อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 21

เซียวชิงซานคิดแทนรุ่นหลังคนนี้อย่างจริงใจ

"นั่นมันคำเหลวไหลทั้งเพ" อ๋องเซียวพอเห็นเขากราดด่าลูกชายตนเองเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาพอควร "ท่านลุงตอนนั้นยังไม่ยอมเห็นด้วยกับหญิงชราตระกูลฟู่ที่จะให้เหยียนเซียวกับหลานสาวของนางหมั้นหมายกันอยู่เลย แล้วตอนนี้ตระกูลฟู่ตกต่ำลง สภาพบ้านเช่นนั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรกับพวกเขาอยู่แล้ว"

พอเขาได้ยินเรื่องวันนี้ ก็รู้สึกโกรธแค้นต่อฟู่จาวหนิงอย่างมาก

จวนชินอ๋องเซียวต้องมาถูกคนหัวเราะเยาะก็เพราะนาง

ตระกูลฟู่ตอนนี้เป็นเหมือนตะวันจะลับเขาแล้ว ฟู่จาวหนิงไม่รู้อะไรเสียเลยจริงๆ

"ใช่แล้วท่านปู่ หรือท่านไม่หวังให้ข้าได้มีพระชายารัฐทายาทดีหรือไรกัน?" เซียวเหยียนจิ่งก็เต้นเร่าขึ้นมา เนื้อตัวก็ยังเจ็บอยู่ เขาดูไม่เลือกคำพูดขึ้นมาเสียแล้ว "ท่านปู่เองตอนวัยหนุ่มก็ไม่ใช่เพราะช่วงเวลาหนึ่งกับฮูหยินตระกูลฟู่..."

"เซียวเหยียนจิ่ง!"

ฟู่ชิงซานเดือดดาล ตะคอกขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อ

เขาในฐานะที่เด็กกว่า แต่กลับกล้าหยิบเรื่องนี้มาเย้ยหยันเขาสงสัยเขาหรือ?

"ท่านลุง เหยียนจิ่งวันนี้เองก็ได้รับบาดเจ็บ ข้าให้คนไปเชิญหมอเทวดาหลี่มาดูเขาแล้ว แต่หลังจากท่านเข้ามาก้ไม่เห็นพูดว่าเป็นพวกอาการบาดเจ็บกับจิตใจของเขาเลย เอาแต่ตำหนิเขา ไม่กลัวว่าเหยียนจิ่งจะเศร้าหรือ"

"เจ้าอยากจะพูดว่าทำเจ้าเศร้าไปด้วยใช่ไหม?"

เซียวชิงซานหน้าดำถมึงทึง เขาไม่สนใจแล้ว ถึงอย่างตระกูลฟู่จาวหนิงคนนี้ก็กลายเป็นพระชายาไปแล้ว

"เอาล่ะ เป็นข้าที่ยุ่งมาเอง เช่นนั้นข้าจะไปแล้ว"

ฟู่ชิงซานสะบัดชายเสื้อ สิ่งที่ทำให้ใจเย็นวาบก็คือ อ๋องเซียวกับเซียวเหยียนจิ่งไม่พูดเพื่อรั้งเขาไว้เลย ปล่อยให้เขาเดินออกมา

"ท่านพ่อ ท่านปู่เขา" ฟู่เหยียนจิ่งรอเขาเดินออกไปก่อนจึงเอ่ยขึ้นว่า

ชินอ๋องเซียวโบกไม้โบกมือ "เขาแก่แล้ว ไม่สนใจธุระกงการมานานแล้ว เจ้าน่ะตอนนี้มาคิดดีกว่าว่าจะกู้หน้าคืนกลับมาอย่างไร"

"ขอแค่พระชายารัฐทายาทที่ข้าแต่งเข้ามาดีกว่าฟู่จาวหนิงสักร้อยเท่า หน้าที่เสียไปนี้ก็จะฟื้นกลับมาเอง"

เซียวเหยียนจิ่งคิดมาคืนหนึ่ง เขายังมีแผนอยู่อีก

"เจ้าไม่ใช่จะแต่งกับหลี่จื่อเหยาหรือ?"

อ๋องเซียวขมวดคิ้ว อันที่จริงเขาก็ไม่ค่อยยินดีนัก เพราะหลี่จื่อเหยาแม้จะมีหมอเทวดาเป็นบิดา แต่นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรเชิดหน้าชูตาอีก นิสัยเองก็ไม่ดี วันนี้ถ้าไม่ใช่นางไปก่อเรื่อง จวนอ๋องเซียวคงไม่ขายหน้าขนาดนี้

"นางจะมาคู่ควรกับข้าได้อย่างไร" เซียวเหยียนจิ่งใบหน้าหยิ่งทะนง "ข้าคิดจะแต่งกับท่านหญิงหลิงเล่อต่างหาก!"

ท่านหญิงหลิงเล่อ ถึงจะคู่ควรกับเขา

"ดีมาก!" อ๋องเซียวดวงตาเป็นประกาย ตัวเลือกนี้เข้าท่า

แต่เขาก็หันมาคิด "แต่พวกเราก็ผิดใจกับหมอเทวดาหลี่ไม่ได้นะ"

"ไม่เป็นไร ข้าสามารถเก็บหลี่จื่อเหยาไว้ได้ อย่างมากก็แค่หลังจากที่แต่งงานกับท่านหญิงเลิงเล่อ ข้าค่อยรับหลี่จื่อเหยามาเป็นฮูหยินรองก็ได้"

หมอเทวดาหลี่ทางนี้ เขาเองก็ไม่กล้าปล่อยวาง!

