อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 116

"เมียเจ้าเจ็ด ออกมาเถอะ"

ภายใต้สายตาตื่นตระหนกตกใจของฮองเฮาจ้าวกับฉินซื่อเสวีย โม่จงหรานก็หันหน้าไปมองที่ด้านหลังฉากบังลม

สองคนแม่ผัวลูกสะใภ้ต่างก็หันหน้าไปมองทันที เห็นแค่หยุนหว่านหนิงเดินยืดอกเชิดหน้าออกมาจากด้านหลังฉากบังลม

“ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่ได้?!”

ฮองเฮาจ้าวตกตะลึงจนตาค้าง!

ถ้าหยุนหว่านหนิงอยู่ที่นี่ตลอดเวลา ก็หมายความว่า... คำพูดที่พวกนางพูดออกไปเมื่อครู่นี้ ก็ถูกอีกฝ่ายได้ยินจนหมดจนสิ้นแล้วน่ะสิ? !

การที่หยุนหว่านหนิงออกมาตอนนี้ จะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ!

เพียงแค่มองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของนาง ฮองเฮาจ้าวก็รู้ทันทีว่านังผู้หญิงชั้นต่ำนี่กำลังจะก่อเรื่องขึ้นอีกแล้ว

ในใจนางพลันมีลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นมา หันไปมองฉินซื่อเสวียโดยไม่รู้ตัว

เป็นอย่างที่คิด สีหน้าของฉินซื่อเสวียก็ดูมีท่าทางร้อนตัวอย่างหนัก

สองคนเมื่อเทียบกันแบบนี้แล้ว มันเห็นได้ชัดเจนมาก ว่าใครเหนือกว่าใครด้อยกว่า

ในแววตาของฮองเฮาจ้าวที่มองฉินซื่อเสวีย ปรากฏแววรังเกียจขึ้นมาถึงสองส่วน

"เสด็จพ่อ เสด็จแม่"

หลังจากที่หยุนหว่านหนิงทักทายโม่จงหรานและฮองเฮาจ้าว ด้วยท่วงท่าเคารพให้เกียรติเสร็จ เห็นว่าน้ำตาบนใบหน้าของฉินซื่อเสวียยังไม่แห้ง ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ

นี่นางคิดจะทำอะไร?

ฉินซื่อเสวียกับฮองเฮาจ้าว ต่างจ้องมองนางแบบตาไม่กระพริบ

เห็นแค่หยุนหว่านหนิงสะบัดผ้าเช็ดหน้า แล้วยกขึ้นมาปิดหน้าตัวเองพลางสะอื้นไห้ "เสด็จพ่อ ล้วนเป็นความผิดของหม่อมฉันเองเพคะ"

“หม่อมฉันไม่รู้ว่า เมื่อวานเสด็จแม่สั่งให้พระชายาหยิงมา เพื่อจะมาถามไถ่เรื่องยา.....ไม่ทันได้บอกกล่าวเรื่องยาให้เสด็จแม่ ล้วนเป็นเพราะหม่อมฉันไม่ดีเองเพคะ”

นางไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ ว่าฮองเฮาจ้าวโกหก

คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ "ไว้หน้า" ฮองเฮาจ้าวเท่านั้น แต่ยังเป็นการบอกโม่จงหรานตรง ๆ ด้วยว่าเมื่อวานนี้ฉินซื่อเสวียมาที่จวนอ๋องหมิง แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องยาเลย

สีหน้าของโม่จงหรานดำคล้ำมืดทะมึนลงทันที

ฉินซื่อเสวียจิกกำแขนเสื้อแน่น ชั่วขณะหนึ่งนางไม่รู้เลยว่าจะตอบกลับไปอย่างไร

หยุนหว่านหนิงเดาได้ถูกแล้ว ว่านางต้องไม่กล้าพูดออกมาแน่ ๆ ว่าตนเองเป็นคนบอกให้นางไปขโมยป้ายคำสั่งค่ายห้ากองพลมา เพื่อใช้พิสูจน์ความจริงใจที่นางมีต่อโม่เยว่

เพราะตอนนี้ ฉินซื่อเสวียมีฐานะเป็นพระชายาหยิง!

