อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 186

ผู้อาวุโสจี้ตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว ผลักคนรอบข้างออกแล้วเบียดตัวเข้ามา เข้าไปมองใบหน้าของฮูหยิน

"ท่านอาจารย์ อย่าใจร้อน"

ฟู่จาวหนิงหยิบผ้าทำแผลเดินออกมาอย่างใจเย็น เช็ดหยดเลือดเหล่านั้นบนผ้าทำแผล สีม่วงสีเลือดพอย้อมปนกัน ก็มองเห็นชัดเจนเป็นพิเศษ

ในขอบเขตเข็มหกเล่มที่แทงลงไป มีตำแหน่งเล็บนิ้วหนึ่ง สีม่วงแต่เดิมจางลงไปมาก เทียบกับข้างๆ แล้วจางลงไปหลายระดับอยู่

"เป็นน้ำยาย้อมผมซึมเข้าไปจริงๆ ด้วย" ฟู่จาวหนิงหยิบผ้าทำแผลส่งให้ฮูหยินคนนั้นดู จากนั้นก็หันหน้าไปมองผู้อาวุโสจี้ "ท่านอาจารย์"

ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้นทันที "จะเอากระจกทองแดงใช่ไหม? มีมีมี" เขาเตะไปที่คนข้างกายอีกที

กระจกทองแดงจึงถูกส่งออกมาทันที ฮูหยินรับไป และก็เห็นว่าส่วนหนึ่งบนใบหน้าสีจางลงไปมากแล้วจริงๆ

ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่อ "นี่เป็นเพราะน้ำยาย้อมผมซึมเข้าไปบนหน้าท่าน แต่ว่าเพราะอะไรจึงซึมไปแค่ครึ่งหน้า ก็ยังต้องตรวจอย่างละเอียดอีกที เอาไว้ท่านนำยาเหล่านั้นมาให้ข้าดูหน่อย หมอเองก็ต้องตรวจด้วย รวมถึงผมที่ย้อมไป ต้องบอกกับข้าอย่างละเอียด จึงจะสามารถรักษาให้หายดีได้"

ฮูหยินร้องไห้โฮออกมา

"ข้าไม่ได้ป่วย ข้าไม่ได้โชคร้าย ไม่ได้ไปแปดเปื้อนสิ่งสกปรกอะไรมา ข้ารักษาได้"

นางกอดกระจกทองแดงร้องไห้จนแทบจะนั่งไม่อยู่แล้ว

กว่าครึ่งปีเป็นเพราะหน้าครึ่งซีกนี้ นางได้รับความทุกข์และทรมานมาสาหัสสากรรจ์ ที่บ้านก็จะแทบจะแตกระแหง จนตนเองก็แทบจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้นางจะมาพบกับแสงสว่างเข้า

"การจะขจัดน้ำยาบนใบหน้าเหล่านี้ออกให้สะอาด ก็ยังต้องใช้เวลาสักระยะ ถึงตอนนั้นท่านมาที่ตระกูลฟู่หาข้าก็ได้"

นางยังต้องสกัดยาอีก ขอแค่ใช้ยาผนวกกับการฝังเข็ม จึงจะสามารถดึงเอาน้ำยาออกมาได้

ตอนนี้ฟู่จาวหนิงยังไม่ได้พูดชัดเจนว่าน้ำยานี่ซึมเข้าไปได้อย่างไร เพราะสาเหตุเป็นไปได้ว่าอาจจะซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องมาพูดที่นี่

"ขอบคุณท่านมาก พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านเป็นผู้มีบุญคุณของข้าจริงๆ!" ฮูหยินคุกเข่าลงกับพื้นทันที โขกศีรษะให้ฟู่จาวหนิงสามครั้ง ร้องไห้จนตาบวม "ท่านช่วยข้าไว้ทั้งครอบครัว ช่วยลูกสาวข้าไว้ ถ้านางถูกถอนหมั้นล่ะก็คงจะมีชีวิตต่อไม่ได้แล้ว"

