"จี๊ด!"
"อ๊า" หงจั๋วตกใจสะดุ้งโหยง แต่ก็ยังกรีดร้องไปด้วยพลางโบกตะเกียงไปทางหนตัวนั้นด้วย
นางปกป้องฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณ
พอเห็นข้อมือฟู่จาวหนิงขยับ เข็มเล่มหนึ่งก็พุ่งไปทางหนูตัวนั้น
"จี๊ด!"
หนูร้องขึ้นมาเสียงหนึ่ง ชักกระตุกอยู่บนพื้นครู่หนึ่งก็แน่นิ่งไป
ฟู่จาวหนิงยื่นมือไปตบบ่าของหงจั๋ว "ไม่ต้องกลัว"
หงจั๋วมองนางอย่างตะลึงงัน ปลายจมูกร้อนขึ้นมา
ฮือๆ คุณหนูฟู่ดีจังเลย คุณหนูฟู่ความสามารถยอดเยี่ยมจริงๆ!
ตะเกียงเพิ่งถูกนางสะบัดไปทางหนู ร่วงอยู่บนพื้น ไส้ตะเกียงด้านในลุกติดขึ้นมา เผาตัวตะเกียงกระดาษจนทะลุไปแล้ว วัชพืชทางนั้นเองก็ถูกเผาไหม้ขึ้นมาเช่นกัน ชั่วขณะหนึ่งเปลวไฟก็ส่องสว่างตัวเรือนที่มืดมิดขึ้น
เฝิ่นซิงถือกระถางใส่น้ำรีบวิ่งเข้ามา สาดไปบนเปลวไฟ เสียงชี่ดังขึ้น เปลวไฟถูกดับ ควันดำลอยขึ้น กลิ่นค่อนข้างแย่
"คุณหนูฟู่ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?"
ฟู่จาวหนิงสั่นหัว "ไม่เป็นไร"
นางยกเท้าเดินตรงเข้าไปในห้อง ห้องหลักนี้แบ่งเป็นด้านในและนอกสองห้อง ถูกกั้นแยกด้วย ประตูโค้งครึ่งวงกลมบานหนึ่ง ด้านบนประตูโค้งเดิมทีแขวนผ้าม่านไว้ แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า ยืนที่ประตูสามารถกวาดมองเข้าไปเห็นเตียงที่อยู่ด้านในได้
เตียงเองก็เป็นแบบเรียบง่าย มุ้งยังไม่ได้แขวนขึ้นไป บนเตียงวางผ้าห่มไว้กองหนึ่งยังไม่ได้จัดปู
โต๊ะสี่เหลี่ยมตัวหนึ่งด้านนอก มีเก้าอี้กลมสี่ตัว โต๊ะไม้สำหรับล้างหน้าบ้วนปากตัวหนึ่ง โต๊ะแต่งหน้าเล็กๆ อีกตัวหนึ่ง ด้านบนโล่งโจ้ง
อีกด้านหนึ่งมีตู้ไม้ติดกำแพงสูงครึ่งตัวคนอีกด้านละตู้ ตอนนี้บานตู้เปิดอยู่ น่าจะเป็นเฝิ่นซิงเพิ่งเช็ดไป และเปิดบานตู้ไว้เพื่อระบายอากาศ
ในห้องมีหน้าต่าง หน้าต่างอยู่ตรงกับโต๊ะสี่เหลี่ยม ตอนนี้หน้าต่างเองก็เปิดอยู่ ม่านหน้าต่างยังไม่มี หน้าต่างกระดาษด้านบนก็มีฝุ่นร่วงลงมา มีหลายมุมที่ปลิวออกไปแล้ว
จวนอ๋องเจวี้ยนนี้
ฟู่จาวหนิงถอนหายใจเบาๆ
นี่มันไม่ได้ต่างอะไรกับบ้านที่มีแค่สี่กำแพงกั้นเลย
เฝิ่นซิงกับหงจั๋วติดตามเข้ามา สบตากันเอง "คุณหนูฟู่ พรุ่งนี้พวกเราจะไปถามผู้ดูแลให้ ว่าหาเรือนอีกหลังได้หรือไม่"
พวกนางก่อนหน้าที่เข้ามาในเรือนเจียนเจียก็รู้สึกยากจะทานทนจริงๆ
ฟู่จาวหนิงส่ายหัว ดูใจเย็นมาก "ไม่ต้องหรอก"
ก่อนหน้านี้นางเคยไปยังสถานที่ที่เลวร้ายกว่าที่นี่มาแล้ว รอจนให้เรื่องมันคลายลงก่อน พอช่วยเหลือท่านปู่ได้แล้ว ถึงตอนนั้นค่อยหารือกับอ๋องเจวี้ยนเรื่องหย่าแล้วกัน ทั้งสองคนแยกทางกันเดินก็น่าจะดีอยู่
ตอนนี้ก็อยู่ในที่แบบนี้ไปก่อนแล้วกัน เป็นแค่แขกจะเลือกมากได้อย่างไร?
