หวังจี้ตงทนไม่ไหวจึงได้ประชดพูดว่า “ท่านขอรับ จะพูดมั่วซั่วไม่ได้หรอกนะ เรือลำนี้เล็กงั้นรึ มีเรือที่ใหญ่กว่านี้อีกรึ? แค่ความยาวเรือลำนี้ก็มีความยาวถึงสิบสองจั้งแล้ว นอกจากพวกข้า ทั่วทั้งเก้าแคว้นก็ไม่มีใครสร้างได้อีกแล้ว!”
หลินเย้าจู้เบ้ปาก เขาไม่อยากจะสนใจพวกนักค้าขายเหล่านี้ เขาได้เดินไปข้างกายของฉินเหยียนแล้วกระซิบว่า
“อ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ จากภาพที่ทรงให้มาแล้ว เรือรบที่ต้องการสร้างอย่างน้อยก็มีขั้นต่ำสามสิบสี่สิบจั้งขึ้นไป ด้วยความสามารถของพวกเขา มันห่างชั้นเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”
พวกหวังจี้ตงอึ้งไปหมด แล้วมองหลินเย้าจู้อย่างเหลือเชื่อ นี่เขากำลังสงสัยในทักษะของพวกเขารึ มีสิทธิ์อะไร? พวกเขาไม่ได้รู้จักหลินเย้าจู้ แต่เห็นรูปร่างหน้าตาที่สกปรกของเขาและรอยคล้ำใต้ตาแล้ว ก็ไม่ได้เห็นเขาเป็นคนสำคัญอะไร
หวังจี้ตงพูดอย่างไม่พอใจทันทีว่า “เจ้าพวกนอกสายงานจะเข้าใจอะไร? เจ้าคิดว่าต่อเรือเหมือนสร้างบ้านรึ? ที่อยากจะสร้างใหญ่แค่ไหนก็ได้ ยังพูดว่าสามสิบสี่สิบจั้งขึ้นอีก คุยโว้ไปเถิด”
“นั่นสิ เจ้าจะเข้าใจอะไร อย่าว่าแต่สามสิบสี่สิบจั้งเลย ในระหว่างนั้นมีขั้นตอนมากมาย ทุกครึ่งที่เพิ่มขนาดก็ยากอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นเพียงแค่เอาลงน้ำก็จมไปแล้ว!”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะอ๋องเหยียน อย่าได้ฟังเขาพูดมั่วเลย”
หลินเย้าจู้ฟังคำตำหนิรอบข้างก็ไม่ได้รู้สึกหัวเสียอะไร เขารู้สึกว่าการพูดเหตุผลกับพวกกบในกะลานั้น เปลืองน้ำลายยิ่งนัก
ฉินเหยียนเองก็จับคางแล้วครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็มองไปยังหลินเย้าจู้แล้วถามว่า
“หลายวันนี้เจ้าศึกษาเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าคิดว่าการซื้ออู่ต่อเรือเหล่านี้ จะมีประโยชน์อย่างมากในอนาคตรึไม่?”
หลินเย้าจู้เหลือบมองไปคนเหล่านั้น แล้วขมวดคิ้วพูดว่า
“อย่างมากก็เป็นได้แค่ผู้ช่วยการสร้างอู่ต่อเรือหลวงเท่านั้น ไม่สามารถช่วยอะไรในการต่อเรือได้”
หลินเย้าจู้พูดอย่างรักษาน้ำใจมากแล้ว หากฉินเหยียนแค่ต้องการสร้างกองเรือทั่วไปก็ยังพอไหว ทุกอย่างไม่มีปัญหาใดๆ พวกอู่ต่อเรือจะช่วยได้เยอะมากจริงๆ แต่ความทะเยอทะยานของฉินเหยียนไม่ได้มีเท่านั้น เขาต้องการสร้างกองทัพเรือที่แกร่งกล้า!
เพียงแค่หนึ่งลำ ก็จะเสมือนกับภูเขาเล็กๆที่ล่องลอยอยู่กลางน้ำแล้ว สิ่งที่ใหญ่มหึมาเช่นนี้ เพียงแค่พายเรือ คนเหล่านี้ก็ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้แล้ว ดังนั้นหลินเย้าจู้จึงสรุปว่าอู่ต่อเรือเหล่านี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ต่อให้ช่วยได้ อย่างมากก็แค่ช่วยให้อู่ต่อเรือหลวงก่อตั้งขึ้นได้ในขั้นตอนแรกเท่านั้น นำช่างฝีมือระดับต่ำมาได้เท่านั้น
“งั้นรึ?”
ฉินเหยียนขมวดคิ้ว ภาพที่เขาให้หลินเย้าจู้นั้นค่อนข้างรัดกุม อย่างไรเขาก็ไม่เคยเข้าในชมในเรือรบ ก็เลยไม่มีสิทธิ์พูดอะไร ในเมื่อหลินเย้าจู้กล่าวเช่นนี้ ฉินเหยียนก็มองไปยังคนพวกนั้นแล้วส่ายหน้าพูดว่า
“เรือที่พวกเจ้าต่อเล็กเกินไป ไม่มีประโยชน์อะไรต่อกองเรือที่ข้าจะสร้าง เช่นนะกัน ข้าจะให้สามแสนตำลึงเพื่อซื้อหนึ่งในพวกเจ้า”
“ว่าอย่างไรนะ?!”
เมื่อได้ยินฉินเหยียนพูดตัวเลขออกมา พวกหวังจี้ตงที่ยโสก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ต่างก็เบิกตากว้างแล้วจ้องมองฉินเหยียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...