ฮูหยินร้องไห้ได้น่าเวทนามากจริงๆ มีฮูหยินทีอยู่ในกลุ่มผู้ชม ก็ถึงกับปาดน้ำตาตามไปด้วย

ไม่ง่ายเลย จินตนาการถึงพวกนางได้เลย ลูกสาวถ้าต้องมาถูกถอนหมั้นเพราะตนเอง แล้วตนเองก็ยังถูกสามีทอดทิ้งอีก เช่นนั้นแม่ลูกสองคนนี้ก็คงจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ

ฟู่จาวหนิงในมือยังมีของอยู่อีก ส่งสัญญาณให้เสี่ยวเถาช่วยประคองฮูหยินขึ้นมา

"เอาล่ะ รักษาให้หายได้ ไม่ต้องเสียใจไปแล้วนะ" นางปลอบประโลมไปคำหนึ่ง เก็บเข็มกับน้ำยาเหล่านั้นลงมา

ผู้อาวุโสจี้ก็ฮึดขึ้นมาทันที

เขามองไปทางหมอเทวดาหลี่ หัวเราะร่าขึ้นมา

"เป็นอย่างไร สกุลหลี่เอ๋ย พันธมิตรโอสถใต้หล้าของพวกเราก็มีหมออยู่ใช่ไหม วิชาแพทย์ของศิษย์ข้า ไม่ใช่ว่าเก่งกล้ากว่าเจ้าหรอกหรือ?"

"ทุกท่าน เมื่อครู่หมอเทวดาหลี่พูดว่าอะไรนะ? เขาคิดจะรักษาท่านป้าคนนี้อย่างไรกัน? ไอ๊หยา ข้าทำไมจู่ๆ ก็คิดไม่ออกขึ้นมา? มีใครช่วยข้าทวนความทรงจำหน่อยได้ไหม?"

ผู้อาวุโสจี้ยื่นมือขึ้นป้องข้างหู เตรียมที่จะฟังผู้ชนที่อยู่รอบๆ โยนหินทับถมหมอเทวดาหลี่

แล้วก็มีคนพูดขึ้นมาจริงๆ

"หมอเทวดาหลี่บอกว่ากากยาในหมอนเป็นต้นเหตุ แล้วยังให้คนกลับไปหยิบหมอนของท่านป้ามาอีกด้วย!"

"ใช่ๆๆ หมอเทวดาหลี่ยังพูดอีกว่า ไม่มีทางกำจัดสีม่วงนี้ให้หายไปได้ในทีเดียว ต้องรักษากันระยะยาวเลย!"

มีคนหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้ากัน

หมอเทวดาหลี่วางตัวยิ่งใหญ่มาหลายปี ปกติดวงตาของเขาก็ยืดขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะเขาแล้ว อันที่จริงผิดใจคนไว้ก็ไม่น้อย โดยเฉพาะเหล่าหมอที่ถูกเขาเหยียบไว้เหล่านั้น

ตอนนี้พอเห็นฟู่จาวหนิงตบฉาดเข้าที่หน้าเขา หมอพวกนี้ก็ล้วนรุ้สึกว่าความอึดอัดในหน้าอกสลายหายไปหมดแล้ว

ผู้อาวุโสจี้หัวเราะร่า ยื่นมือออกมาตบบ่าของหมอเทวดาหลี่

"ไม่เป็นไร หมอเทวดาหลี่ เหนือคนยังมีคนเหนือฟ้ายังมีฟ้า ศิษย์ของข้าเก่งกาจกว่าเจ้ามันก็เรื่องปกติ ถึงอย่างไรดูแค่หน้าตาก็มองออกแล้วว่าศิษย์ของข้าดูมีชีวิตชีวามีพรสวรรค์มากกว่าเจ้า นางฉลาดขนาดนี้ เจ้าแพ้ให้นางก็ไม่ถือว่าขายหน้าหรอก"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส