เมื่อซือหม่าจี๋ได้ยินคำพูดที่หมดอาลัยตายอยาก เขาพยายามโน้มน้าวฮ่องเต้หลู่อย่างเต็มที่
“ฝ่าบาท อย่างน้อยๆ อาณาจักรหลู่ของเราก็ติดหนึ่งในสามอันดับแรกจากเจ็ดอันดับในด้านความแข็งแกร่ง หากทั้งอาณาจักรระดมพลกันช่วยต่อต้าน กองทัพอาณาจักรเยี่ยนต้องถูกถอยทัพกลับไปแน่นอน กระหม่อมหวังว่าฝ่าบาทจะทรงพิจารณาดูอีกครั้ง!”
สีหน้าของฮ่องเต้หลู่ยังคงสงบและพูดอย่างเมินเฉย
“เราบอกเจ้าตั้งแต่อยู่ที่อาณาจักรฉินแล้วว่าเราไม่สามารถจัดการอาณาจักรได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อสู้กัน”
“เจ้าไปถามกั๋วฮวายให้เราเสียหน่อยว่าเขาต้องการสิ่งใด เราแค่ให้เขา ทุกอย่างก็จบ เมื่อสงครามสงบ ภารกิจของเราถือว่าเป็นอันสำเร็จ”
ซือหม่าจี๋ไม่ยอมแพ้และยังต้องการโน้มน้าวเขาต่อ แต่ฮ่องเต้หลู่กลัวลุกขึ้นและเดินจากไปอย่างไร้ความกังวล
“เราเหนื่อยแล้ว เรื่องเจรจาต่อรองเป็นหน้าที่ของเจ้า”
หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก็ออกจากตำหนักจินหลวนโดยไปหันหลังกลับมา
ซือหม่าจี๋นั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าเขาจะคิดหาทางออกแล้ว หากตอนนี้อาณาจักรเยี่ยนบุกตรงเข้ามายังเมืองหลวง อาณาจักรหลู่ก็จะไม่ดำเนินการใดๆ ดังนั้นหากเขาสั่งให้ต่อสู้ก็คงจะไร้ประโยชน์
อาณาจักรหลู่เป็นอาณาจักรที่เขาเกิดและเติบโต ดังนั้นเขาจะยอมเห็นอาณาจักรหลู่รวมเข้ากับอาณาจักรเยี่ยนได้อย่างไร
ซือหม่าจี๋แบกรับภารกิจด้วยความสิ้นหวังและเดินางไปยังอาณาจักรเยี่ยนเพื่อเจรจาเพียงลำพัง
...
เมืองหลวงอาณาจักรเยี่ยน
กั๋วฮวายนั่งบนบัลลังก์มังกรอย่างเย่อหยิ่ง นั่งอ่านรายงานที่เต็มไปด้วยข่าวดีพร้อมกับมีสีหน้าพึงพอใจและหัวเราะออกมา
“เยี่ยมมาก! ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน อาณาจักรหลู่กลับพ่ายแพ้และยอมถอยทัพออกไป ดูเหมือนว่าการที่เราฝึกทหารมาเป็นเวลานานไม่ใช่เรื่องเปล่าประโยชน์!”
ขุนนางบางคนแนะนำว่า
“ฝ่าบาท กองทัพอาณาจักรเยี่ยนของเราชนะการรบติดต่อกันหลายครั้ง ใช้โอกาสนี้บุกไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงเมืองหลวงอาณาจักรหลู่เสียพ่ะย่ะค่ะ!”
“กระหม่อมขอแนะนำว่า ตอนนี้ป้อมปราการเขตชายแดนอาณาจักรหลู่ได้สูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก เหล็กควรตีตอนที่ยังร้อนอยู่ ทำตามหนทางแห่งสวรรค์ รวบอาณาจักรหลู่เถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
หลังจากได้ยินคำแนะนำของบรรดาขุนนางแล้ว กั๋วฮวายเงียบไปครู่หนึ่งและคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสีย
เดิมทีเขาคิดว่าอาณาจักรหลู่เป็นพวกบ้าอำนาจ ครั้งนี้ที่เขาส่งกองกำลังทหารเข้ามาเพียงเพื่อทดสอบน่านน้ำเท่านั้นไม่คิดว่าเขาจะโจมตีอาณาจักรหลู่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และถือว่ากองกำลังของเขามีศักยภาพในการโจมตีอาณาจักรหลู่ นี่ถือว่าเป็นเรื่องเกินความคาดหมายเขาเล็กน้อย
แม้ว่าชายแดนอาณาจักรหลู่จะถูกเขายึดเอาไว้แล้ว แต่ห้ามชะล่าใจ หากนี่เป็นกับดักของอาณาจักรหลู่เล่า หากพวกเขาจงใจละทิ้งเมืองเขตชายแดน ล่อให้พวกเขาบุกเข้าโจมตีเมืองหลวง หากเขาบุกตาม เขาจะไม่ตกหลุมพรางหรอกหรือ?
ขณะที่กั๋วฮวายกำลังคิดอยู่นั้น กองทัพป้องกันเมืองเข้ามาในวังเพื่อรายงานข่าว
“ฝ่าบาท ซือหม่าจี๋ ขุนนางแห่งอาณาจักรหลู่ขอเข้าเฝ้าพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
กั๋วฮวายเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาคาดเดาเอาไว้แล้วว่าอาณาจักรหลู่ต้องส่งซือหม่าจี๋เข้ามาในเวลานี้ แน่นอนว่าเกี่ยวกับสงครามอย่างแน่นอน ลองฟังคำเขาก่อนเสียดีกว่า จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะโจมตีต่อหรือไม่
เขาโบกมือแล้วสั่งว่า
“ให้เขาเข้ามา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...