เฝิ่นซิงกับหงจั๋วล้วนรู้สึกว่านางใจเย็นเกินไป แต่พวกนางเดิมทีก็เป็นแค่คนใช้ชั้นสองในจวนอ๋องเท่านั้น พูดอะไรมากไม่ได้
"คุณหนูฟู่ ถ้าเช่นนั้นพวกเราเก็บกวาดต่ออีกสักหน่อย"
ห้องนี้ไม่มีคนมาใช้งานนานแล้ว ดูไม่มีกลิ่นอายของผู้คนอยู่เลย มุมกำแพง หลังประตู แล้วก็อีกหลายแห่งมีราขึ้น ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเพดานห้อง กระทั่งยังเห็นใยแมงมุมอยู่สองสามใยอีกด้วย ในห้องก็อับชื้น
เดิมทีห้องแบบนี้ต้องปัดกวาดแล้วรมด้วยหญ้าไอ จากนั้นผึ่งลมไว้สักสองวันก็เข้าอยู่ได้
ตอนนี้ฟู่จาวหนิงขี้เกียจจะไปจู้จี้กับคนในจวนอ๋องแล้ว
ยังดีที่สาวใช้สองคนนี้ดีมาก ลงมือทำงานขึ้นมาก็ดูคล่องแคล่วดี
พวกนางเก็บกวาดสิ่งที่เก็บกวาดได้แล้ว นำฟูกเตียงออกมาปู แขวนมุ้งขึ้นไป จากนั้นก็หาม่านหน้าต่างมาแปะไว้ก่อน จากนั้นจึงหยิบเทียนอีกหลายเล่มเข้ามา ก็ถือว่าพอจะผ่านคืนนี้ไปได้แล้ว
วุ่นกันเช่นนี้ ค่ำคืนก็ดึกมากแล้ว
อ๋องเจวี้ยนทางนั้นก็ไม่ได้ส่งคนเข้ามาพูดอะไร ไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลย
ฟู่จาวหนิงตอนที่กลับมาจากตระกูลฟู่เดิมทีคิดว่าหลังจากถึงจวนอ๋องแล้ว จะถามเรื่องไปเขาจันทร์ลับฟ้าวันพรุ่งนี้อีกหน่อย แต่ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนก็ดูไม่ใส่ใจอย่างชัดเจน นางคงต้องพึ่งแค่ตนเองเสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
อัพต่อหน่อยจ้า...
ตามอ่านมายังไม่อัพจบสักเรื่องเลยเว็ปนี้อะ😒😒...
ทำยังไงถึงจะได้ต่อคะ สนุกดีค่ะ...
อัพต่อนะคะ...
อัพต่อนะคะ รอนางเอกฟาดนางอิจฉาอยู่ หายไปนานๆใจคอไม่ค่อยดี 😅...
อัพต่อเถอะนะคะ..กำลังรอฟู่จาวหนิงฟาดซ่งอวิ๋นเหยาอย่าให้รอเก้อเลยนะคะ..พรีสสสส😅😅😅😅...
เออ รู้จักคนมากมาย แล้วยังไงต่อ...
คนรักเก่าของท่านอ๋องนี่น่ารังเกียจจริงๆ...
ไม่อัพแล้ว???...
ลุ้นนต่อ...