การทดสอบครั้งนี้ ตามกฎแล้วฟู่จาวหนิงต้องไปค้นหาวัตถุดิบยาคนเดียว แต่นางมีฝีมือขนาดนั้นไหม?
ตาเฒ่าจี้ถลึงตามองไปทางรองขุนพลหลิว
"นางไม่ใช่ออกมาคนเดียวหรือไรกัน?"
"ผู้อาวุโสจี้ นี่พิสูจน์ไม่ได้ว่าของพวกนี้นางขุดมาคนเดียวนะ" รองขุนพลหลิวผายมือออก
"ในวังส่งพวกเจ้ามาคุ้มครองที่ทางเข้านี้ เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าไป แล้วพอไม่มีคนอื่นขึ้นภูเขา แล้วจะมีคนมาช่วยเหลือนางหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถามขึ้นมาอีก
รองขุนพลหลิวมองไปทางอ๋องเจวี้ยน
"เรื่องนี้ก็พูดยาก พวกเราแค่คุ้มกันทางเข้านี้ แต่คนบางส่วนก็สามารถลอบส่งคนเข้าไปทางอื่นก็ได้จริงไหม"
อ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงเรียบ "ดังนั้น ตอนที่เจ้าพูดประโยคนี้แล้วมองข้า คือเจ้ากำลังสงสัยข้าสินะ?"
"ข้าน้อยมิกล้า"
รองขุนพลหลิวถึงแม้จะพูดว่าไม่กล้า แต่สีหน้าของเขากลับพุ่งชี้มาที่เขาอย่างชัดเจน
เขามั่นใจว่าตอนนี้อ๋องเจวี้ยนก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้
แต่พริบตาต่อมา กลับเห็นว่าเบื้องหน้ามีแสงเย็นสว่างวาบ
รองขุนพลหลิวตกตะลึง รีบร้อนคิดจะถอยหนี แต่ก็ไม่ทันแล้ว กระบี่เล่มหนึ่ง แทงเข้าไปที่ท้องของเขา
เลือดทะลักออกมา
"อ๊า!" คนที่ยืนอยู่ข้างๆ รองขุนพลหลิวตกใจจนหน้าถอดสี รีบร้อนถอยหนี
รองขุนพลหลิวค่อยๆ ก้มหน้าลงอย่างไม่อยากเชื่อ ตอนที่เขาได้เห็นด้วยตาตนเอง กระบี่เล่มนั้นก็ถูกชักออกไปแล้ว
อ๋องเจวี้ยนกระบี่ที่เปื้อนเลือดโยนคืนไปให้ชิงอี เขาหยิบผ้าเช็ดมือผืนหนึ่งออกมา เช็ดนิ้วมืออย่างละเอียดพลางเอ่ยขึ้นเสียงเรียบกับเขา "ข้าไม่ได้กลับเมืองหลวงมาหลายปี ตอนนี้ราชองครักษ์รองขุนพลตัวจ้อยคนหนึ่งก็ยังกล้ามากระโดดโลดเต้นบนหัวข้าหรือ"
อืม ใครให้หน้า ใครมอบความกล้ามาให้กัน?
รองขุนพลหลิวใช้สองมือกดท้องไว้ เลือดยังไหลออกมาตลอด ดวงตาที่หมดประกายของเขามองไปทางหมอเทวดาหลี่
หมอเทวดาหลี่เองก็หน้าขาวซีดไปแล้ว
อ๋องเจวี้ยนที่แท้ก็เป็นคนน่ากลัวเช่นนี้หรือ?
ตอนนี้เอง อ๋องเจวี้ยนก็มองไปทางฟู่จาวหนิง เอ่ยขึ้นมาอีกว่า
"ไม่ใช่บอกว่าเจ้ารู้เรื่องหมอหรือ? พวกเขาในเมื่อสงสัยว่าเจ้าไม่รู้จักวัตถุดิบยาเหล่านี้ สงสัยว่ามีคนอื่นมาช่วยเจ้า เช่นนั้นก็ให้โอกาสเจ้าพิสูจน์ ที่นี่มีวัตถุดิบยาห้ามเลือดหรือไม่?"
ฟู่จาวหนิงเพิ่งได้สติกลับมา "ท่านจะให้ข้าห้ามเลือดเขาหรือ?"
