“ได้ ข้าจะไปจวนอ๋องโจวกับเจ้า”
โม่เยว่มองนางอย่างลึกซึ้ง ทั้งสองยังไม่ทันออกประตู เสียงของหยวนเป่าก็ดังมาจากด้านหลัง “หยุดนะ! พวกท่านหยุดเดี๋ยวนี้!”
หยุนหว่านหนิงหันไปดู ก็เห็นหยวนเป่าเจ้าก้อนแป้งตัวกลมดิก ‘กลิ้ง’ มาทางพวกเขา
“หยุดนะ! ใครก็ห้ามไปทั้งนั้น!”
หยวนเป่าวิ่งกระหืดกระหอบมา ดึงมือของทั้งสองไว้ “พวกท่านมากับข้า ข้ามีเรื่องจะพูด”
เขาทำหน้าขึงขัง ดวงหน้าเล็กๆ จริงจังอย่างยากจะพบเห็น
เมื่อเห็นดังนั้นหยุนหว่านหนิงก็อดสบตากับโม่เยว่ไม่ได้ “เจ้าลูกชาย มีอะไรหรือ”
“ห้ามพูด!”
หยวนเป่ามองนางทีหนึ่ง ไม่พูดไม่จา เอาแต่จูงพวกเขาไปยัง...สุมทุมพุ่มไม้ในสวน
“จะให้คนรับใช้เห็นไม่ได้ พวกท่านจะได้ไม่ขายหน้า มีผู้ใหญ่อย่างพวกท่านที่ไหนกัน ให้ข้าสบายใจหน่อยได้หรือไม่ ท่านตาทวดให้การบ้านข้ามากมาย ข้าไม่มีเวลาจะคุมพวกท่านหรอกนะ!”
หยวนเป่าเอามือกอดอก สั่งสอนทั้งสองด้วยท่าทางที่เหมือนผู้ใหญ่
หยุนหว่านหนิง “?”
โม่เยว่ “?”
เจ้าเด็กนี่ไปฟังเรื่องอะไรมาอีก
หยุนหว่านหนิงยื่นมือ แตะที่หน้าผากของหยวนเป่า “ไม่มีไข้นี่ พูดเพ้ออะไร”
ไหนเลยจะรู้ว่าหยวนเป่าจะปัดมือของนาง “ไม่ต้องมาเสแสร้งกับข้าเลย! บอกมาเสียดีๆ ทำไมพวกท่านต้องทะเลาะกันด้วย”
ทะเลาะ?
อ้อ หยุนหว่านหนิงเข้าใจแล้ว
ที่แท้ที่เจ้าเด็กนี่รีบร้อนวิ่งมาหาพวกเขา ก็เพราะเรื่องนี้น่ะหรือ
เมื่อนึกถึงเมื่อครู่ตอนที่อยู่ตรงปากประตู ทะเลาะกันจริงๆ นั่นแหละ...สีหน้าหยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่พลันไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย นางกระแอมกระไอสามหนด้วยความละอายใจ “เออคือ เจ้าลูกชาย...”
“ทำไมต้องตีกัน!”
หยวนเป่าทำหน้าขึงขังถาม ไม่เปิดโอกาสให้นางพูด
ตีกัน?!
ข่าวลือนี้จะเลยเถิดไปหน่อยแล้ว!
พวกเขาไม่ได้ลงไม้ลงมือกันสักหน่อย!
หยวนเป่าดึงมือของหยุนหว่านหนิง มองข้อมือที่แดงเป็นปื้น เขาเป่าลมกับนางด้วยความปวดใจ จากนั้นก็ทำหน้าตึงถลึงตากับโม่เยว่แบบโมโหพลุ่งพล่าน “ท่านคือคนโกหก!”
“ยังจะพูดอีก ว่าขอเพียงข้านับท่านเป็นพ่อแล้ว ท่านจะดีต่อข้ากับท่านแม่!”
“ข้ายังไม่ทันจะรับปาก ท่านก็ลงมือลงไม้กับท่านแม่ของข้าแล้ว! ท่านแม่เคยบอกว่าผู้ชายที่ใช้กำลังกับครอบครัวจะเอาไว้ไม่ได้! ฉะนั้นข้าไม่สามารถนับท่านเป็นพ่อได้!”
โม่เยว่ “...”
เขาเหงื่อตกท่วมตัว
ครั้นเห็นเจ้าก้อนแป้งที่อยู่ตรงหน้าโกรธจนน้ำตาไหลแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ถูก
“ไม่ใช่ หยวนเป่า เจ้าฟังข้าอธิบาย...”
“ท่านไม่ต้องอธิบาย! อธิบายก็คือการกลบเกลื่อน! กลบเกลื่อนก็คือปิดบังข้อเท็จจริงที่เป็นความจริง!”
ปากน้อยๆ ของหยวนเป่านี้ ได้รับการถ่ายทอดความสามารถในการเจรจาพาทีจากหยุนหว่านหนิงโดยแท้ เพียงคำพูดสั้นๆ กลับทำจนโม่เยว่ใบ้รับประทานพูดไม่ออก
หยุนหว่านหนิงวางแผนว่าจะช่วยเขาอธิบาย “เจ้าลูกชาย...”
“ท่านเงียบเลย!”
หยวนเป่าถลึงตามองนางด้วยความโมโหทีหนึ่ง “ใครก็ห้ามช่วยเขาพูด!”
“ตอนนี้ร่ำลือไปทั่วจวนแล้ว บอกว่าพวกท่านทะเลาะกัน ยังตบตีกันแบบเอาเป็นเอาตาย! คนรับใช้ของเรือนชิงหยิ่งกำลังเก็บข้าวของวางแผนหนีเอาชีวิตรอด! บอกว่าเขาใส่อารมณ์กับท่าน พอท่านกลับไปก็ต้องระบายอารมณ์กับพวกเขาแน่!”
หยุนหว่านหนิง “...”
เป็นผู้หญิงปากมากรักการนินทาพวกไหนอีกเนี่ย!
“หรูอวี้เป็นคนบอก!”
ไม่รอให้นางถาม หยวนเป่าก็บอกว่า ‘ผู้หญิงปากมาก’ คือใครแล้ว “พวกเขาให้ข้ารีบมา หากช้าอีกนิดเดียวท่านแม่ของข้าก็จะถูกตีตายแล้ว!”
กล่าวจบ หยวนเป่าก็ “จ้า” ร้องไห้โฮ
หยุนหว่านหนิงตัวแข็งทื่อยืนอยู่กับที่
“หรูอวี้เจ้าคนบัดซบน่าตาย!”
โม่เยว่โมโหพลุ่งพล่านออกจากสุมทุมพุ่มไม้ ดูจากท่าทางของเขาคือจะไปคิดบัญชีกับหรูอวี้
หยุนหว่านหนิงปลอบประโลมอยู่นาน จึงปลอบหยวนเป่าให้สงบได้
“ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่นับเขาเป็นพ่อ!”
หยวนเป่าสูดลมหายใจ ดวงหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “ถ้าเขายังลงมือกับท่าน ข้าจะพาท่านไปบ้านท่านตาทวด! พวกเราไม่ต้องการเขาแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...