องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 89

ฉินเหยียนหันมาพูดเสียงเบากับต้าหย่งว่า “ดาบที่เจ้าพกมาคืออาวุธที่ได้มาจากหออี๋หงได้ใช่ไหม?”

ต้าหย่งพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ ทำไมรึพ่ะย่ะค่ะ?”

ฉินเหยียนกระดิกนิ้วเพื่อให้ส่งดาบพกของต้าหย่งมา เขาถือไว้ในมือแล้วมองพิจารณาแล้วถามไปด้วยว่า “เจ้าคิดได้อย่างไรว่าจะใช้ดาบของหออี๋หงมาป้องกันตัว?”

ต้าหย่งพูดความจริงว่า “ครั้งนี้เราปลอมตัวเป็นผู้คุมกันขนส่งนี่พ่ะย่ะค่ะ หากถือดาบทางการออกมาเดินโจ่งแจ้งคนอื่นก็รู้กันหมดพอดี แต่หากใช้ดาบที่ยึดมาได้จากหออี๋หง คนอื่นก็จะไม่รู้ว่าเราเป็นใคร”

แม้ฉินเหยียนจะเป็นสายลับระดับสูง แต่เขาก็มีความรู้ด้านอาวุธไม่มากนัก หากเป็นอาวุธปืนหรือเทคโนโลยีขั้นสูงละก็ เขาชำนาญอย่างมากเลยล่ะ แต่ถ้าให้แบ่งแยกความแตกต่างระหว่างดาบโบราณ เขาก็ไม่มีความรู้เลย

แต่ต้าหย่งคือทหารระดับสูง เรื่องดาบและวิชาเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา

ฉินเหยียนถามต่อว่า “ไหนเจ้าลองบอกข้าสิ ดาบที่เจ้าพกปกติ และดาบของหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าวแตกต่างกันอย่างไร หากเจ้าบอกได้หนึ่งอย่าง ข้าก็จะให้เจ้าหนึ่งตำลึงเงิน

ดวงตาของต้าหย่งเป็นประกายทันที “ท่าน ท่านพูดจริงรึพ่ะย่ะค่ะ?”

ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “ตรัสคำไหนคำนั้น แต่เจ้าจะได้เท่าไรก็ต้องดูความสามารถเจ้าแล้วล่ะ”

ต้าหย่งหัวเราะอย่างดีใจ “ถ้าเช่นนั้นวันนี้ท่านคงต้องเสียเยอะแล้วล่ะ!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว เขาก็ได้ถอดดาบหลิวเย่บนตัวออกมา แล้วดีดไปยังใบดาบสองที จากนั้นก็ใช้นิ้วโป้งรูดไปยังคมดาบเบาๆ ถึงขนาดใช้จมูกเพื่อดมกลิ่น เขาสำรวจอย่างละเอียดมาก

จากนั้นเขาก็พูดว่า “ดาบเล่มนี้เป็นดาบหลิวเย่ มักใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวของผู้คุมกันขนส่ง เป็นดาบที่ไส้ศึกอาณาจักรจ้าวทำการตีขึ้น มาว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ตีหรือฝีมือ ล้วนมีความแตกต่างจากดาบทางการอย่างสิ้นเชิง ท่านดูนี่สิ”

ต้าหย่งพูดไปด้วยแล้วชี้ไปยังตัวดาบหลิวเย่ไปด้วย “เพียงแค่ใช้นิ้วดีดไปก็จะส่งเสียงที่หนักอึ้ง ตีด้วยเหล็กหลอม ส่วนดาบทางการของทหารนั้นใช้เนื้อดีทั้งนั้น เหล็กเนื้อดีไม่แพร่หลายสู่ภายนอกพ่ะย่ะค่ะ ดังนั้นอาวุธดาบทั่วไปส่วนใหญ่จะตีด้วยเหล็กหลอมพ่ะย่ะค่ะ”

แล้วเขาก็เอาหลังดาบให้ฉินเหยียนดู

“เมื่อดูจากความหนาและเนื้อสัมผัสแล้ว ดาบเล่มนี้ใช้การตีดาบชนิดแปดชั้น ช่างตีเหล็กจะต้องเผาเหล็กให้แดงก่อน จากนั้นจึงตอกให้หนาพอประมาณ หลังจากพับครึ่งแล้วเขาก็เผามันและทุบมัน ทำซ้ำสามครั้งเพื่อรีดชั้นทั้งแปดออกมา เป็นดาบที่ถูกทุบตีนับร้อยพันครั้งจนออกมาเป็นรูปทรงดาบพ่ะย่ะค่ะ”

“ขั้นตอนสุดท้ายคือการชุบไฟ นี่เป็นขั้นตอนที่ทดสอบทักษะอย่างมาก หากชุบไฟได้ดีก็เป็นดาบที่ดี แต่หากชุบไม่ดีบนดาบก็จะแหว่ง ซึ่งต้องทำการตีใหม่”

