อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 125

“ท่านอ๋อง!”

ลุงเฉินตกใจจนกรีดร้องไม่หยุด กระวีกระวาดตะโกน “ใครก็ได้! รีบตามหมอหลวงมาเร็ว!”

“ไม่จำเป็น”

หยุนหว่านหนิงโบกมือน้อย เดินไปข้างหน้า

นางเปิดหนังตาของโม่เหว่ยมอง “ไม่เป็นอะไรมาก แม้แต่ไฟร้อนรนโจมตีหัวใจก็ไม่นับ! แค่อ่อนเพลียมากเกินไป รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจไม่ได้เท่านั้น”

นางกล่าวพลางยื่นมือนิ้วมือไปหยักจุดเหรินจง (*จุดกึงกลางใต้จมูก เหนือปาก)ของโม่เหว่ย

ลุงเฉินก็คิดไม่ถึง พระชายาที่ดูเหมือนบอบบางท่านนี้ กลับไม่ไว้ไมตรีในคำพูดเมื่อครู่แม้แต่นิดเดียว

ถึงกับทำท่านอ๋องบ้านพวกเขาโกรธจนเป็นลมจับอย่างนั้นได้?!

เมื่อเห็นนางหยักจุดเหรินจงของโม่เหว่ย ลุงเฉินก็คิดจะห้ามตามสัญชาตญาณ

แต่ใครก็คิดไม่ถึง พริบตาเดียวก็ได้ยินโม่เหว่ยสูดหายใจเฮือก จากนั้นก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองลุงเฉินอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง?!”

ลุงเฉินดีใจจนน้ำตาไหลพราก “ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม ท่านรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”

“ลุงเฉิน”

โม่เหว่ยยื่นมือที่สั่นระริกชี้หยุนหว่านหนิง “เจ้าเจ็ดอยู่ต่อ นำตัวนาง นำตัวนางโยนออกไปให้ข้า!”

ลุงเฉินรีบรับคำ

ต่อให้โม่เหว่ยไม่สั่ง เขาก็คิดจะไล่หยุนหว่านหนิงออกไปอยู่แล้ว

มีอย่างที่ไหนกัน!

พระชายาหมิงท่านนี้เหมือนมาจวนอ๋องโจวเยี่ยมคนป่วยที่ไหนกัน

รังเกียจที่ท่านอ๋องบ้านพวกเขาตายช้าเกินไป ต้องการทำให้ท่านอ๋องโกรธจนตายชัดๆ!

โม่เยว่เสือกกาย ปกป้องให้หยุนหว่านหนิงอยู่ข้างหลัง ใบหน้าเย็นชาเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “หากพี่สี่เป็นเช่นนี้ ข้าก็ขอตัวกลับก่อน”

ความหมายคือ หากจะไล่หยุนหว่านหนิง เขาก็จะไม่อยู่ต่อ

หยุนหว่านหนิงปกป้องสามี เขาก็ย่อมต้องปกป้องภรรยา

พวกเขาสองคนสามีภรรยา มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน!

“เจ้า...”

โม่เหว่ยโมโหขึ้นอีก ไอโขลก “ไสหัว ไสหัวออกไปให้หมด!”

การอยู่อย่างโดดเดี่ยวหลายปี ทำให้นิสัยของเขากลายเป็นผิดแผกไปบ้าง

ลุงเฉินสีหน้าลำบากใจ “อ๋องหมิง ไม่อย่างนั้นพวกท่านก็กลับไปก่อนเถอะ! วันหน้าเอาไว้ให้ท่านอ๋องบ้านข้าดีขึ้นหน่อยแล้วค่อยมาใหม่ วันนี้ท่านอ๋องบ้านข้า...”

หากพวกเขาอยู่ที่นี่ต่อ โม่เหว่ยต้องโมโหพวกเขาตายแน่!

“ขอลา”

โม่เยว่ไม่รีรอ จูงหยุนหว่านหนิงจะไป

เห็นดังนั้นแล้ว โม่เหว่ยก็โมโหหนักกว่าเดิม

กระหน่ำไอ อย่างไรก็หยุดไม่ได้

โม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงเพิ่งเดินถึงปากประตู ก็ได้ยินเสียงตื่นตระหนกของลุงเฉินดังมา “ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นไรกระมัง!”

ทั้งสองหันไป เห็นโม่เหว่ยอาเจียนเป็นเลือดอยู่ข้างเท้าคำโต!

และตอนนี้ ร่างโม่เหว่ยก็เอนไปด้านหลัง และหมดสติไปอีกครั้ง

หยุนหว่านหนิงเดินกลับเข้าไปในห้องโถงทันที

เมื่อเห็นนางย้อนกลับมา ลุงเฉินก็พลันร้องไห้น้ำตาไหลพราก “พระชายาหมิง บ่าวขอร้องท่านล่ะ ท่านรีบไปเถอะ! หากท่านอ๋องฟื้นขึ้นมาเห็นท่านยังอยู่ เกรงว่าจะรับไม่ไหว!”

เขาร้องไห้พลางสั่งให้สาวให้เข้าวังเชิญหมอหลวง แต่กลับถูกหยุนหว่านหนิงขวางไว้

“พระชายาหมิง นี่ท่านต้องการทำให้ท่านอ๋องบ้านข้าตายให้ได้หรือ!”

ถึงกับไม่อนุญาตให้เข้าวังเชิญหมองหลวง!

“ข้าเอง”

หยุนหว่านหนิงเดินไป คว้าข้อมือของโม่เหว่ยแล้วเริ่มตรวจชีพจร

โม่เยว่ย้อนกลับมาแล้ว เห็นลุงเฉินยังอยากพูดอะไรอีก ก็ตวาดปรามเสียงหนัก “ถ้าไม่อยากให้พี่สี่ตายก็อย่าพูด”

สองสามเดือนนี้ เขาตระหนักแล้วว่าวิชาแพทย์ของหยุนหว่านหนิงร้ายกาจเพียงใด

ไม่แน่ว่านางอาจสามารถรักษาโรคของโม่เหว่ยได้จริงๆ

แม้โม่เยว่จะมีความคับแค้นต่อโม่เหว่ยอยู่เต็มอก แต่เห็นแก่ที่เขาป่วย...

ฝืนอภัยให้เขาก็แล้วกัน!

ให้หยุนหว่านหนิงรักษาเขาให้หาย พิสูจน์วิชาแพทย์ของนาง!

เขาแทบอยากเห็นโม่เหว่ยถูกรักษาจนหาย อารมณ์บนใบหน้าเขาจะตะลึงเพียงใด

เห็นสีหน้าหยุนหว่านหนิงเคร่งขรึม ขมวดคิ้วมุ่น ลุงเฉินจึงไม่กล้าส่งเสียงดังอีก ได้แต่โบกมือ เป็นการบอกให้สาวใช้ที่ประตูถอยออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์