ดูท่าหลี่จื่อเหยาจะถูกคุ้มตัวไว้ได้ไม่นานเท่าไร หมอเทวดาหลี่ก็ดึงนางออกมาเสียแล้ว
หลี่จื่อเหยาทางนี้ ยังมีเซียวเหยียนจิ่งอีกด้วย
คนคุ้นเคยมารวมตัวกันหมดเลยแฮะ
ทางนี้มีศาลาอยู่แห่งหนึ่ง ในศาลามีแคร่กับเก้าอี้วางอยู่ รอบด้ามีคนมุงอยู่ไม่น้อย
ตอนนี้ในศาลามีหญิงสาวที่ใบหน้าครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีม่วงไปแล้ว หมอเทวดาหลี่กับหมออีกหลายคนกำลังล้อมดูอยู่ข้างๆ
ผู้อาวุโสจี้บอกว่า "เห็นท่าทางภาคภูมิใจของเจ้าสกุลหลี่นั่นไหม? เขาเพิ่งจะรักษาคนป่วยโรคประหลาดไปได้สองคน! กินชื่อกินเสียงไปจนเขาแทบจะกระดกหางขึ้นมาแล้ว! แต่ข้าก็ยังสงสัย ว่าคนป่วยสองคนนั้นคือคนที่ตัวเขาหามาเอง"
เรื่องเช่นนี้หมอเทวดาหลี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำ
มีคนป่วยบางส่วน เดิมทีเขารักษาได้นานแล้ว แต่ไม่ยอมรักษามาโดยตลอด คิดจะดึงพวกเขามาจนถึงตอนนี้ แล้วพามารักษาที่นี่ต่อหน้าธารกำนัล ถึงจะทำให้คนได้เห็นความเก่งกาจด้านวิชาแพทย์ของเขา
มีคนป่วยที่ดึงไว้ดึงไว้ ดึงจนอาการหนักกว่าเดิม
"แล้วนั่นคือผู้ป่วยคนที่สามหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้น
"ใช่ หญิงสาวคนนี้นางมาเอง นางบอกว่าครึ่งปีก่อนบนหน้าก็ม่วงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าตนเองคงไปชนกับอะไรเข้าโดยไม่ตั้งใจ แต่ไม่คิดว่ารอยม่วงนั้นจะขยายขึ้นโดยตลอด ไม่เจ็บไม่คัน แต่ตอนนี้ก็ม่วงไปครึ่งหน้านางแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสีก็ยังเข้มขึ้นทุกวันอีกด้วย"
ผู้อาวุโสจี้พูดกับฟู่จาวหนิง "นางครึ่งปีนี้ก็หาหมอมาแล้วหลายคน ก็ล้วนมองไม่ออกว่ามันคืออะไร นางไม่กล้าพอปะผู้คนแล้ว เพราะมักจะมีคนบอกว่านางถูกอะไรสกปรกเปื้อนบนหน้า รุ้สึกว่านางเป็นตัวโชคร้าย อัปมงคล ตอนนี้คนในบางเองก็เริ่มรังเกียจนางแล้ว สามีของนางยังถึงกับจะขอหย่าด้วย"
เสี่ยวเถาได้ยินก็แผดเสียงขึ้นมา "คุณหนู ป้าคนนี้น่าสงสารจังเลย"
"ลูกสาวของหญิงสาวคนนี้ก็หมั้นหมายแล้ว ชายหนุ่มที่หมั้นหมายด้วยคนนั้นพอได้ยินข่าวนี้ ก้คิดจะยกเลิกการหมั้นหมายขึ้นมา ดังนั้นหญิงสาวคนนี้จึงรู้สึกว่าตนเองถ้าไม่รักษาตัวเองจะทำร้ายลูกสาวไปด้วย หลังจากนี้ไม่แน่ว่าลูกชายอาจจะไม่ยอมแต่งงานก็ได้ ดังนั้นจึงจ่ายเงินแล้วเข้ามาที่นี่"
จงเจี้ยนมองหญิงสาวคนนั้น และรู้สึกว่านางเป็นเช่นนี้ก็น่าสงสารเหมือนกัน
"ดูไปก่อน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น
นางอยากจะเห็นว่าพวกหมอเทวดาหลี่จะพูดอย่างไร
เซียวเหยียนจิ่งเองก็มองอยู่ข้างๆ สายตากวาดไปมา จู่ๆ ก็เห็นเข้ากับฟู่จาวหนิงในกลุ่มคน สีหน้าเขาเปลียนไปเล็กน้อย
ความสนใจของหลี่จื่อเหยาอยู่บนตัวเขา ดังนั้นจึงมองตามสายตาของเขาเข้ามา
"ฟู่จาวหนิง!"