นางเองตอนนี้ก็เพิ่งพบว่าอ๋องเจวี้ยนคนนี้ก็มีนิสัยอันตรายอยู่อีกด้วย เห็นว่าหน้าตาเย็นชาร่างกายป่วยกระเสาะกระแสะมาหลายปี ยังคิดว่าจะเป็นคนที่เย็นชาสักหน่อยเสียอีก ใครจะรู้ว่าในกระดูกเขาก็ยังมีด้านที่โหดร้ายทารุณอีกด้วย!
"กระบี่ข้าเบี้ยวไปหน่อย ไว้ชีวิตน่าเวทนาของเขาไว้ แต่ว่า จะห้ามเลือดได้หรือไม่ก็อยู่ที่เจ้าแล้ว"
ฟู่จาวหนิงเม้มปาก หยิบหย้าสมุนไพรช่อหนึ่งในนั้นออกมา ยื่นมือคว้าไปทางชิงอี ชิงอีก็ตกตะลึง ยังไม่ทันได้สติ กระบี่ที่เพิ่งจะถูกเช็ดเลือดจนสะอาดก็ไปอยู่ในมือฟู่จาวหนิงแล้ว
ชิงอี "..."
เอาล่ะ ข้าไม่ต้องเหลือหน้าไว้แล้วใช่ไหม? ท่านอ๋องจู่ๆ ก็แย่งกระบี่ของเขาไปเขายังไม่กล้าพูดอะไร แต่ฟู่จาวหนิงทำไมก็ยังสามารถชิงกระบี่ของเขาไปได้ในพริบตากัน?
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นครั้งที่สองแล้วด้วย!
ฟู่จาวหนิงจับกระบี่ลงมือสับตับๆๆๆ ไปที่หญ้าสมุนไพรช่อนั้น
ชิงอีกแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว กระบี่ล้ำค่าของเขา ตอนนี้กลายเป็นมีดหั่นผักไปแล้วหรือ? ทำไมฟู่จาวหนิงจึงเอาใช้กระบี่ไปสับสมุนไพรได้กัน? ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้ได้อย่างคล่องแคล่วอีก
คนอื่นเองก็ถลึงตาอ้าปากค้างมองท่าทางที่แตกต่างจากคนปกติของฟู่จาวหนิง
ฟู่จาวหนิงไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของพวกเขา ล้วงเอาใบไม้ที่หนาหน่อยอีกกำหนึ่งออกมาจากในตะกร้ายา ดยนเข้าไปในกองหญ้าสมุนไพรนั่น จากนั้นก็ใช้กระบี่สับๆๆ ต่อ
จังหวะที่ตาเฒ่าจี้เห็นนางใส่ใบไม้เข้าไปดวงตาก็เป็นประกาย สายตาที่มองฟู่จาวหนิงก็ราวกับมองเห็นสมบัติอย่างไรอย่างนั้น
"สาวน้อย เจ้ายังหาบัวกลีบไม้มาได้ด้วย!"
"อะไรนะ? บัวกลีบไม้นั่นเป็นวัตถุดิบยาล้างแผลที่ดีที่สุดนี่!" หมอหลวงคนหนึ่งร้องเสียงหลงขึ้นมา "ในวังตอนนี้ก็กำลังขาดแคลนบัวกลีบไม้อยู่เลย"
แต่ฟู่จาวหนิงกลับโยนกำหนึ่งลงไปสับจนละเอียดเสียแล้ว!
ฟู่จาวหนิงกอบยากองใหญ่ขึ้นมา เดินตรงไปเบื้องหน้ารองขุนพลหลิว ยกเท้าถีบหน้าอกเขา จนเขาหงายหลังล้มตึงกับพื้น
ตึง
"นี่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
เนื้อหาน่าติดตาม สนุกมากค่ะ รออยู่นะคะ🫰🫰...
ว้าวกำลังอ่านเพลินๆเลย มาไวๆนะคะแอด❤️❤️❤️...
เอ็นดูกระบี่ชิงอีกลายเป็นมีดหั่นผัก5555 ไม่รู้ว่ากว่าจะจบจะถูกพระชายาแย่งดาบในมืไปกี่ครั้ง😂😂😂😂...
ใครมาอีกละนั่น...
พวกเหลือบไร ริ้น ทั้งหลายในจวนฟู่ เมื่อไรนางเอกจะกำจัดให้สิ้นซากเสียที ปล่อยให้เขารักแกท่านปู่อยู่ได้...
นางเอกไม่รักษาให้สามีล่ะ หรือรักษาไม่ได้กัน...
ไห่ฉางจวิ้นเหมือนจะฮาอยู่นะ นางชอบแต่คนหล่อๆ ฮ่าๆๆ...
สนุกมากค่าาาาา รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อเลย...