อ๋องเซียวพอเห็นว่าเขามีแผน จึงสงบใจลงมายื่นมือตบลงไปที่บ่าเขา "ถูกต้อง เจ้ามีความคิดกับตัดสินใจเช่นนี้ก็ดี"

เซียวเหยียนจิ่งพูดต่อว่า "แต่ว่าข้าเองก็ปล่อยฟู่จาวหนิงไปเช่นนี้ไม่ได้! พรุ่งนี้นางไม่ใช่ว่าจะเข้าไปที่เขาจันทร์ลับฟ้าหรือ? ข้าจะทำให้นางต้องเสียใจ!"

มีแค่เขาที่ถอนหมั้นได้ เมื่อไรกันที่ปล่อยให้ฟู่จาวหนิงมาทำ? กล้าทำให้เขาอับอายแล้วยังหันไปแต่งกับอ๋องเจวี้ยนอีก!

"ถูกต้อง จะปล่อยให้นางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่ได้" อ๋องเซียวเอ่ยเสียงขรึม

ฟู่จาวหนิงไม่รู้เลยว่ามีคนตั้งเท่าไรที่คิดจะสร้างความลำบากให้นาง แต่นางไม่ต้องคิดก็คงรู้ ว่าการเดินทางหาตัวยาบนเขาจันทร์ลับฟ้าจะไม่ราบรื่นแน่นอน

พอกลับมาถึงจวนอ๋องเจวี้ยน นางก็ส่งม้ากลับไปที่คอกม้า คนใช้คนนั้นพอเห็นก็ถลึงตาโต

ม้าตัวนี้ฟังคำพูดนางหรือ?

รอจนฟู่จาวหนิงจากไป คนใช้จึงทดลองหยิบอานม้าเดินตรงไปหาม้าตัวนั้น แล้วยังพูดเบาๆ ขึ้นมาอีกว่า "เด็กดี เจ้าม้าว่าง่าย ไม่ดื้อนะ ข้าจะใส่อานให้กับเจ้า หลังจากใส่อานแล้วเจ้าก็จะเป็นม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนแล้ว จากนี้เจัาก็จะลืมความป่าเถื่อนไปเอง"

"ฮี้!"

ม้าสะบัดเท้าหลัง กระโดดเหย่งอยู่กับที่ ทำเอาเขาตะใจถอยไปสิบกว่าก้าว

พอเดินทีก็เดินกันยาวนาน

หงจั๋วก้มหน้าถือตะเกียง อธิบายถึงสถานการณ์ในจวนอ๋องกับฟู่จาวหนิง ไม่พูดถึงเรื่องอื่น พูดแค่ว่าฟู่จาวหนิงไปที่ไหนได้ ไปที่ไหนไม่ได้

"เพราะท่านอ๋องไม่ค่อยจะกลับมา ดังนั้นในจวนอ๋องจึงไม่ค่อยมีแขกเท่าไร จึงไม่มีการจัดเตรียมเรือนแขกเอาไว้ ปกติเรือนต่างๆ จะถูกปิด"

การจะหาเรือนสักแห่งให้ฟู่จาวหนิงอยู่ก็ยังดูลำบาก

ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องไม่อยู่ คนในจวนเองก็น้อยมากอยู่แล้ว แต่นี่ให้มาจัดเตรียมเรือนเล็กให้คุณหนู่ฟู่แบบนี้ มันเกินไปหน่อยไหม? หงจั๋วยิ่งพูดก็ยิ่งกังวล ไม่กล้าจะมองฟู่จาวหนิงเลย

"เข้าใจ ไม่เป็นไร"

ฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็ไม่ได้หวังอะไรมากกับอ๋องเจวี้ยน ล้วนเป็นแค่การร่วมมือเท่านั้น หรือว่าอีกฝ่ายจะเห็นนางเป็นแก้วตายาใจในหนึ่งวันได้จริงๆ?

แต่หงจั๋วเองก็ยังรู้สึกแปลกๆ

คุณหนูฟู่ต้องโกรธหรือเสียใจ ต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับไม่สงบใจสิถึงจะถูก แล้วทำไมคุณหนูฟู่จึงนิ่งเสียขนาดนี้?

ผู้ดูแลหาเรือนเล็กเรือนหนึ่งที่ชื่อว่าเรือนเจียนเจีย พูดได้ว่าเล็กสุดๆ

ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่สุดก็คือต้นไม้วัชพืชในเรือนยังไม่ได้ตัดแต่งเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแค่สามห้อง ห้องหลักตรงกลาง และมีข้างซ้ายขวาขนาบอยู่ และมีห้องเก็บของเล็กๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง

ที่นี่ดูแล้วทรุดโทรมอย่างมาก

ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงการต้อนรับที่เย็นชาของอ๋องเจวี้ยนต่อตัวนาง นี่ไม่ได้จงใจใช่ไหม?

ทั้งจวนอ๋องเจวี้ยนตั้งใหญ่โต นางไม่เชื่อว่าจะหาเรือนที่ดีกว่านี้ให้นางพักไม่ได้!

ตอนนี้ใต้ชายคาเรือนมีตะเกียงแขวนอยู่ ห้องหลักก็มีเทียนจุดไว้ เฝิ่นซิงยังคงวุ่นกับการเก็บกวาดอยู่

"คุณหนูฟู่"

หงจั๋วเอ่ยขึ้นจะถามฟู่จาวหนิงว่ายังขาดอะไรไหม พวกนางจะไปยื่นขอจากผู้ดูแล และที่พงหญ้าของมุมหนึ่งจู่ๆ ก็มีหนูตัวหนึ่งพุ่งพรวดออกมา กำลังตรงเข้ามาหาฟู่จาวหนิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส