ในขณะที่เฝิงตู่ครุ่นคิดอย่างสงสัยแล้ว ก็ได้ยินมีเสียงตะคอกอย่างเดือดดาลดังมาจากในเต็นท์
“ผู้ว่าราชการจังหวัดเมืองอี้คือคนโปรดของฝ่าบาทเชียวนะ เป็นแค่นักฆ่าแห่งยุทธภพที่ต่ำต้อย บังอาจลงมือกับคนโปรดของฝ่าบาทได้ คงจะได้ใจเกินไปแล้ว! ออกคำสั่งของข้าไป เสนอรางวัลเงินหนึ่งหมื่นตำลึงให้หาตัวกงซุนอู๋หมิงซะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้นเฝิงตู่ก็ใบหน้าตึงเครียดทันที เขารีบปิดหน้าปิดตาแล้วโค้งตัวพาซวงเอ๋อร์เข้าไปในส่วนลึกของค่ายเงียบๆ เมื่อกลับไปถึงที่พักแล้ว เฝิงตู่ก็โล่งอก
เดิมทีคิดว่าจะเปลี่ยนที่อยู่ แต่ไม่คิดเลยว่ายังไม่ทันได้เคลื่อนไหวก็ถูกประกาศจับแล้ว อยู่เฉยๆก็มีปัญหาเข้ามา ถูกแอบอ้างแล้วยังไปสังหารข้าราชการแห่งพระราชสำนักอีก ทำเอาเขารับมือไม่ทันเลย
คำสั่งยุทธภพให้รางวัลหนึ่งหมื่นตำลึงทอง คำสั่งพระราชสำนักให้รางวัลหนึ่งหมื่นตำลึงเงิน ด้วยราคาค่าหัวของเขาในตอนนี้ ขนาดเขาเองยังอยากจะตัดศีรษะตัวเองไปแลกเงินเลย! ในขณะเดียวกันก็คาดเดาไปด้วย ว่าใครกันแน่ที่แอบอ้างเป็นเขา
ซวงเอ๋อร์มองแป้งอบแล้วน้ำตาคลอ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“ท่านโกนหัวข้า แล้วยังไม่ซื้อของอร่อยให้ข้าอีก ให้ข้าทานเพียงแป้งแห้งๆเช่นนี้ ท่านพ่อพูดแล้วไม่คำไหนคำนั้น ไม่อยากจะสนใจท่านพ่ออีกแล้ว!”
บัดนี้เฝิงตู่รู้สึกสับสนไปหมด สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ละเรื่องในช่วงเวลาใกล้ๆนี้เหนือความคาดเดาของเขาไปหมด ทำเขาไม่อาจคาดคิดได้เลย เขาพูดอย่างเหม่อลอยว่า
“มีให้ทานก็ทานเถิด”
เขาฉีกแป้งอบเข้าปากแล้วคิดในใจว่า ใครเป็นคนแอบอ้างเขากันแน่?
ไม่กี่วันถัดมา ในค่ายทหารได้ส่งกำลังทหารและม้าออกไปมากมาย เพื่อที่จะจับกงซุนอู๋หมิงมาให้ได้
เมื่อเฝิงตู่ครุ่นคิดแล้วก็เลือกที่จะแอบซ่อนตัวในค่ายทหารแล้วทำงานตีเหล็กต่อไป อย่างไรใต้แสงไฟก็มืดมิด บางทีที่ที่อันตรายที่สุดอาจเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
และตอนที่อยู่ในค่ายทหาร เขาก็ได้ยินเหล่าทหารที่กลับค่ายพูดถกเถียงกันเรื่องกงซุนอู๋หมิงที่แอบอ้างเป็นเขาเป็นครั้งคราว
“นักฆ่าอันดับหนึ่งกงซุนอู๋หมิงสมกับฉายาของเขาจริงๆ มีใครไล่จับเขามากมายก็ยังหนีรอดไปได้ ทำให้เกิดบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย”
“นั่นสิ ข้าได้ยินมาว่ากงซุนอู๋หมิงสังหารคนอย่างง่ายดาย มีบทกวีที่กล่าวว่า สังหารคนได้ภายในสิบก้าว ต่อให้เดินทางไปหลายพันไมล์ก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ เมื่อทำการใหญ่แล้วก็เดินหายไป ซ่อนนามและผลงานเอาไว้”
เฝิงตู่ตีเหล็กและแอบฟังไปด้วย เมื่อได้ยินบทกวีที่พวกเขาเขียนให้เขา เขาก็รู้สึกภูมิใจและยิ้มแย้มอย่างไม่รู้ตัว แม้แต่ตอนที่ตีเหล็กก็ออกแรงไปมากแบบไม่ทันรู้ตัว
“เจ้าเฝิง เจ้ายิ้มอะไรของเจ้า เบื้องบนได้ออกคำสั่งทหารมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะต้องตีอาวุธอย่างน้อยสิบด้าม”
“ได้เลย!” เฝิงตู่ตอบรับไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นก็ดึงสติกลับมาได้
“เท่าไรนะ! อาวุธสิบด้ามรึ บ้าไปแล้วรึไง?”
“คำสั่งจากเบื้องบน ข้าจะทำอย่างไรได้เล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...