หลี่จื่อเหยาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในดวงตาพ่นไฟออกมา
"นางทำไมจึงมาอยู่ที่นี่? นี่เป็นสถานที่ที่นางมาได้ด้วยหรือ?"
นางยังไม่ได้ไปคิดบัญชีกับฟู่จาวหนิงเลย! ทำให้นางถูกขังอยู่ในกรงตั้งหลายวัน จนหน้าตาชื่อเสียงของนางยับเยินไปหมดแล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะคนอื่นไม่อยากผิดใจกับพ่อของนางนางยังไม่รู้เลยว่าจะต้องได้ยินเสียงหัวเราะมากขนาดไหน
นางสาบานไว้แล้วว่าต้องยืนคนละโลกกับฟู่จาวหนิง!
หลี่จื่อเหยาจึงคิดจะเดินเข้ามาทางนี้ เซียวเหยียนจิ่งดึงนางไว้
"จื่อเหยา อย่าวู่วาม เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนี้นางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว?"
หลี่จื่อเหยาสีหน้าเปลี่ยน
นางเองก็ลืมไปแล้วจริงๆ เดิมทีนางคิดว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นแค่พระโอรสที่ไม่ได้มีอำนาจอะไร เป็นแค่ท่านอ๋องเอ้อระเหยลอยชาย ไม่ได้รับการเอ็นดู แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นน้องชายขององค์จักรพรรดิ ไม่ใช่ลูกชาย!
อ๋องเจวี้ยนสั่งคนขังนาง บิดานางก็อ้อนวอนคนไม่น้อยถึงได้นำนางออกมาได้
"อ๋องเจวี้ยนจะปกป้องนางได้จริงหรือ? ตอนนั้นข้าเสียมารยาทกับอ๋องเจวี้ยนเขาถึงโกรธขึ้นมา แต่นี่ข้าจะเข้าไปหาฟู่จาวหนิง เขาน่าจะไม่สนใจกระมัง?"
นางได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนต้องการพระชายาคนหนึ่ง ฟู่จาวหนิงเองก็ส่งมาหาที่หน้าประตูเลย!
อ๋องเจวี้ยนไม่มีทางให้ความสำคัญกับนางแน่
"ยังไม่ต้องสนใจนาง" เซียวเหยียนจิ่งรุ้สึกว่าหลี่จื่อเหยาโง่หน่อยๆ จริงๆ "ตอนนี้หมอเทวดาหลี่ทางนี้สำคัญกว่า"
"เอาล่ะ ท่านพี่เซียว ข้าจะฟังท่าน" หลี่จื่อเหยาถลึงตามองฟู่จาวหนิงอย่างแค้นเคือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
เนื้อหาน่าติดตาม สนุกมากค่ะ รออยู่นะคะ🫰🫰...
ว้าวกำลังอ่านเพลินๆเลย มาไวๆนะคะแอด❤️❤️❤️...
เอ็นดูกระบี่ชิงอีกลายเป็นมีดหั่นผัก5555 ไม่รู้ว่ากว่าจะจบจะถูกพระชายาแย่งดาบในมืไปกี่ครั้ง😂😂😂😂...
ใครมาอีกละนั่น...
พวกเหลือบไร ริ้น ทั้งหลายในจวนฟู่ เมื่อไรนางเอกจะกำจัดให้สิ้นซากเสียที ปล่อยให้เขารักแกท่านปู่อยู่ได้...
นางเอกไม่รักษาให้สามีล่ะ หรือรักษาไม่ได้กัน...
ไห่ฉางจวิ้นเหมือนจะฮาอยู่นะ นางชอบแต่คนหล่อๆ ฮ่าๆๆ...
สนุกมากค่าาาาา รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อเลย...