ครึ่งเดือนต่อมา
วันนี้เป็นวันเปิดห้องสมุดที่ก่อตั้งโดยหลิวหรูซือและเฉียนเชียนอี้
ฉินเหยียนได้รับเชิญจากหลิวหรูซือมาเป็นคนเปิดงาน
ในเวลานี้มีประชาชนจำนวนมากมารวมตัวหันหน้าห้องสมุดวั่งเจียง มีเสียงตีกลอง เชิดสิงโตดังขึ้น ทำให้บรรยากาศที่นี่มีชีวิตชีวามาก
ได้เตรียมผ้าสีแดงสำหรับตัดเปิดพิธี เมื่อถึงช่วงเวลาอันเป็นมงคล เฉียนเชียนอี้ หลิวหรูซือ และฉินเหยียนต่างหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดผ้าสีแดง
ฉินเหยียนประกาศเสียงดัง
“ห้องสมุดวั่งเจียงได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว!”
“ปังๆๆ”
เสียงประทัดดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วฟ้า
หลังจากเฉียนเชียนอี้และหลิวหรูซือยุ่งอยู่กับการให้บริการแขก ฉินเหยียนกลับไปที่จวนเจ้าเมือง
เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานและอ่านรายงานล่าสุดอย่างรอบคอบ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ที่หัวถิงในช่วงเวลานี้ แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างปกติ
ในเวลานี้หลิวเชียนเชียนรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว คุกเข่าลงและรีบรายงานทันที
“ท่านอ๋อง ข้าอาจจะทำผิดหรือไม่ก็เข้าใจผิด แต่ข้าเจอปัญหาบางอย่างที่ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีเจ้าค่ะ”
หลิวเชียนเชียนมักจะทำอะไรอย่างรวดเร็วเสมอ ไม่เคยผัดวันประกันพรุ่ง ฉินเหยียนไม่เคยเห็นนางดูไม่มั่นคงเช่นนี้มาก่อน จึงถามออกไปอย่างสงสัย
“ตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”
หลิวเชียนเชียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดถึงเบาะแสที่นางเจอ
“ในปีนั้นตอนที่พวกข้าถูกโจรสลัดปล้น แม้ว่าเรือจะถูกไฟไหม้ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าลูกสาวของท่านอ๋องยังมีชีวิตอยู่เจ้าค่ะ อย่างก็ตามเบาะแสกลับหายไปอีกครั้ง ตอนนี้องค์หญิงน้อยหายตัวไปอีกแล้ว”
หลังจากฟังรายงานจากหลิวเชียนเชียนแล้ว ฉินเหยียนพลันตกใจในทันที ไม่แปลกใจเลยที่จ้าวจือหย่ามักจะละเมอตลอดว่าลูกสาวยังไม่ตาย หากเป็นเช่นนั้น บางทีลูกสาวของพวกเขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่
“เจ้าแน่ใจหรือว่าลูกสาวข้าถูกชายแขนข้างเดียวพาตัวไป?”
“รายงานแน่ชัดมากเจ้าค่ะ”
ฉินเหยียนจำสิ่งที่จ้าวจือหย่าพูดก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เพียงแค่เห็นชายแขนข้างเดียวอุ้มเด็ก นางจำได้ทันทีว่านั่นคือลูกสาวตัวเอง
ฉินเหยียนถามอย่างสงสัย
“เจ้าพอรู้หรือไม่ว่าชายแขนข้างเดียวคนนั้นคือใคร?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของหลิวเชียนเชียนพลันไม่สู้ดีนัก นางพูดเสียงต่ำ
“อดีตนักฆ่าที่มีชื่อเสียงที่สุดในใต้หล้า กงซุนอู๋หมิง”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?”
ฉินเหยียนอึ้งไปอีกครั้ง แม้ว่าไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้เจอกันอีกเมื่อไร แต่เฝิงตู่เป็นคนที่ฉินเหยียนไว้ใจได้ เขารู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวกัน
“ข้ารู้จักกงซุนอู๋หมิง หากลูกสาวข้าอยู่กับเขา นางจะต้องปลอดภัย เจ้ารีบติดต่อเจียงหูให้ตำหนักอ๋องเหยียนออกไปตามหากงซุนอู๋หมิงและคอยปกป้องเขา”
หลิวเชียนเชียนยกมือขึ้นรายงานว่า
“หลังจากที่ข้าทราบข่าว ข้าได้กระจายข่าวออกไปแล้วเจ้าค่ะ แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ข้าเพิ่งได้รับรายงานมาว่า ตอนนี้ตำหนักยมราชของพวกเราได้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งตกอยู่ในการปกครองของเรา อีกฝ่ายยังอยู่ในความปกครองของหัวหน้าคนเก่าเจ้าค่ะ”
“นักฆ่าในตำหนักยมราชได้แอบไล่ตามกงซุนอู๋หมิงและพยายามลักพาตัวเด็กเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินว่ามีคนต้องการทำร้ายลูกสาวของเขา ร่างกายฉินเหยียนสั่นเพราะความโกรธ ในสายตาเขามีแต่เจตนาฆ่า
“พวกมันกล้าทำร้ายลูกสาวข้า”
หลิวเชียนเชียนสัมผัสได้ถึงความโกรธของฉินเหยียน จึงถามออกไปว่า
“เรื่องนี้เรื่องใหญ่มากเจ้าค่ะ แต่ข้าเองก็ไม่ทราบว่าต้องทำเช่นไรเจ้าค่ะ ขอให้ท่านอ๋องได้โปรดตัดสินใจ”
ในสายตาของฉินเหยียนเต็มไปด้วยควาฒโกรธ เขาตอบกลับอย่างเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...