อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 83

เฝิ่นซิงก็รีบรับคำทันที "พระชายา ข้าน้อยจะไปเตรียมชา เป็นหลงจิงได้ไหม?"

"ได้หมด ขอบคุณ"

สาวใช้ทั้งสองรับคำและคารวะไปทางไห่ฉางจวิ้น จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปแล้ว พวกนางไม่มองชิงอีเลยแม้แต่น้อย

ส่วนชิงอีที่ถูกเมิน "..."

ทำไมกัน เขาไม่มีตัวตนเลยหรือ?

สาวใช้สองทั้งสองตอนนี้ดูจะปีกกล้าขาแข็งขึ้นจริงๆ เสียแล้ว เพราะรู้สึกว่าเขาทำไม่ดีกับพระชายา ดังนั้นเลยมางอนเขาหรือ?

ชิงอีพาฟู่จาวหนิงกับไห่ฉางจวิ้นมาถึงข้างศาลา มีม่านกันลม ปลิวไสวแผ่วเบา เซียวหลันยวนในชุดคลุมสีม่วง ผ้าพันคอจิ้งจอกขาวยิ่งขับครึ่งใบหน้าที่งดงามราวรูปสลักนั้นให้สมบูรณ์ขึ้นไปอีก หน้ากากสีเงินทำให้เขาดูแล้วสูงสง่าอย่างลึกลับ

ข้างๆ มีเตาถ่านดินแดงใบเล็ก น้ำกำลังเดือดปุดๆ ควันขโมง ถาดชาเคลือบขาวใบหนึ่ง ด้านบนมีอุปกรณ์ชงชาเหมียวหลงวางไว้ ทำเอาคนไม่อาจมองข้ามตัวตนฐานะเขาไปได้เลย

คนธรรมดากล้าใช้อุปกรณ์ชงชาของเหมียวหลงเสียที่ไหน? อุปกรณ์ชงชานี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทาน

ฟู่จาวหนิงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เซียวหลันยวนกำลังต้มชาอยู่ที่นี่ หงจั๋วกับเฝิ่นซิงกลับรีบไปรินชาให้นางหรือ?

แต่ว่าก็ดี ถึงอย่างไรนางก็คงจะดื่มชาที่ผู้ชายเลวอย่างเซียวหลันยวนต้มให้ด้วยตัวเองไม่ลงหรอก

ถึงแม้จะมีความเห็นกับตัวเขาบ้าง แต่ฟู่จาวหนิงเองก็อดยอมรับไม่ได้ ว่าเขานั่งอยู่ที่นั่นราวกับเป็นภาพวาดเลยทีเดียว ภาพชายงามต้มน้ำชา

ไห่ฉางจวิ้นก็มองจนเหมือนน้ำลายจะหกแล้ว

"อ๋องเจวี้ยน ข้ามาแล้ว!"

ไห่ฉางจวิ้นวิ่งออกไปอย่างเริงร่า แย่งลงนั่งตรงข้ามกับอ๋องเจวี้ยน จากนั้นจึงยักคิ้วหลิ่วตาอย่างภูมิใจใส่ฟู่จาวหนิง

"แม่นางไห่"

เซียวหลันยวนทักทายนาง จากนั้นก็แหงนมองไปทางฟู่จาวหนิง "พระชายาสวมเสื้อบางเหลือเกิน หนาวหรือไม่"

ที่ฟู่จาวหนิงใส่คือชุดเก่าก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะไม่ได้เก่าเท่าชุดเมื่อวาน แต่ก็บางไปหน่อย ในช่วงสภาพอากาศที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็รู้สึกหนาวเล็กน้อย

"ข้าสุขภาพแข็งแรง เลือดลมเพียงพอ ไม่เหมือนท่านอ๋องที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ยังไม่ทันจะเข้าฤดูใบไม้ร่วง ก็ต้องสวมผ้าพันคอขนสัตว์เหมือนเสื้อผ้าหน้าหนาวเสียแล้ว"

ฟู่จาวหนิงแซะไปประโยคหนึ่งอย่างไม่เกรงใจ

พอเห็นเสื้อผ้าที่เซียวหลันยวนสวม ได้ยินคำพูดของฟู่จาวหนิง ไห่ฉางจวิ้นก็พบว่าไม่ค่อยถูกต้อง วันนี้เวลานี้ ยังไม่จำเป็นต้องแต่งตัวแบบนี้นี่นา

"อ๋องเจวี้ยน ท่านป่วยหรือ? ท่านป่วยอะไรหรือ?"

พรวด

ชิงอีที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินก็มุมปากกระตุก สายตาที่มองไห่ฉางจวิ้นก็ดูไม่ค่อยยินดีขึ้นมา นักบุญหญิงของเผ่าโม๋ลั่วคนนี้มันอย่างไรกัน? มีคนพูดจาแบบนี้ด้วยหรือ?

"ข้าร่างกายอ่อนแอไปหน่อยจริงๆ นั่นล่ะ" เซียวหลันยวนเองก็ตอบกลับอย่างซื่อตรง "เรื่องนี้ ในเมืองหลวงมีคนไม่น้อยที่รู้"

"อา เช่นนั้นให้ข้าลองจับมือดูหน่อย ข้าเป็นวิชาแพทย์อยุ่บ้าง เพียงแต่วิชาแพทย์พวกเราทางนั้นแตกต่างกับของพวกท่านทางนี้ ข้าต้องสำรวจฝ่ามือกับนิ้วมือซ้ายของท่าน"

พอเห็นชายหนุ่มที่สูงส่งทรงสง่าเช่นนี้บอกว่าตนเองอ่อนแอ ไห่ฉางจวิ้นก็ปวดใจขึ้นมา รีบร้อนเอ่ยกับเขา "ท่านรีบส่งมือให้ข้าเถอะ ข้าดูหน่อย ข้าต้องรู้ก่อนว่ามือท่านเวลานี้เย็นแค่ไหน"

ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามานั่งอยู่ข้างๆ

นางมองเซียวหลันยวนอย่างเย้าแหย่ มองออกถึงไมตรีจิตที่แม่นางคนนี้มีให้ท่านหรือยัง ในเมื่อเป็นรักครั้งแรก ก็รีบคบหาไปเลยสิ

พวกเขาถ้าคบหากัน เรื่องหย่าล้างของนางก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายขึ้นแล้วหรือ?

ในสายตาไห่ฉางจวิ้น เซียวหลันยวนมองมือของนางที่วางรออยู่บนโต๊ะ แต่กลับหันมาทางฟู่จาวหนิง

เขายื่นมือออกไป คว้ามือของฟู่จาวหนิง

"พระชายาของข้าก็มีวิชาแพทย์ ลองให้พระชายาดูมือของข้าแล้วกันว่าเย็นแค่ไหน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส