องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 88

ฉินเหยียนยิ้มแล้วโยนเงินแท่งให้กับผู้ดูแลศาลพักม้า พร้อมพูดเสียงเบาว่า

“นี่คือการแสดงความเคารพต่อท่าน สหายข้าผู้นี้เพิ่งมาใหม่ยังไม่รู้กฎ ทำให้ขายหน้าไปได้ ช่วยกรุณาหน่อยละกันนะ อีกไม่กี่วันหากเตี๊ยบบุ๊งมาถึงแล้วเราจะไปทันที จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้”

ดังคำกล่าวที่ว่าเงินสามารถทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่โบราณจนปัจจุบัน ก็ยังไม่มีเรื่องที่เงินแก้ปัญหาไม่ได้

ผู้ดูแลศาลพักม้าเห็นว่าฉินเหยียนพูดจาไพเราะ แถมยังจ่ายหนัก จึงไม่ทำให้ลำบากใจอีก และแล้วเขาก็รับเงินแท่งไว้แล้วพูดอย่างเกรงอกเกรงใจมากขึ้น “ค่อยคุยกันได้หน่อย รีบทำเตี๊ยบบุ๊งละกัน”

ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “ขอบพระคุณมากท่าน”

จากนั้นเขาก็โบกมือ และแล้วคนนับร้อยก็ได้เข้าไปยังศาลพักม้าสำเร็จ ศาลพักม้าเปรียบเสมือนเมืองเล็กๆ มีพื้นที่หลายพันตารางเมตร

มีร้านขายของราวสิบกว่าร้าน มีทั้งโรงเหล้า ร้านอาหาร แผงขายน้ำชา ร้านค้า โรงรับจำนำ ร้านตีเหล็ก และคอกม้าครบถ้วน เรียกได้ว่า ถึงแม้นกกระจอกจะตัวเล็ก แต่ก็มีอวัยวะภายในครบถ้วน!

เมื่อถึงเวลากลางคืน ทุกคนก็ได้มายังโรงเหล้าของศาลพักม้า ชั้นที่หนึ่งเป็นที่สำหรับพักทานอาหาร มีผู้คุ้มกันขนส่งรวมถึงคนเร่ขายมากมายกำลังพูดคุยและดื่มเหล้ากันอยู่

บริกรเดินมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้นว่า “ลูกค้ากี่ท่านขอรับ พักทานอาหารหรือค้างคืนขอรับ?”

ฉินเหยียนวางเงินสิบหนึ่งตำลึงเงินลงบนโต๊ะแล้วพูดเสียงเรียบว่า “จัดห้องให้พวกข้าหน่อย ให้สหายของข้าได้พักห้องที่กว้างขวาง”

บริกรตาเป็นประกายทันที แม้จะบอกว่าผู้คุ้มกันจ่ายหนัก แต่จ่ายหนักมากขนาดนี้หาได้ยากมาก เขารับเก็บเงินเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วพาพวกฉินเหยียนเดินไปยังชั้นสอง

“ขอรับ ทุกคนเชิญทางนี้!”

เมื่อเปิดห้องกันเรียบร้อยแล้ว บริกรก็ได้ลงไปต้อนรับลูกค้าที่ไปๆมาๆต่อ

เหล่าทหารหัวกะทิฉวยโอกาสตอนที่คนไม่ทันสังเกต พาจ้าวจีเอ๋อร์ไปยังห้องนอนของฉินเหยียน

จ้าวจีเอ๋อร์ได้คิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆนาๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าฉินเหยียนจะพานางมาที่ศาลพักม้า สถานที่ที่ทั้งสกปรกและเหม็นเช่นนี้ นางถามขึ้นว่า “ เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไม?”

ฉินเหยียนยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า “ที่พาเจ้ามาที่นี่ ก็เพราะจะให้เจ้ามาเห็นว่าข้าจับไส้ศึกอาณาจักรจ้าวของเจ้าไงล่ะ นางทาส!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วเขาก็ยื่นมือไปจับใบหน้าของจ้าวจีเอ๋อร์

จ้าวจีเอ๋อร์หลบอย่างตื่นตระหนก แต่มือเท้าของนางถูกมัดเอาไว้ ดิ้นไม่หลุดและตอบโต้ไม่ได้

ฉินเหยียนหลุดหัวเราะออกมาแล้วชักมือกลับ “ยังคิดจะขัดขืนอีกนะ จะบอกความจริงให้นะ พอตกมาในเงื้อมมือของข้าแล้ว นอกจากยอมรับชะตากรรมแล้วเจ้าไม่มีทางเลือกอื่น”

จ้าวจีเอ๋อร์อึ้งไปครู่หนึ่ง เมื่อก่อนนางไม่เพียงแต่จะมีความงามที่ล่มเมืองได้ มีหุ่นสวยอย่างที่สุด แถมยังเป็นหญิงในฝันชายอาณาจักรจ้าว มีคนมากมายที่พยายามอยากได้นางมาครอง

แต่สภาพในตอนนี้ ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาคนเดียว เขาเงยหน้าจ้องฉินเหยียนอย่างดื้อรั้น แล้วกัดฟันพร้อมพูดว่า

“เจ้าคนชั่วน่ารังเกียจ วันหนึ่งข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!”

