิ่งมองก็ยิ่งเดือดดาล มากเสียจนไม่อยากจะพูดกับฉินเหยียนอีกแม้แต่คำเดียว เขาดึงหน้าสะบัดจดหมายใส่ฉินเหยียน จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป
ฉินเหยียนมองแผ่นหลังของชายชราที่เดือดดาลแล้วก็พูดพึมพำอย่างสงสัยว่า
“ช่างเป็นชายชราที่แปลกจริงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย”
......
อีกด้านหนึ่ง
เมื่อซือหม่าจี๋เห็นสินสอดของหมั้นในลานแล้วถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออก เขาค่อยๆเดินมายังที่พักของจ้าวเหวินเซิง เมื่อเข้ามาแล้วก็เห็นว่าจ้าวเหวินเซิงกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ จึงได้ถามอย่างประหลาดใจว่า
“ในลานนั่นมันอะไรกัน เหตุใดจึงมีสินสอดของหมั้นมากมายเพียงนั้น?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้จ้าวเหวินเซิงก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ สีหน้าของเขาแย่กว่าเดิม จากนั้นก็พูดสิ่งที่ไม่พอใจออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ เขาโกรธจนตบหน้าขาตนเอง
“เขาจงใจเย้ยหยันข้าชัดๆเลยไม่ใช่รึไง!”
ซือหม่าจี๋เองก็สีหน้าจนปัญญา เขารู้อยู่แล้วว่าอาณาจักรฉินร่ำรวย แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้ แม้แต่เครื่องแก้ว ผ้าไหมที่มีมูลค่าสูงเหมือนเมืองเมืองหนึ่ง ก็สามารถเอาออกมาได้นับหมื่นหีบเช่นนี้
เขาถอนหายใจยาวๆแล้วพูดว่า “ใช่ว่าเขาเย้ยหยันเจ้า เห็นได้ชัดว่ากำลังโอ้อวดกำลังทรัพย์กับเรา เย้ยหยันอาณาจักรหลู่!”
สีหน้าของจ้าวเหวินเซิงแย่กว่าเดิม และด่าทอว่า “เหิมเกริมเกินไปแล้ว!”
ซือหม่าจี๋ครุ่นคิดแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หากเขาแค่ให้สินสอดของหมั้นก็แล้วไป แต่หากเขาคิดจะสร้างเรื่อง เกรงว่ารายงานของเราจะมีความผิดพลาด และต้องรีบรายงานต่อพระราชสำนักให้เร็วที่สุด”
เมื่อเขาพูดเช่นนั้นแล้วจ้าวเหวินเซิงก็ตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ เมื่อครู่นี้เอาแต่เดือดดาลจนเกือบจะลืมรายละเอียดสำคัญเช่นนี้ไปเลย เลยรีบพูดว่า
“เช่นนั้นก็รีบส่งจดหมายนกพิราบ กราบทูลเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเถิด”
ซือหม่าจี๋ส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดว่า “การส่งจดหมายนั้นมีข้อจำกัด ไว้วันพรุ่งนี้เช้าข้าไปพระราชสำนักแล้วรายงานเรื่องนี้แก่ฝ่าบาทด้วยตนเองจะดีกว่า”
“สหายซือหม่าช่างรอบคอบยิ่งนัก”
จากนั้นจ้าวเหวินเซิงก็ได้ให้ทางครัวเตรียมอาหารและเหล้ามา ทั้งสองกินดื่มและพูดคุยกันใต้แสงเทียน ใช้เวลาทั้งคืนเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบัน จนกระทั่งเช้าวันที่สอง ซือหม่าจี๋จึงรีบเตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังพระราชสำนัก
เมื่อออกไปแล้วก็พบว่า ในหนึ่งวันหนึ่งคืนสินสอดของหมั้นยังขนย้ายมาไม่หมด กองเต็มภูเขาไป๋ลู่ไปหมด จนแทบจะปิดกั้นประตูใหญ่แล้ว
ซือหม่าจี๋รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก แต่ก็รีบขึ้นหลังม้าตัวใหญ่แล้วมุ่งหน้าไปยังพระราชสำนักทันที หลังจากการเดินทางอันยาวนานถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน ในที่สุดก็ได้มาถึงเมืองหลวงแล้ว เขาไม่กล้าหยุดพักเลยแม้แต่วินาทีเดียว รีบเดินไปยังตำหนักจินหลวนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...