องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 90

ในสมัยโบราณไม่มีโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ เมื่อตกเย็น ในยามว่างคนโบราณจะนั่งคุยกันและดื่มเหล้ากัน ซึ่งคึกคักมาก

“นี่พวกเจ้ารู้ไหมว่าราคาข้าวสารอาณาจักรจ้าวขึ้นอีกแล้วนะ”

ผู้ที่กล่าวเช่นนั้นคือแม่นางแผงขายชา มีนามว่าหลิวเชียนเชียน นางคือลูกสาวของผู้ดูแลศาลพักม้า จะชื่นชอบการพูดคุยกับลูกค้าเป็นปกติอยู่แล้ว โดยจะพูดคุยสิ่งที่นางได้พบได้ยินมา

ลูกค้าที่ดื่มชาอยู่พูดอย่างตะลึงว่า “หา? ขึ้นอีกแล้วรึ จริงรึเนี่ย?”

หลิวเชียนเชียนพูดอย่างจริงจังว่า “จริงแน่นอนสิ ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าไม่มีอะไรที่ข้าไม่รู้”

ฉินเหยียนได้ยินดังนั้นจึงมองตามไป พบว่ามีหญิงสาวงดงามที่สวมผ้ากันเปื้อนกำลังชงชาบนเครื่องบดชา สายลมยามเย็นพัดผ่านปอยผมของนาง ทำให้นางดูมีเสน่ห์อันน่าดื่มด่ำ ริมฝีปากอวบอิ่มเล็กๆนั้นกำลังพูดคุยกับลูกค้าที่มาดื่มชาไม่หยุด คำพูดของนางเต็มไปด้วยความฉลาด ดูน่ารักอย่างมาก

ฉินเหยียนลูบคาง แม่นางคนนี้น่าสนใจจริงๆ จากนั้นก็กระดิกนิ้วเรียก “เจ้ามาทางนี้หน่อย”

แม่นางแผงขายชาหลิวเชียนเชียนรีบเข้ามาถามทันที “ลูกค้าท่านนี้ต้องการสั่งอะไรดี?”

“เอาชาหนึ่งที่”

“เจ้าค่ะ รอสักครู่นะเจ้าคะ”

หลิวเชียนเชียนนำใบชาใส่ลงในชามขนาดใหญ่ และใช้น้ำเดือดต้มมัน จากนั้นก็ยื่นน้ำใบชาบดละเอียดร้อนๆมาให้ฉินเหยียน

“นี่คือ绿云香 เชิญเจ้าค่ะ”

“หญิงงามและน้ำชาดีๆ สุดยอดจริงๆ!” ต้องยอมรับเลยว่าฉินเหยียนจีบผู้หญิงเก่งจริงๆ เพียงแค่หนึ่งประโยคก็ทำให้หลิวเชียนเชียนสนใจเขาขึ้นมา

“ข้ารู้สึกว่าลูกค้าท่านนี้คำพูดดูมีวิชาความรู้อย่างมาก แต่แต่งตัวเหมือนกับผู้คุ้มกันขนส่งเลย ท่านทำงานอะไรรึ?”

ฉินเหยียนยิ้มอ่อนๆ “แม่นางช่างมีจิตใจงดงามจริงๆ ข้าเป็นผู้คุ้มกันขนส่งก็จริง แต่ในยามว่างจะชอบอ่านหนังสือ ดังนั้นจึงมีวิชาความรู้อยู่บ้าง การทำให้หญิงงามยิ้มได้ก็ถือว่าข้าไม่ได้ลงแรงสูญเปล่า”

หลิวเชียนเชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คำพูดของท่านช่างน่าสนใจนัก แล้วนี่ท่านจะไปที่ไหนงั้นรึ?”

ฉินเหยียนไม่ได้คิดจะออกจากศาลพักม้าอยู่แล้ว จึงแต่งเรื่องขึ้นว่า “ข้าต้องขนส่งของล้ำค่า แต่จุดหมายยังต้องเก็บเป็นความลับก่อน แต่ว่าข้าสามารถบอกเจ้าได้นะ”

ฉินเหยียนแสร้งทำเป็นร้อนรนแล้วมองไปรอบๆ จากนั้นก็กระดิกนิ้วให้หลิวเชียนเชียน

หลิวเชียนเชียนชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้นจึงได้มองไปรอบๆอย่างระมัดระวังไปด้วย จากนั้นก็เอนตัวไป

ฉินเหยียนกระซิบข้างหูนางว่า “ข้าจะไปหนี่ซินหลี่”

หลิวเชียนเชียนยืนตรง สมองของนางคิดอย่างหนักว่าคือที่ไหน นางเกาศีรษะอย่างสงสัย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินสถานที่นี้ จึงได้พูดซ้ำว่า “หนี่ซินหลี่? นั่นคือที่ไหนรึ?”

ฉินเหยียนจิบชาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าจะไปในหัวใจเจ้าไง”

เมื่อลูกค้าแผงน้ำชาได้ยินเช่นนั้นต่างก็สำลักน้ำชาทันที

“แค่กๆ!”

“เล่นลิ้นเก่งจริงๆเลยนะ”

“นี่หากพวกข้าพูดเก่งแบบนี้บ้าง อายุปูนนี้แล้วก็คงไม่ต้องครองโสดต่อแล้ว!”

หลิวเชียนเชียนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็เอามือหน้าแดงๆแล้วหัวเราะพร้อมพูดว่า “ฮ่าๆๆ ช่างพูดจริงๆเลย ข้าคิดว่าหนี่ซินหลี่เป็นสถานที่ที่ข้าไม่รู้จัดเสียอีก!”

ฉินเหยียนพูดต่อว่า “มุกตลกหากทำให้หญิงงามยิ้มได้ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว หากรู้ชื่อของแม่นางด้วย งั้นที่ข้าออกเดินทางครั้งนี้ก็คุ้มค่าแล้วล่ะ”

หลิวเชียนเชียนถูกฉินเหยียนจีบจนใบหน้าแดงไปหมด นางพูดว่า “หลิวเชียนเชียน เรียกว่าเชียนเชียนก็พอ”

ฉินเหยียนมองหลิวเชียนเชียนอย่างชื่นชม แล้วพูดอย่างลึกซึ้งว่า “พืชพรรณอันเขียวขจีเป็นผลมาจากลมทิศใต้ เสียงเพลงอันไพเราะเป็นผลมาจากทำนองเสียงพิณอันก้องกังวาน มนุษย์ควรยอมรับคำสอนโดยธรรมชาติและเติบโตด้วยความอ่อนโยนเพื่อทำให้เส้นทางสมบูรณ์”

“เป็นชื่อที่ดี ข้าจำไว้แล้ว”

ด้วยสีหน้าที่ลึกซึ้งและบทกวีที่แสนไพเราะนี้ ไม่มีหญิงสาวคนไหนจะต้านทานไหว ต่อให้เป็นหลิวเชียนเชียนที่เคยพบผู้คนมากมาย แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้พบคนที่จีบเก่งขนาดนี้ จิตใจของนางหวั่นไหว และพูดอย่างเขินอายว่า

“ลูกค้าช่างมีความเฉียบแหลมทางด้านวรรณคดีจริงๆ!”

ฉินเหยียนพูดต่อว่า “ข้าเห็นว่าแผงขายชาของเจ้าไม่ได้ใหญ่มาก แต่มีลูกค้ามาไม่น้อยเลย เจ้าดูแลคนเดียวตลอดเลยรึ?”

หลิวเชียนเชียนพูดอย่างภาคภูมิว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ชาที่ข้าใช้ล้วนเป็นชาชั้นดี ส่วนน้ำก็เป็นน้ำจากน้ำพุบนภูเขา โดยปกติแล้วคนที่ดื่มชาของข้า เมื่อมาที่ศาลพักม้าอีกก็จะกลับมาดื่มอีกครั้ง ไปๆมาๆเช่นนี้แผงขายน้ำชาของข้าก็มีคนมากขึ้นเป็นปกติ”

ฉินเหยียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ดูท่าเจ้าจะชอบการขายน้ำชานะ?”

หลิวเชียนเชียนส่ายหน้า “ก็ไม่เชิงหรอกนะ ข้าชอบฟังเรื่องเล่า ที่เปิดแผงน้ำชาก็เพราะสามารถพบปะผู้คนได้ทุกประเภทและได้ยินเรื่องราวแปลก ๆ จากเหนือจรดใต้ ก็อย่างเช่นตอนนี้ หากข้าวสารอาณาจักรใดราคาขึ้น ที่ใดมีภัยอันตราย หรือที่ใดมีสงครามร้ายแรงเกิดขึ้น ข้าจะรู้ทั้งหมด”

ฉินเหยียนสังเกตเห็นแต่แรกแล้วว่าแม่นางผู้นี้ชอบสอบถามเรื่องซุบซิบและสามารถพูดคุยกับใครก็ได้ นานๆเข้าต่อให้นางเป็นเพียงเจ้าของแผงน้ำชาเล็กๆก็ยังสามารถรู้ทุกอย่างได้

“แล้วเจ้าเคยคิดรึไม่ ว่าอยากจะทำให้ร้านแผงขายน้ำชาใหญ่ขึ้น”

หลิวเชียนเชียนไม่ค่อยเข้าใจ “ทำให้แผงขายน้ำชาใหญ่ขึ้นหมายถึงยังไงรึ?”

ฉินเหยียนพูดอย่างฉะฉานว่า “เจ้าดูสิ ตอนนี้เพียงแค่อยู่ในศาลพักม้าเล็กๆนี้ก็ได้ยินเรื่องใหม่ๆจากด้านนอกมากมายแล้ว หากเจ้าเปิดแผงขายน้ำชาทุกศาลพักม้าละก็ งั้นเจ้าก็จะได้ยินเรื่องเล่ามากกว่านี้ไม่ใช่รึ”

นี่คือเรื่องที่หลิวเชียนเชียนไม่เคยคิดมาก่อน หากเปิดร้านน้ำชาในศาลพักม้าทุกที่ งั้นเรื่องทุกอย่างในใต้หล้านี้นางก็ต้องรู้หมดเลยสิ ทันใดนั้นตาของนางก็เป็นประกายทันที

“ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล แต่ข้าคนเดียว แถมยังไม่มีเงินมากมายเพียงนั้น จะทำได้อย่างไรกันเล่า”

ฉินเหยียนพูดอย่างใจกว้างว่า “ข้าช่วยเจ้าได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์