หากองค์ชายแปดไม่พูด ฮ่องเต้ฉินก็คงลืมลูกเนรคุณคนนี้ไปแล้ว เขาพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “เจ้ามีวิธีอะไรรึ?”
องค์ชายแปดฉินอู่เหลือบมองฉินเหยียนแล้วพูดว่า “พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ ลูกคิดว่าเหตุที่อาณาจักรจ้าวมาโจมตี ต้องเป็นเพราะน้องสิบสี่ทำให้องค์หญิงสามอับอายต่อหน้าผู้คนมากมายเป็นแน่ แถมยังสังหารไม่เลือกรวมถึงได้สังหารคณะทูตในงานพิธีด้วย ทำลายมิตรภาพอันดีงามระหว่างสองอาณาจักร จึงทำให้อาณาจักรจ้าวโกรธและส่งกองทัพมาโจมตีพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินสีหน้ามืดมนมากยิ่งขึ้น เจ้าสิบสี่ทุ่มเทเพื่อรับใช้อาณาจักรฉิน รีบนำข่าวดีมาส่งทั้งที่ไม่ทันได้เปลี่ยนชุดราชสำนักด้วยซ้ำ แต่เจ้าแปด จนถึงสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้แล้วยังคิดจะต่อสู้แบบพรรคอีก ไม่มีเจตนาที่ดีเลย ฮ่องเต้ฉินพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าอยากจะพูดอะไร?”
องค์ชายแปดฉินอู่สัมผัสความไม่พอใจในน้ำเสียงของท่านพ่อไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แถมยังคุกเข่าตัวตรงแล้วพูดว่า
“พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ ลูกคิดว่าใครก็ตามที่เริ่มสงครามจะต้องเป็นผู้หยุดมัน หากจะหยุดสงครามในครั้งนี้โดยไม่ต้องสูญเสียทหารเลยแม้แต่นายเดียว จะดีกว่าหากตัดหัวน้องสิบสี่แล้วส่งมอบให้แก่อาณาจักรจ้าว เพื่อแสดงถึงมิตรภาพอันดีระหว่างสองอาณาจักรพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินไม่คิดว่าเจ้าแปดจะกู่ไม่กลับถึงขั้นนี้ บังอ่านคิดจะใช้ชีวิตของพี่น้องสายเลือดเดียวกันแลกเปลี่ยนกับการหยุดสงครามกับอาณาจักรจ้าว จนถึงตอนนี้ยังดูสถานการณ์ไม่ออกอีก ช่างโง่เขลายิ่งนัก
“ดีอู่เอ๋อร์ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกชายที่ดีของข้า!”
องค์ชายแปดคิดว่าพูดตรงใจท่านพ่อแล้ว จึงได้เงยหน้าแล้วพูดต่อว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ให้ลูกทำการตัดหัวน้องสิบสี่......”
ยังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้นฮ่องเต้ฉินก็ได้หยิบสาส์นกราบทูลบนโต๊ะเขวี้ยงใส่เขา “เจ้าลูกเนรคุณ จนถึงตอนนี้เจ้ายังไม่เข้าใจอีก!”
ฉินอู่มึนงงไป เขาพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผวาว่า “ท่านพ่อ ลูกเองก็หวังดีต่ออาณาจักรฉินนะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ยังกล้าพูดอีกรึว่าหวังดีต่ออาณาจักรฉิน!” เขาพูดไปด้วยแล้วเขวี้ยงสาส์นกราบทูลใส่ฉินอู่ไปด้วย
“หากอาณาจักรจ้าวเป็นมิตรที่ดีต่ออาณาจักรฉินจริง แล้วเหตุใดจึงส่งไส้ศึกและหน่วยกล้าตายมากมายแทรกแซงเข้ามา เพื่อเก็บข้อมูลของอาณาจักรฉินด้วย จะคิดแย่งชิงแผนที่ป้องกันเมืองทำไม! ส่วนเจ้ายังคิดแต่จะใช้พี่น้องของตนเองไปเอาใจอาณาจักรจ้าวเพื่อขอสงบสงคราม เจ้าไร้สมองรึไง!”
บาดแผลเมื่อวานขององค์ชายแปดฉินอู่ยังไม่หายดี วันนี้ก็มีแผลใหม่เพิ่ม เขายังคิดตามไม่ทัน
ฉินเหยียนจึงได้ออกหน้าห้ามเอาไว้ว่า “ท่านพ่ออย่าทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อพี่แปดคิดว่าสงครามครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะลูก ลูกเองก็ไม่อยากผักหน้าที่พ่ะย่ะค่ะ การจงรักภักดีต่ออาณาจักรฉินอย่างที่สุดก็เป็นเรื่องที่ลูกผู้เป็นชาวอาณาจักรฉินควรทำ ดังนั้นลูกขอนำทหารไปทำสงครามกับอาณาจักรจ้าวด้วยตนเอง เพื่อทำให้สงครามหยุดลงพ่ะย่ะค่ะ”
คำพูดที่ฮึกเหิมและตรงไปตรงมานี้ทำให้ฮ่องเต้ฉินรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา ในบรรดาลูกชายของเขา ยังมีผู้ที่ทำเพื่ออาณาจักรฉินอย่างแท้จริงอยู่ เขาหยุดการกระทำและดับความโกรธลง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“เหยียนเอ๋อร์ สงครามมิใช่การเล่นสนุก เจ้าคิดดีแล้วรึ?”
ฉินเหยียนประสานมือคารวะแล้วพูดด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยวหนักแน่นว่า “ท่านพ่อ ลูกได้ตัดสินใจแล้ว หากไม่สามารถทำให้อาณาจักรจ้าวถอยทัพไปได้ ลูกจะไม่กลับมาพ่ะย่ะค่ะ”
เหล่าขุนนางในราชสำนักต่างพากันซุบซิบกัน
“หึ เรื่องความอยู่รอดของอาณาจักรเช่นนี้ยังคิดจะฝืนกำลังอีก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...