เยี่ยนจิง
จากการเข่นฆ่าไปทั่วของทหารเฝ้าประตูเมืองอาณาจักรเยี่ยน บนกำแพงเมืองก็มีการแขวนศีรษะของชาวเมืองมากมาย
ฉินชงยืนอยู่นอกกำแพงเมืองแล้วเห็นสภาพการตายที่อนาถของชาวเมืองเหล่านั้นแล้วก็เกิดเดือดดาลอย่างมาก เขาตะโกนเสียงดังว่า
“อย่าทำการต่อต้านที่ไร้ประโยชน์ต่อไปดีกว่า รีบทำการยอมแพ้ แล้วจะไว้ชีวิต เพียงแค่ยอมจำนนต่ออาณาจักรฉิน ข้าจะรับรองความปลอดภัยของชาวเมือง!”
เมื่อชาวเมืองในเมืองได้ยินเสียงของกองทัพอาณาจักรฉินแล้ว ก็ไม่กล้าออกไปยอมแพ้ แม้กองทัพอาณาจักรฉินจะมอบเสบียงให้ แต่เพียงแค่เข้าไปใกล้ประตูเมืองก็มองเห็นศีรษะของเพื่อนพ้องถูกแขวนอยู่บนกำแพงเมือง ทำเอาพวกเขาตกใจจนไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
ทหารเฝ้าประตูเมืองยืนอยู่บนกำแพงเมือง เมื่อได้ยินว่ากองทัพอาณาจักรฉินคอยบอกให้พวกเขายอมแพ้ กลัวว่าจะเกิดความโกลาหลอีก จึงได้ตะคอกกลับว่า
“กองทัพอาณาจักรฉินจงฟัง ลูกหลานอาณาจักรเยี่ยนยอมตายอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมมีชีวิตอยู่ต่ออย่างไร้ศักดิ์ศรี อย่าคิดจะให้เรากลายเป็นคนทรยศ! แน่จริงก็มาต่อสู้กับเรา!”
ความใจเย็นของฉินชงแทบจะหมดสิ้นแล้ว เขาล้อมเมืองมาหนึ่งเดือนแล้ว กัวฮวายไม่แยแสความเป็นอยู่ของชาวเมืองเลย ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้อาณาจักรฉินจะอยากปกป้องแค่ไหน เกรงว่าชาวเมืองอาณาจักรเยี่ยนก็คงอดทนถึงตอนนั้นไม่ไหว
และในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็มีเสียงดังขึ้นจากขบวนหลังของอาณาจักรฉิน
“อ๋องเหยียนเสด็จ!”
ทุกคนต่างรีบหันไปมองท้ายขบวน และเห็นฉินเหยียนสวมชุดยาวสีขาว ในมือถือไม้เท้าไม้ไผ่อยู่ ดูน่าเกรงขามอย่างมาก ราวกับผู้ศักดิ์สิทธิ์จุติยังโลกมนุษย์ ด้านซ้ายและด้านขวาของเขามีหญิงสาวที่สวมหน้ากากอยู่สองคน พวกนางรีบเดินมายังกลางลานอย่างน่าเกรงขาม
เมื่อกองทัพรถยนต์เห็นอ๋องเหยียนปรากฏ พวกเขาก็ตกตะลึงจนขนหัวลุก เบิกตากว้างอ้าปากค้าง เมื่อได้สติกลับมาจึงได้คุกเข่าข้างหนึ่งลงแล้วประสานมือคารวะคำนับว่า
“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียน อ๋องเหยียนทรงอายุยืนหมื่นปีหมื่น หมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉินเหยียนเดินไปด้วยแล้วกางแขนสองข้างออกพร้อมพูดอย่างเสียงดังว่า
“ทหารทุกนายจงลุกขึ้น!”
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะอ๋องเหยียน!”
ทหารขบวนรถยนต์พูดเสียงดังสะท้านไปทั่วพื้นดิน
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำเอาเหล่าทหารเฝ้าประตูเมืองอาณาจักรเยี่ยนเองก็ประหลาดใจ และจ้องมองลงไปยังด้านล่างกำแพงเมือง ร่างที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงส่งและมีความน่าเกรงขามนั้นทำให้พวกเขาตะลึงไปหมด ทุกคนอึ้งไปหมด ไม่คิดว่าอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินจะมาจริงๆ!
แม่ทัพได้สติแล้วรู้สึกถึงความอันตราย จึงได้รีบลงจากกำแพงเมืองอย่างกระวนกระวาย จากนั้นก็รีบขึ้นขี่ม้าไปรายงานที่พระราชวังทันที
ขณะนี้ ฉินหยียนเดินไปยังเบื้องหน้าของฉินชงอย่างน่าเกรงขาม เขายิ้มแย้มแล้วทักทายว่า
“พี่ใหญ่! ไม่ได้พบกันเสียนานเลย!”
บัดนี้ฉินชงไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเองเลย แม้ว่าฉินเหยียนจะมีหนวดเครายาว แต่ดวงตาที่เฉลียวฉลาดและความน่าเกรงขามนั้น จะต้องเป็นเจ้าสิบสี่แน่นอน!
ฉินชงรีบเดินเข้าไปหาแล้วพูดอย่างดีใจว่า “น้องสิบสี่ เป็นเจ้าจริงด้วย! ในที่สุดเจ้าก็กลับมา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...