อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 169

ปฏิกิริยาของนางรุนแรงถึงขนาดนี้ กลับทำให้คนที่อยู่ข้างหลังของนางถึงกับตกใจไปเลย

คำว่า ทำไมถึงได้....."บังเอิญ" เพิ่งแล่นมาถึงริมฝีปาก ก็ถูกสีหน้าท่าทางที่ดุร้ายราวกับนางยักษ์ของนางทำให้ตกใจจนผงะไปเลยทีเดียว

โม่ฮั่นอี่ว์สีหน้าตะลึงลาน พอเห็นว่านางทั้งถลึงตาทั้งแผดเสียงตวาดใส่ดังลั่น เขาถึงกับต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ "หว่านหนิง นี่เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ? ไปกินดินระเบิดที่ไหนมารึ?"

เหล้าพวกนั้นของหยุนหว่านหนิง ช่วยทำให้โม่ฮั่นอี่ว์กับโจวหยิงหยิงสองสามีภรรยา สามารถเป็นเพื่อนกันได้สำเร็จ

โดยเฉพาะโม่ฮั่นอี่ว์

แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชาย แต่เขามีนิสัยชอบดื่ม ห่วงแต่เรื่องจะออกไปเที่ยวเล่น

เมื่อรู้ว่าหยุนหว่านหนิงเป็นยอดฝีมือในการเล่นลูกเต๋า ก็ดื้อแพ่งไม่ยอมรับความพ่ายแพ้หลายครั้งหลายหน เอาแต่มาหานางที่จวนอ๋องหมิง เพื่อท้าดวลชี้ขาดผลแพ้ชนะจนกระทั่งรุ่งสาง

แต่ใครเลยจะรู้ว่า ทุกครั้งเขาจะไปด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งท่าทางคึกคักเต็มที่ แล้วกลับด้วยอาการหน้าม่อยคอตกเงื่องหงอยเซื่องซึม เหมือนพ่อไก่พันธุ์ที่สู้ศึกแล้วพ่ายแพ้ก็ไม่ปาน

จนเวลาต่อมา เขาก็นับว่าตระหนักถึงความจริงได้ในที่สุดว่า: เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยุนหว่านหนิง!

เขาที่ถูกขนานนามว่าเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานใน "โลกแห่งการทอยลูกเต๋า" พอมาอยู่ต่อหน้านางแล้ว ก็เป็นได้ขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น!

“อ๋องฮั่น ทำไมถึงเป็นเจ้าล่ะเนี่ย?”

เมื่อเห็นว่าเป็นโม่ฮั่นอี่ว์ หยุนหว่านหนิงจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตบ ๆ ที่หน้าอกตัวเอง แล้วเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบาง ๆ ชั้นหนึ่งบนหน้าผาก ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลัง "ข้ายังนึกว่ามีผีซะอีก!"

โม่ฮั่นอี่ว์: "......ข้าเหมือนผีอย่างนั้นรึ?"

“ทำไมจะไม่เหมือนล่ะ?”

หยุนหว่านหนิงให้เหตุผลแบบข้าง ๆ คู ๆ ว่า "เจ้าเป็นผีพนัน บวกกับผีขี้เหล้า!"

โม่เยว่ที่อยู่อีกด้านหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ในขณะที่สีหน้าของซ่งจื่ออวี๋ยังคงเรียบเฉย

“เจ้าเจ็ด เจ้าหัวเราะอะไร? แม่เสือบ้านเจ้าคนนี้ ปกติก็ทำตัวดุร้ายแบบนี้ใส่เจ้าเสมอเลยรึ? โห......”

โม่ฮั่นอี่ว์จ้องโม่เยว่ด้วยสีหน้าเคืองแค้นและรู้สึกไม่เป็นธรรมแวบหนึ่ง พอเห็นซ่งจื่ออวี๋ที่ยืนสีหน้าเรียบเฉยอยู่ข้าง ๆ ก็รีบสาวเท้าก้าวขึ้นไปข้างหน้า ถามว่า "คุณชายท่านนี้คือ?"

"นี่คือเพื่อนของข้า"

หยุนหว่านหนิงก้าวเท้าขึ้นมาข้างหน้า ดันซ่งจื่ออวี๋ไปปกป้องไว้ข้างหลังทันที

"เจ้าอย่าได้คิดจะใช้เขาหาผลประโยชน์อะไรเชียวล่ะ ถ้าถูกแม่เสือบ้านเจ้าคนนั้นรู้เข้าล่ะก็ เจ้าได้เจอผลกรรมตามสนองจนอ่วมแน่"

ใครใช้ให้เมื่อครู่นี้โม่ฮั่นอี่ว์เรียกนางว่าแม่เสือล่ะ?

