ข่าวเกี่ยวกับตัวตนของฉินเหยียนได้เป็นที่ร่ำลือกันทั่วเก้าแคว้นทันที
ฮ่องเต้หลู่ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่อาณาจักรฉินมองหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับอาณาจักรหลู่โดยไป๋เสี่ยวเซิงแล้วก็ถอนหายใจพูดว่า
“สุดท้ายฉินเหยียนก็เปิดเผยตัวตนแล้ว แถมยังเปลี่ยนนามอาณาจักรด้วย เอาเถิด ทุกอย่างจะผ่านไปรวดเร็ว”
บัดนี้ซือหม่าจี๋เองก็สับสนวุ่นวาย รู้สึกว่าฉินเหยียนมีความพิเศษ ราวกับควบคุมความเป็นอยู่ของใต้หล้าอยู่ เขานับนิ้วแล้วคำนวณอย่างละเอียดแล้วพูดว่า
“อ๋องเหยียน องค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉิน หรือก็คือเฉิงอาหนิวผู้เป็นท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัว และเป็นประธานของวิสาหกิจ แถมยังเป็นผู้สร้างตำหนักอ๋องเหยียน รวมถึงเป็นผู้ควบคุมหอหม่าฮวาทั่วใต้หล้าด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่ปีนี้ ยังได้ครอบครองหกอาณาจักรให้เป็นของอาณาจักรฉินได้ด้วย ไม่อาจคาดเดาคนผู้นี้ได้เลย!”
จ้าวเหวินเซิงรู้สึกได้ใจมาก อย่างไรฉินเหยียนก็เป็นเขยของเขา เขาลูบหนวดแล้วพูดว่า
“การที่เก้าแคว้นเป็นของอาณาจักรฉินอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ตั้งแต่นี้ไปทั้งเจ็ดอาณาจักรจะไม่มีการแย่งชิง ชาวเมืองจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทั้งมีประโยชน์ต่อชาวเมืองและมีประโยชน์ต่อการพัฒนาด้วย นกปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว”
ซือหม่าจี๋มองใบหน้าที่ได้ใจจนเก็บไม่อยู่ของจ้าวเหวินเซิงแล้วพูดหยอกล้อว่า
“ถ้าจะว่าใครที่ได้เปรียบที่สุดก็ต้องเป็นเจ้าแล้วล่ะเหวินเซิง ได้ลูกเขยที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้น ช่างน่าอิจฉาเสียจริง!”
จ้าวเหวินเซิงหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “สหายซือหม่าล้อข้าเล่นอีกแล้ว ตราบใดที่เขาสามารถทำประโยชน์แก่ชาวเมืองได้ เป็นฮ่องเต้ผู้ทรงคุณธรรม ต่อให้ไม่ใช่ลูกเขยของข้า ข้าก็จะพูดเช่นนี้เช่นเดิม”
ฮ่องเต้หลู่อย่างครุ่นคิดว่า “แต่ว่าก่อนที่ท่านผู้อาวุโสจะสิ้นใจ ได้ทำนายเอาไว้ว่าอาณาจักรฉินจะล่มสลายในห้าปี แต่ด้วยการพัฒนาของอาณาจักรฉินที่ดีขึ้นทุกวันแล้ว อาณาจักรใหญ่ที่รุ่งเรืองเช่นนี้จะล่มสลายจริงๆงั้นรึ?”
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วซือหม่าจี๋และจ้าวเหวินเซิงก็เงียบไป ช่วงที่พวกเขาใช้ชีวิตที่อาณาจักรฉินมานี้ ได้สัมผัสกับประเพณีของคนพื้นที่อาณาจักรฉินแล้ว เหล่าชาวเมืองไม่เพียงแต่จะเป็นมิตรต่อกัน แถมอาณาจักรก็ยังทำประโยชน์เพื่อชาวเมืองอย่างแท้จริงด้วย
การซื้อยาหาหมอ เล่าเรียนหนังสือ หรือการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์เป็นต้น ตราบใดที่เป็นสิ่งที่คิดได้ ที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่พื้นฐาน อาณาจักรฉินจะคิดหาวิธีการทำให้ชาวเมืองพึงพอใจ สามารถทำให้ชาวเมืองพึ่งพาตนเองได้ มีชีวิตที่ดี
ทุกอย่างกำลังพัฒนาอย่างรุ่งเรืองตามแผนที่วางเอาไว้ ต่อให้คิดถึงวันข้างหน้า เกรงว่าอาณาจักรฉินก็มีแต่จะพัฒนาได้ดีขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น แล้วจู่ๆจะล่มสลายได้อย่างไร?
ทั้งสามพยายามครุ่นคิดและไม่เข้าใจ สุดท้ายฮ่องเต้หลู่ก็พูดขึ้นว่า
“เอาเถิด ในเมื่อยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงกำหนดเวลาห้าปีที่ท่านผู้อาวุโสทำนายเอาไว้ เช่นนั้นเราก็มารอดู”
......
และแล้ว เก้าแคว้นก็กลายเป็นของอาณาจักรฉิน ทุกอาณาจักรได้เริ่มทำการก่อสร้างเป็นการใหญ่ ทำการปฏิรูปและพัฒนา สร้างความเป็นอยู่ในแก่ชาวเมือง ช่วยกันสร้างอาณาจักรที่งดงามและมีความสันติสุขด้วยกัน ทุกอย่างกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาที่เผิงหลาย
ในขณะที่เหล่าชาวเมืองทั่วเก้าแคว้นคิดว่าทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี อาณาจักรฉินกลับเกิดเรื่องๆหนึ่งขึ้น เป็นเรื่องใหญ่ที่คาดคิดไม่ถึงเลย
ฮ่องเต้ฉินสิ้นพระชนม์ องค์ชายเจ็ดฉินอวี่สืบทอดบัลลังก์ต่อ กลายเป็นฮ่องเต้แห่งอาณาจักรฉิน
......
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...