“ด้วยเหตุนี้กระบวนการตีมีดประเภทนี้จึงซับซ้อนมาก ทำให้ไม่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นอาวุธดาบเช่นนี้ส่วนใหญ่จึงทำโดยช่างตีเหล็กระดับปรมาจารย์พ่ะย่ะค่ะ และด้ามดาบทางการนั้นทำจากไม้ไหว แต่ดาบเล่มนี้ใช้ไม้หวงฮวาหลีทั่วๆไปพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อพูดแล้วเขาก็หมุนดาบแล้วเขารูดคมมีดเบา ๆ แล้วพูดว่า “ท่านดูตรงคมมีดไม่มีรอยหรือรูเลย แสดงว่าดาบเล่มนี้ไม่เคยถูกใช้งานไม่เคยเปื้อนเลือดมาก่อน แล้วดูที่ดาบหลิวเย่ของผู้คุ้มกันโต๊ะนั้น มีสองรู นี่คือร่องรอยที่เหลือจากการต่อสู้กับผู้อื่นพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนเงยหน้ามองไป ดาบหลิวเย่ของชายร่างใหญ่ที่พูดภาษาถิ่นมีรูสองรูจริงๆ จึงได้พยักหน้า โชคดีที่ต้าหย่งอยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นก็คงสับสนจริงๆ

“ข้าน้อยได้กล่าวไปห้าหกข้อแล้ว ที่ท่านกล่าวไว้ยังถือเป็นจริงรึไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ฉินเหยียนหลุดหัวเราะแล้วล้วงสิบตำลึงเงินออกมาให้ต้าหย่ง “แน่นอน นี่เป็นรางวัลให้เจ้า!”

ต้าหย่งรับตำลึงเงินมาแล้วกล่าวขอบคุณ “ขอบพระทัยอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ! ข้าน้อยจะรับใช้ท่านอย่างหนัก หากครั้งหน้ามีเรื่องดีๆเช่นนี้อีกก็ถามข้าน้อยได้เลย!”

ในขณะที่ทั้งคู่คุยกัน ทั้งเหล้าและอาหารก็ถูกยกขึ้นมาเกือบหมดแล้ว เมื่อได้รับการอธิบายของต้าหย่ง ฉินเหยียนก็มีความเข้าใจต่อดาบมากขึ้น และเขาก็มีความคิดใหม่ขึ้นมา

จากนั้นจึงได้ให้สิบตำลึงเงินกับต้าหย่งอีก แล้วบอกกับเขาว่า “เจ้าไปรับสั่งเหล่าสหายว่าให้หาร้านตีดาบละแวกนี้ แล้วตรวจดูว่ามีดเล่มนี้อยู่ที่ไหนบ้าง”

ต้าหย่งขมวดคิ้วแน่น รู้สึกไม่เต็มใจนัก “ไม่เห็นต้องทำให้ยากเพียงนั้นเลยพ่ะย่ะค่ะ อาณาจักรฉินของเราเป็นผู้ดูแลควบคุมอาวุธดาบ หากอยากจะตรวจสอบที่มาของดาบเล่มนี้ สามารถถามจากทะเบียนราษฎร์กรมโยธาธิการได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนทำเสียงเย็นชา “งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย หากเป็นเจ้าที่แทรกซึมเข้ามาในอาณาจักรฉิน ต้องการกักตุนดาบจำนวนมาก เจ้าจะลงบันทึกเอาไว้รึไม่?”

ต้าหย่งเกาศีรษะ “คงไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ถูกต้อง ในเมื่อหน่วยกล้าตายแห่งอาณาจักรจ้าวแทรกซึมอยู่ในอาณาจักรฉินถึงสามปีแล้ว หากจดบันทึกจำนวนการผลิตดาบและจำนวนที่ขายดาบไปยังกรมโยธาธิการ หากโดนสืบหาขึ้นก็แผนแตกหมดใช่รึไม่?”

“ใช่แล้ว มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทำเช่นนั้น”

ต้าหย่งเข้าใจทันที “เข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ อ๋องเหยียนช่างชาญฉลาดยิ่งนัก เหตุใดข้าจึงคิดไม่ถึงกันนะ”

“จำไว้ให้ดี” ฉินเหยียนกระดิกนิ้ว แล้วกระซิบข้างหูต้าหย่ง “ร้านตีเหล็กคงถูกไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก และแอบทำการตีดาบพวกนี้เงียบๆ บอกกับสหายของเราว่าหลังจากหาเจอแล้วห้ามทำให้พวกเขาไหวตัว ร้านตีเหล็กนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นไส้ศึกของอาณาจักรจ้าว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ต้าหย่งศรัทธาฉินเหยียนอย่างมาก เพียงแค่ดาบเล่มเดียวก็สามารถวิเคราะห์ได้มากมายถึงเพียงนี้ เจ้านายเช่นนี้ทำให้รู้สึกนับถือจากใจจริง

“ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์