ผลเป็นไปตามคาด ทันทีที่พูดถึงโจวหยิงหยิง โม่ฮั่นอี่ว์ก็สูญขวัญเสียกำลังใจและอารมณ์อันฮึกเหิมไปทันที

"จริงสิ ข้ายังมีธุระที่ต้องทำ ขอไปก่อนล่ะนะ หว่านหนิง ไว้วันหลังค่อยเจอกันใหม่ที่โรงเตี๊ยม แล้วพวกเรามาดื่มกันให้สะใจไปเลย!"

เขาเดินไปพลาง ก็หันหลังกลับมามองหยุนหว่านหนิงไปพลาง

"รอเดี๋ยว!"

หยุนหว่านหนิงพุ่งเข้าไปคว้าหมับเข้าที่แขนของโม่ฮั่นอี่ว์ "อ๋องฮั่นจะรีบร้อนไปไหนนักหนา? ข้ายังมีเรื่องที่ต้องคุยกับเจ้าอยู่นะ พวกเราไปที่โรงเตี๊ยมกันเดี๋ยวนี้เลยเถอะ?"

นางคิดจะคุยกับเขา เกี่ยวกับเรื่องของโม่หุยเฟิง

ในเมื่อคิดจะโค่นล้มเขา แต่ให้จวนอ๋องหมิงออกหน้า.....อย่างไรก็ดูไม่ค่อยจะเหมาะสมนัก

เพราะถึงอย่างไรสุดท้ายแล้ว โม่หุยเหยียนกับโม่หุยเฟิงก็เป็นพี่น้องร่วมท้องมารดาคนเดียวกัน!

อาการป่วยของอ๋องโจว โม่เหว่ย ก็ยังทรง ๆ ทรุด ๆ อยู่ ไม่สามารถรบทัพจับศึกได้เป็นการชั่วคราว

โม่หุยเหยียนกับโม่หุยเฟิง โม่ฮั่นอี่ว์กับโม่เยว่.....

สองต่อสอง แบบนี้ถึงจะยุติธรรม

คิดไม่ถึงว่า โม่ฮั่นอี่ว์กลับผลักมือของนางออกไปด้วยท่าทางร้อนอกร้อนใจ มองนางด้วยสีหน้ากระวนกระวาย "ไม่ได้ ๆ! หยิงหยิงตั้งกฎไว้ว่าข้าต้องกลับถึงจวนก่อนฟ้ามืด"

“เจ้าดูสิว่านี่มันยามอะไรแล้ว ? ถ้ากลับไปผิดเวลาข้าได้ดับอนาถแน่!”

พูดจบ ก็เดินตัวปลิวจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมามอง

หยุนหว่านหนิงมองตามเงาแผ่นหลังของเขา พลางแค่นเสียงเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง "ไอ้คนไม่เอาไหนเอ๊ย!"

"จื่ออวี๋ เจ้าจะกลับไปที่ภูเขาหยุนอู้เมื่อไหร่? ต้องการให้ข้าไปส่งหรือไม่?"

นางหันหน้ากลับมามองซ่งจื่ออวี๋อีกครั้ง

"ไม่ต้องหรอก"

ซ่งจื่ออวี๋หัวเราะเบา ๆ "ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แล้ว! อย่างช้าที่สุดไม่เกินยามนี้ของวันพรุ่ง ก็คงกลับถึงเมืองหลวง พวกเจ้ากลับไปกันก่อนเถอะ เดินทางกลางค่ำกลางคืนมันไม่ดีเท่าไหร่"

เขามองไปที่โม่เยว่ด้วยสายตาที่แฝงความหมาย

เมื่อเห็นว่าซ่งจื่ออวี๋ก็หันหลังเดินจากไปแล้ว หยุนหว่านหนิงก็ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้างุนงง "เมื่อครู่นี้ทำไมเขาถึงมองไปที่เจ้าล่ะ?"

“หรือว่าลับหลังข้า เจ้าแอบไปทำเรื่องน่าละอายที่บอกใครไม่ได้เข้าแล้ว?”

"ไม่ได้ทำ"

โม่เยว่ส่ายหน้าทันที "กลับจวนกันเถอะ เย็นมากแล้ว! หยวนเป่าก็คงจะกลับไปถึงแล้วล่ะ"

เมื่อเอ่ยถึงลูกชาย หยุนหว่านหนิงก็ไม่ชักช้าพิรี้พิไรอีก รีบกลับทันที

โม่เยว่มองตามเงาแผ่นหลังของซ่งจื่ออวี๋ที่ค่อย ๆ หายลับไปอย่างช้า ๆ แววตามืดทะมึนหม่นมัว

............

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์