องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 882

ฟางเจาจวินคุ้นเคยกับสีหน้าความรู้สึกเหล่านี้ จึงเอ่ยปากออกมาว่า

“ถูกต้อง เกลือที่นี่ผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอนจนได้เกลือละเอียดคุณภาพสูง ไม่มีสิ่งเจือปน ไม่เพียงแต่ไม่มีรสขมเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นเครื่องปรุงรสทำให้อาหารมีกลิ่นหอมมากขึ้นอีกด้วย”

“เกลือเนื้อละเอียดยังสามาถนำมาทำความสะอาดได้อีกด้วย อย่างชาวอาณาจักรฉินเองใช้เกลือมาแปรงฟัน เมื่อเทียบกับเศษพืชทั่วไป ประสิทธิภาพของเกลือนั้นดีกว่า”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของนักวิชาการในอาณาจักรหลู่เบิกกว้างขึ้นและพูดด้วยความประหลาดใจ

“ท่าน ท่านพูดว่าใช้เกลือมาแปรงฟันหรือ? เรื่องจริงหรือเรื่องโกหกกันแน่?”

“ขนาดอาณาจักรหลู่ของเราติดชายฝั่งทะเล แต่ประชาชนไม่อาจผลิตเกลือเนื้อละเอียดเช่นนี้ออกมาได้ เกลือที่พวกเขากินนั้นมีสีไม่ใส อีกทั้งยังรสขม ซึ่งไม่สามารถนำมาเทียบกับเกลือชนิดนี้ได้เลย!”

“เกลือชั้นดีราคาสูง ประชาชนคนธรรมดาไม่มีเงินซื้อ ขนาดตระกูลที่ร่ำรวยบางตระกูลยังได้กินเกลือเนื้อละเอียดเช่นนี้แค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่ท่านกลับใช้เกลือละเอียดมาแปรงฟัน!”

เมื่อเห็นว่านักวิชาการอาณาจักรหลู่ค่อนข้างตื่นเต้น ฟางเจาจวินจึงรีบอธิบายต่อ

“เหมือนกับเหล้ากลั่น นำเกลือทั้งหมดมาผ่านการกลั่นกรอง ทำให้ได้เกลือเนื้อละเอียดจำนวนนับไม่ถ้วน”

“ไม่ว่าอนุภาคเกลือจะมีขนาดใหญ่เพียงใด หรือว่าสีจะไม่ใสแค่ไหน หลังจากผ่านการกลั่นกรองแล้ว เราจะได้เกลือสีขาวเนื้อละเอียดออกมา”

“ดังนั้นการกินเกลือละเอียด ไม่ใช่เรื่องใหม่ในอาณาจักรฉิน ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากครอบครัวชนชั้นสูงหรือคนธรรมดาทั่วไป ทุกครัวเรือนล้วนมีเกลือเนื้อละเอียดนี้เอาไว้รับประทาน”

นักวิชาการอาณาจักรหลู่ได้ยินว่าทุกครัวเรือนในอาณาจักรฉินมีเกลือชั้นดีเนื้อละเอียดนี้ไว้ใช้ในทุกครัวเรือน พวกเขาถึงกับตะลึงในทันที

แต่เดิมพวกเขาคิดว่าชีวิตของพวกเขาในอาณาจักรหลู่นั้นถือว่าดีมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับชาวอาณาจักรฉิน แม้แต่ประชาชนคนธรรมดายังมีเกลือให้ใช้ พวกเขามีเพียงเชื้อพระวงศ์เท่านั้นที่สามารถมีเกลือไว้ใช้ได้

แม้แต่ผักและผลไม้ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน กลับปลูกออกมาได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังรสชาติอร่อย ประชาชนกินไม่หมดจนต้องเอาไปให้หมูกิน

เรื่องนี้สอดคล้องกับสุภาษิตที่ว่า คนเทียบคนก็คงต้องตาย ของเทียบของก็ถูกจนต้องโยนทิ้ง!

การเรียนรู้ทุกแง่มุม ทำให้มุมมองของนักวิชาการในอาณาจักรหลู่ได้รับการปรับใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนอาศัยอยู่ในยุคโบราณที่ไร้อารยธรรม

ฟางเจาจวินเห็นการแสดงออกทางสีหน้าที่ซับซ้อนของนักวิชาการอาณาจักรหลู่ เห็นว่าเขาทั้งตกใจและประหลาดใจกับความรู้ใหม่ที่ปรากฎตรงหน้าพวกเขา

ต่อมาเมื่อความรู้วิทยาศาสตร์เหล่านี้แทรกซึมเข้ามาในชีวิตคน ความรู้สึกที่แปลกประหลาดในตอนแรกกลับค่อยๆ คุ้นชิน จากนั้นเริ่มเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่สะดวกสบายมาจากความรู้ด้านวิทยาศาสตร์

ฟางเจาจวินกล่าวด้วยความโล่งใจ

“สิ่งที่ทุกท่านเห็นคือผลลัพธ์จากการใช้วิทยาศาสตร์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิต จุดประสงค์ของการเรียนรู้นี้ก็เพื่อให้ทุกคนเห็นความแตกต่าง เรียนรู้ข้อดีของกันและกัน”

นักวิชาการอาณาจักรหลู่รู้สึกท้อแท้ เขาพูดออกมาว่า

“คณบดีฟาง ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่มีความมั่นใจ เพียงแต่ว่าอาณาจักรหลู่นั้นล้าหลังอาณาจักรฉินอยู่มาก พวกเราจะตามทันได้อย่างไรกัน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์