นางแต่งให้กับโม่หุยเฟิง ถ้านางยังมีใจอาลัยอาวรณ์ต่อโม่เยว่อีกล่ะก็....

นี่จะไม่เท่ากับว่านางโลเลหลายใจหรอกหรือ?

แบบนี้ มันก็จะยิ่งทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนพี่น้อง ให้เลวร้ายลงไปอีก

โม่จงหรานย่อมไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างเด็ดขาด!

ดังนั้นครั้งนี้ ฉินซื่อเสวียจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทนกัดฟันกล้ำกลืนความคับข้องหมองใจทั้งหมดกลับลงไปในท้อง

ถ้านางกล้าพูดว่าเป็นเพราะคำสั่งของหยุนหว่านหนิง หยุนหว่านหนิงก็ต้องกล้าพูดว่านางมีเจตนาร้ายต่อโม่เยว่ สุดท้ายคนที่ต้องเสียเปรียบทุกประตู ก็ยังเป็นฉินซื่อเสวียอยู่ดี!

"เสด็จพ่อ"

หยุนหว่านหนิงยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด "ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าอ๋องหยิงดูแลค่ายห้ากองพลอยู่ ส่วนท่านอ๋องของข้าดูแลค่ายเสินจี?"

เนื่องจากอ๋องหยิงไปจากเมืองหลวง ท่านอ๋องของข้ากับอ๋องฉู่จึงรับช่วงดูแลค่ายห้ากองพลต่อ เดิมทีเรื่องนี้มันก็ทำให้เกิดความระแวงสงสัยในหมู่พวกเขาพี่น้องอยู่แล้ว มาตอนนี้ป้ายคำสั่งก็มาปรากฏที่จวนอ๋องหมิง..."

นางส่งเสียงสะอื้นครั้งหนึ่ง “นี่ไม่ใช่การจงใจยั่วยุให้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋อง กับอ๋องหยิงยิ่งร้าวฉานขึ้นไปอีกหรอกหรือ?!”

ท่าทางที่ฮองเฮาจ้าวมีต่อเรื่องนี้ เป็นอะไรที่คลุมเครือไม่ชัดเจน

แต่หยุนหว่านหนิงกลับฉีกผ้าตะปิ้งที่ปิดคลุมไว้ออกไปตรง ๆ แล้วโผล่หัวออกมาล่อหน้าล่อตา!

ฮองเฮาจ้าวแทบอดใจไม่ไหว อยากจะเข้าไปปิดปากนางให้มันหุบซักที!

โม่จงหรานหันไปมองฮองเฮาจ้าวด้วยสายตาที่หนักอึ้ง "ฮองเฮา เรื่องนี้เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?"

"หม่อมฉัน...."

ฮองเฮาจ้าวก็ตอบไม่ได้ จึงทำได้แค่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจ้องมองฉินซื่อเสวีย “ซื่อเสวีย! สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมป้ายคำสั่งนี้ถึงมาอยู่ในมือเจ้าได้!”

ฉินซื่อเสวียสมองหมุนไม่ทันแล้วตอนนี้

นอกจากคำว่า "หม่อมฉันรู้ความผิดแล้ว" นางก็ยังคิดหาทางออกไหนไม่ได้เลยสักทาง

หลังจากนั้นไม่นาน ฉินซื่อเสวียก็พูดอ้อมแอ้มขึ้นว่า "เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดเลยเพคะ!"

“เมื่อวานนี้รองแม่ทัพอู๋เมามาก บอกว่าหม่อมฉันเป็นพระชายาหยิง เป็นคนใกล้ชิดท่านอ๋องหยิงที่สุด จึงมอบป้ายคำสั่งนี้ให้หม่อมฉันเป็นคนเก็บรักษา เขาบอกว่าทำเช่นนี้แล้วเขารู้สึกวางใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด..... "

ดังนั้น ป้ายคำสั่งค่ายห้ากองพลจึงตกมาอยู่ในมือของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์