ฉินเหยียนเบ้ปาก “จุ๊ๆๆ พูดจาอวดดีจริงๆ เทียบกับเรื่องจะฆ่าข้า เจ้าคิดหาที่นอนในคืนนี้ให้ได้ก่อนจะดีกว่า”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วเขาก็เดินออกจากห้องนอนไปทันที จ้าวจีเอ๋อร์มองไปรอบๆ ห้องนี้มีเตียงใหม่เพียงเตียงเดียว นี่หรือว่าคืนนี้จะต้องนอนพื้น......

ฉินเหยียนพาต้าหย่งลงมาชั้นล่าง ทั้งสองหาที่โต๊ะที่อยู่มุมแล้วนั่งลง

ต้าหย่งพูดเสียงดังว่า “บริกร ยกเหล้ามาสักไห!”

“ขอรับ!” บริกรรีบยกเหล้าไหหนึ่งมาให้อย่างกระตือรือร้นทันที

“เหล้าของท่านห้าสิบอีแปะขอรับ”

ต้าหย่งกะพริบตาปริบๆ โห นี่มันแค่เหล้าธรรมดาๆไหหนึ่งเท่านั้นนะ ห้าสิบอีแปะเลยงั้นรึ! มิน่าผู้ดูแลศาลพักม้าถึงบอกว่าหนึ่งตำลึงเงินยังไม่พอค่าน้ำชา ราคาสิ่งของต่างๆที่นี่แพงกว่าในเมืองหลายเท่าเลย

ฉินเหยียนหยิบหนึ่งตำลึงเงินออกมา “นำอาหารและเหล้ารสเลิศทุกอย่างมา ที่เหลือให้เจ้า”

บริกรรับเงินมาอย่างยิ้มแย้ม และได้พูดอย่างมีความสุขว่า “ขอบพระคุณขอรับท่าน หากมีอะไรต้องการรับสั่งสามารถเรียกได้ตลอดเลยนะขอรับ”

ฉินเหยียนเทเหล้าหนึ่งจอก จากนั้นก็จิบหนึ่งคำ

จิ๊ สาเกนี่ไม่มีรสชาติเลย ฉินเหยียนมองไปรอบๆและฟังเนื้อหาที่เหล่าลูกค้าพูดคุยกัน เห็นได้ชัดว่าชายร่างใหญ่สองคนข้างๆที่อยู่โต๊ะข้างๆร่วมโต๊ะกัน กำลังคุยแก้เขินกันอยู่

“สหาย พวกเจ้าจะไปที่ไหนรึ?”

เมื่ออีกฝ่ายถามมาจุงได้ตอบกลับด้วยภาษาถิ่นว่า “ที่ๆข้าจะไปไกลมากเลยล่ะ ดูรองเท้าข้าสิ ก่อนออกมาเมียข้าให้มา ดูตอนนี้สิพื้นรองเท้าจะชำรุดแล้ว!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วยังยกเท้าขึ้นให้อีกคนดูด้วย

ชายอีกคนก็เป็นชายที่หยาบกระด้างเช่นกัน เขาคร่อมเท้าคนๆนั้นเพื่อดูอย่างตั้งใจ “โอ้ จริงด้วย จะเสียแล้วนะเนี่ย นี่เจ้าเดินทางมาไกลแค่ไหนกันเนี่ย!”

ชายร่างใหญ่ที่พูดภาษาถิ่นพูดอย่างภาคภูมิว่า “นี่ข้าไม่ได้อยากจะโม้หรอกนะ ข้าเดินทางจากแมนจูถึงด่านเจียยวี่ พอถึงที่นี่ถึงจะได้พัก ในระหว่างทางข้าพบเจออันตรายมากมาย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะดาบหลิวเย้ของข้า คงตายไปในระหว่างทางแล้ว”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ได้เอาดาบหลิวเย่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ ถามยังใช้นิ้วมือดีดให้มีเสียงดังขึ้นที่ตัวดาบด้วย ใบมีดส่งเสียงคมชัด

ชายหยาบกระด้างมองดาบหลิวเย่อย่างอิจฉาแล้วพูดอย่างตะลึงว่า “โอ้ ดาบนี่ดูแล้วสุดยอดไปเลย!”

เมื่อฉินเหยียนได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองไปยังดาบหลิวเย่ของชายร่างใหญ่ทันที ประสาทสัมผัสที่เฉียบไวของเขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์