อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 92

เซียวหลันยวนตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

"ใครกันแน่ที่บังอาจ?"

เขากับฟู่จาวหนิงแม้เป้าหมายที่แต่งงานกันจะไม่บริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้ฐานะของนางก็คือพระชายาอ๋องเจวี้ยน ยืนอยู่ข้างกายเขา

ตัวเขาเองไปรังแกนั้นได้อยู่ แต่คนนอกจะมาหน้าใหญ่เช่นนี้ได้ด้วยหรือ?

"ที่นี่คือจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าเองก็ยืนอยู่ที่นี่ ฮูหยินชรากำลังมาอวดเบ่งบารมีอะไรหรือ?"

ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไป มองไปทางเซียวหลันยวน

นางคิดไม่ถึง ว่าเขาจะงัดกับฮูหยินชราคนนี้ตรงๆ

คนที่ไท่ซ่างหวงไหว้วานให้มาส่งของขวัญให้เขา ไม่ใช่ว่าควรจะต้องเคารพนอบน้อมหรือไรกัน?

ฮูหยินชราเองก็นิ่งแข็งไป นางไม่อยากจะเชื่อ "อ๋องเจวี้ยน?"

"ฮูหยินชราก็ยังรู้จักอ๋องเจวี้ยนอย่างข้านี่" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงฟู่จาวหนิงเดินมายังที่นั่งหลักของโถงใหญ่ เข้ามานั่งลงด้วยกันกับเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน

"ฮูหยินชิงเหตุใดต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กกัน? อามิตตาพุทธ" ปรมาจารย์ฉือเชินพนมสองมือ ก่อนหน้าที่ฮูหยินชิ่งจะเอ่ยปากก็แย่งพูดมาก่อน "โยมน้อยฟู่เองก็ไม่รู้จักพวกเราจริงๆ"

"เด็กหรือ? นางแต่งงานกับคนอื่นแล้วยังเป็นเด็กอีกหรือ?" ฮูหยินชิ่งร้องเชอะ จากนั้นเลิกหนังตากวาดไปยังฟู่จาวหนิงอีกครั้ง

แต่นางก็ไม่พูดอะไรอีก

ชายชราที่เหมือนกับนักปราชญ์เฒ่าคนนั้นก็เอ่ยขึ้นบ้างเช่นกัน "ไม่ว่างานแต่งงานนี้จะสำเร็จหรือไม่ ในเมื่อเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะเรียนรู้มารยาทที่ควรเรียนด้วย"

"กฎเกณฑ์บนโลกนี้ ไม่ใช่ล้วนกำหนดขึ้นโดยมนุษย์หรือ? การกระทำล้วนทำจากจิตสำนึกที่ชัดเจน แล้วจะเรียกร้องกฎเกณฑ์ให้มากไปใย? ข้าเป็นว่าโยมน้อยฟู่คิ้วค่าหน้าตาแจ่มใส เป็นเด็กที่มีระเบียบแบบแผนคนหนึ่งเลยทีเดียว" ปรมาจารย์ฉือเชินเอ่ยขึ้นอีก

ฟู่จาวหนิงชูนิ้วโป้งสองข้างให้กับเขาทันที

นางเอ่ยชนขึ้นอย่างไม่หวงแหน "ท่านปรมาจารย์ ข้าคิดว่าท่านสายตายอดเยี่ยมมาก"

ปรมาจารย์ฉือเชินอดหัวเราะร่าขึ้นมาไม่ได้

เซียวหลันยวนเองก็มีประกายยิ้มออกมา แต่ก็สะกดลงไปอย่างรวดเร็ว

เขาเห็นสีหน้าร้อนรนของผู้ดูแลกับชิงอี

ชิงอีกร้อนรนและกังวลจริงๆ ท่านอ๋องทำไมจึงไปงัดกับฮูหยินชิ่งกัน? ต้องรู้ด้วย ว่าที่ไท่ซ่างหวงฝากฝังพวกเขามาเป็นเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว ใครก็ไม่รู้ทั้งนั้นว่าไท่ซ่างหวงเตรียมอะไรไว้ ถ้าสามคนนี้ไม่ส่งของให้กันล่ะ?

เดิมทีก่อนหน้านี้ พวกเขาล้วนไม่คิดว่าจะมีโอกาสเสียด้วยซ้ำ แต่ว่าหลังจากพอเห็นฮูหยินชิ่งกับปราชญ์ชราคนนั้น พวกของชิงอีก็อดเกิดความกังวลขึ้นมาไม่ได้

สิบกว่าปีแล้ว ไท่ซ่างหวงเองก็ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว จะมีใครบ้างที่รู้ว่าในอดีตเตรียมอะไรไว้?

ยังดีที่ในสามคนนี้ยังมีปรมาจารย์ฉือเชินอยู่ท่านหนึ่ง ปรมาจารย์ดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนที่ละโมภกระมัง?

"นอกจากปรมาจารย์ฉือเชินแล้ว ข้าไม่เคยเห็นท่านทั้งสองมาก่อน ทั้งสองท่านควรจะชี้แจ้งตัวตนฐานะหน่อยมิใช่หรือ?" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น

ตอนนี้บารมีอันสูงส่งของตัวตนฐานะเขาก็ยังไม่ได้เก็บงำลงมา

นักปราชญ์เฒ่ากับฮูหยินชิ่งสบตากัน ลุกขึ้นยืน

"ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนเคยได้ยินตระกูลปาฉินฮู่บ้างไหม?" นักปราชญ์เฒ่าเอ่ยขึ้น

"แล้วก็ตระกูลมู่เฉิงชิ่งด้วย" ฮูหยินชิ่งเอ่ยขึ้น

"ซี๊ด..."

ชิงอีอีกด้านก็อดสูดปากขึ้นไม่ได้ ผู้ดูแลจงเองก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ฟู่จาวหนิงมองไปทางเซียวหลันยวน ชายคนนี้สวมหน้ากากอยุ่ สีหน้ามองไม่ชัด แต่มุมปากเองก็ไม่ขยับ ราวกับว่าสงบนิ่งไม่ใส่อกใส่ใจอย่างไรอย่างนั้น

ตระกูลปาฉินฮู่กับตระกูลมู่เฉิงชิ่ง ยอดเยี่ยมมากเลยหรือ?

นางทำไมไม่เคยได้ยินเลย?

แต่ที่ทำให้ไท่ซ่างหวงฝากฝังเรื่องใหญ่เช่นนี้ไว้ได้ ก็น่าจะไม่ใช่คนธรรมดานั่นล่ะนะ

"ท่านอ๋อง" ชิงอีกเรียกอ๋องเจวี้ยนเสียงแผ่ว

กระทั่งฟู่จาวหนิงก็ยังเข้าใจความหมายของเขา ควรจะผ่อนคลายบรรยากาศลงหน่อยดีไหม? เมื่อครู่ทั้งสองฝ่ายไม่ค่อยจะยินดีเท่าไรนัก ถ้าท่านอ๋องตอนนี้ยอมพูดผ่อนปรนออกมาสักคำ ให้หน้าอีกฝ่ายเสียหน่อยก็คงจะดี

เซียวหลันยวนน้ำเสียงไม่เปลี่ยน ตอบมาเพียงสองคำ

"เคยได้ยิน"

แค่นี้หรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส