ทันใดนั้นโม่เยว่ก็รู้สึกว่าตัวเองมึนไปเล็กน้อย
“หยุนหว่านหนิง เจ้าป่วยใช่หรือไม่”
เขาเอื้อมมือออกไปอังหน้าผากของหยุนหว่านหนิง ขมวดคิ้วแน่น “ไม่ป่วยแล้วพูดเพ้อเจ้ออะไร”
“ถ้าเจ้าไม่ได้หลงรักข้า ก็คือกำลังชมเชยข้า?”
หยุนหว่านหนิงทำหน้าตกใจ “โม่เยว่ เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้ยินเจ้าชมเชยข้า! เจ้าชมเชยได้น่าฟังมาก! ชมเชยข้าให้ข้าฟังอีกสักสองสามประโยคสิ?”
เมื่อเห็นนางราวกับคนโง่งม โม่เยว่ก็เลิกล้มการสนทนากับนาง
ไม่ว่านางจะใช่หยุนหว่านหนิงหรือไม่ ขอเพียงนางไม่คิดร้ายกับเขาก็พอ
ถึงอย่างไรดูจากตอนนี้ โดยรวมนางก็ไม่ได้คิดร้ายอะไร
เพียงแต่จะประมาทไม่ได้ ยังต้องระแวดระวัง...
โม่เยว่คิดในใจ
เห็นเขาไม่พูด หยุนหว่านหนิงจึงรู้ว่าวันนี้พอจะผ่านไปได้แล้ว
แต่นางเพิ่งจะโล่งอก ก็ได้ยินโม่เยว่เอ่ยเรียบ “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าขอเตือน อย่าได้ก่อเรื่องและอย่าได้หาเรื่อง”
“ความคิดที่ไม่ควรมีก็อย่าได้มี”
“ความคิดที่ไม่ควรมี? เจ้าหมายถึงอย่าได้หลงรักเจ้าหรือ”
หยุนหว่านหนิงกะพริบตา
โม่เยว่รับกับความสามารถในการพูดจาเลื่อนเปื้อนของนางไม่ไหวจริงๆ “ตามแต่เจ้าจะคิด”
เขาหมุนตัวจากไป
เพียงแต่แผ่นหลังนั้น จะดูอย่างไรก็ดูไม่ได้เล็กน้อย
หยุนหว่านหนิงปิดปาก หัวเราะเบาๆ “จิ๊บจ๊อย! ข้ายังจัดการเจ้าไม่ได้หรือ”
ไม่ได้ดื่มสุราอย่างนี้นานแล้ว พอถูกลมหน่อย นางก็รู้สึกมึนศีรษะเล็กน้อย หยุนหว่านหนิงสะบัดหน้า วางแผนจะกลับไปพักผ่อนที่เรือนชิงหยิ่ง
ไหนเลยจะรู้ พอหันกลับไป หรูอวี้ก็รีบร้องวิ่งมา
“พระชายา พระชายา พระยาชาฮั่นมาแล้วขอรับ!”
โจวหยิงหยิงมา?
คงมารับโม่ฮั่นอี่ว์กลับไปสินะ
“มาแล้วก็มาสิ มีอะไรน่าโหวกเหวกโวยวายกัน นางคงมารับอ๋องฮั่นกลับไปนั่นแหละ ให้นางรับไปก็พอ จะมาบอกข้าทำไม”
นางหมุนตัวจะเดิน
“ไม่ใช่ขอรับพระชายา!”
หรูอวี้รีบขวางนางไว้ “นายท่านบอกว่าให้ท่านไปต้อนรับพระชายาฮั่นขอรับ!”
ต้อนรับ?
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว
หรือว่าโจวหยิงหยิงไม่รีบกลับ?
ตอนนี้นางคือพระชายาหมิง เป็นนายหญิงของจวนอ๋องแห่งนี้...มีแขกมาเยือน อีกทั้งยังเป็นแขกผู้หญิง นางที่เป็นพระชายาหมิงก็สมควรต้องออกไปต้อนรับจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ นางจึงสะบัดหน้า สลัดความมึนเมาออกไป
“เจ้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าจะไป”
ดื่มเยอะเกินไป ปวดปัสสาวะ
หยุนหว่านหนิงหันตัวไปห้องน้ำ
ขณะที่กลับมายังห้องโถงอีกครั้ง โจวหยิงหยิงกำลังเครียดจัด มองโม่ฮั่นอี่ว์ที่กำลังนอนหลับอุตุอยู่บนเก้าอี้
นางบิดผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมในมือแน่น คิ้วใบหลิวขมวดมุ่น “เจ้าสุนัขนี่! บอกว่าจะมาปรึกษาหารือธุระกับน้องเจ็ดนิดหน่อย ไฉนจึงหารือจนกลายเป็นสุกรขี้เมาไปได้”
เนื้อตัวโม่ฮั่นอี่ว์มีกลิ่นสุราคละคลุ้ง โจวหยิงหยิงยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความรังเกียจ
“น้องเจ็ด นี่เจ้ากรอกสุราเขาไปเท่าไร”
“พี่สะใภ้รองเข้าใจผิดแล้ว พี่รองต้องการดื่มเองต่างหาก ไม่เกี่ยวกับข้า”
โม่เยว่ยกจอกน้ำชาขึ้น หน้าเรียบ
“งั้นหรือ ปกติท่านอ๋องบ้านข้าชอบดื่มสุรา แต่ก็ไม่ถึงกับดื่มจนเมาหัวราน้ำอย่างนี้!”
เห็นชัดว่าโจวหยิงหยิงไม่เชื่อ
“พี่สะใภ้รอง!”
เสียงของหยุนหว่านหนิงดังมาจากประตู “ท่านอ๋องบ้านข้ากล่าวถูกต้อง อ๋องฮั่นต้องการดื่มเอง ข้ากับท่านอ๋องห้ามอย่างไรก็ห้ามไม่อยู่”
นางเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
นี่คือครั้งที่สองที่โจวหยิงหยิงได้พบกับหยุนหว่านหนิง
ครั้งแรกคือที่ตำหนักหย่งโซ่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...