โม่เยว่อึดอัดในหัวใจ
หันไประบายกับโม่ฮั่นอี่ว์ “พี่รองมิได้บอกว่ามาฉลองวันเกิดให้ข้าหรือ”
“ถูกต้อง”
โม่ฮั่นอี่ว์ไม่เข้าใจความหมายของเขา พยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา
โม่เยว่อยากถามเขาเหลือเกิน ว่ามาฉลองวันเกิดให้เขา หรือมาเพื่อกินข้าวกันแน่...
เขาสงบอารมณ์ เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อมาเพื่อฉลองวันเกิดข้า เช่นนั้นก็ขอเชิญพี่รองร่ายรำสักเพลง เสริมบรรยากาศให้พวกเราหน่อยเถอะ”
โม่ฮั่นอี่ว์ “เจ้าว่าอะไรนะ!”
ร่ายรำ?!
เขารำเป็นที่ไหน!
อีกอย่าง ถึงจะเพื่อเสริมบรรยากาศ ก็น่าจะเชิญนางรำมา ไฉนถึงให้เขาที่เป็นพี่รองร่ายรำเพื่อเสริมบรรยากาศด้วยตนเองด้วย!
“ไม่ได้!”
โม่ฮั่นอี่ว์ปฏิเสธทันควัน “ดีชั่วข้าคืออ๋องคนหนึ่ง จะร่ายรำเสริมบรรยากาศให้เจ้าได้อย่างไร!”
เขากลับคิดให้โม่เยว่เชิญนางรำมาโดยตรง
แต่พอเห็นโจวหยิงหยิงที่อยู่ด้านข้างแล้ว เขาก็หดหัว ล้มเลิกความคิดนี้ไปโดยสิ้นเชิง
เขา! ไม่! กล้า!
“ข้าร่ายรำไม่เป็น!”
“พี่รอง การฉลองวันเกิดของท่านนี้ จะไม่จริงใจเกินไปแล้ว”
โม่เยว่เท้าคาง กวาดสายตามองเขาอย่างลอยๆ ทีหนึ่ง “ข้ากลับได้ยินมา ระยะก่อนพี่รองร่ำเรียนศิลปะการร่ายรำอย่างหนัก...เหตุใดตอนนี้ กลับไม่ยินดีเสริมบรรยากาศให้ข้าเล่า”
“นี่ช่างทำให้ข้าสงสัยนัก พี่รองมาฉลองวันเกิดให้ข้าจริงหรือไม่”
โม่ฮั่นอี่ว์รับกับการพูดยั่วยุอย่างนี้ไม่ได้มากที่สุด
ก่อนหน้านี้ที่เมามายอยู่ที่จวนอ๋องหมิงและถูกโม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงหลอกถาม ก็เพราะถูกหยุนหว่านหนิงพูดยั่วยุอย่างนี้เหมือนกัน
เขาอัดเอ้อร์โกโถวเข้าไป ถึงได้เมาหยำเปไม่ได้สติ
ตอนนี้พอถูกโม่เยว่พูดแทงใจดำ...
เขาหยัดตัวตั้งตรงทันที “น้องเจ็ด อาหารกินไปเรื่อยได้ แต่คำพูดจะพูดไปเรื่อยไม่ได้นะ! ทำไมข้าถึงไม่ได้มาเพื่อฉลองวันเกิดเจ้าเล่า”
“ของขวัญข้าก็ให้เจ้าแล้วไม่ใช่หรือ”
แต่มอบให้หยุนหว่านหนิงไปแล้ว
“หรือว่า ข้ายังต้องสลักคำว่า ‘ข้ามาเพื่อฉลองวันเกิดให้เจ้า’ ไว้ติดหน้าผากอีก!”
โม่ฮั่นอี่ว์ราวกับไก่ชนที่แสดงความมุ่งมั่นห้าวหาญ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พี่รองก็เชิญเลยสิ”
โม่เยว่ยกริมฝีปากเอ่ยเรียบ
โม่ฮั่นอี่ว์ฮึดฮัด “นั่นข้าตรากตรำเรียนศิลปะป้องกันตัวต่างหาก! มิใช่ศิลปะการร่ายรำ!”
“มีอะไรต่างหรือ”
โม่เยว่จงใจทำเป็นไม่เข้าใจ
โม่ฮั่นอี่ว์โกรธขึงขังถลึงตาจ้องเขา “น้องเจ็ด เจ้าไม่มีเหตุผล!”
เมื่อเห็นสถานการณ์ตึงเครียด โจวหยิงหยิงจึงรีบลุกขึ้นมาตบมือ “ท่านอ๋อง ในเมื่ออ๋องหมิงเอ่ยปากแล้ว! วันนี้เจ้าของวันเกิดเป็นใหญ่ เจ้าก็ร่ายรำสักบทเพลงเถอะ!”
โม่ฮั่นอี่ว์ “...”
มีใครรังแกผู้ชายของตัวเองอย่างนี้บ้าง!
“หยิงหยิง ข้าคือสามีเจ้านะ!”
หาเรื่องในวันนี้แพร่ออกไป หน้าอ๋องฮั่นของเขาจะเอาไปไว้ที่ไหน!
ต่อไปกลัวแต่ต้องถูกคนอื่นเรียกเป็น ‘อ๋องอู่(*ในที่นี้หมายถึงอ๋องนักร่ายรำ)’ แล้วกระมัง
“ท่านอ๋อง เที่ยวหน้ายังอยากมากินข้าวที่จวนอ๋องหมิงอีกหรือไม่”
โจวหยิงหยิงกระซิบข้างหูเขา มุบๆ มิบๆ “แค่มากินข้าวได้ อย่าว่าแต่ให้เจ้าร่ายรำเลย”
“ต่อให้เจ้าเห่าโฮ่งๆ ข้าก็จะผลักเจ้าออกไปแบบไม่ลังเล”
โม่ฮั่นอี่ว์ “...”
ศรีภรรยาจริงๆ!
เมื่อเห็นโม่ฮั่นอี่ว์ถูกผลักออกมา...หัวใจโม่เฟยเฟยก็บีบรัด ท่าทีที่พี่เจ็ดบีบบังคับพี่รองไปเสียทุกอย่างนี้ พิลึกจริงแฮะ!
ฮือๆๆ ประเดี๋ยวพี่เจ็ดจะไม่จัดการนางหรือ...
เสริมบรรยากาศให้เขากับพี่สะใภ้เจ็ดก็แล้วกัน?!
โม่เฟยเฟยหันไปมองหยวนเป่า หัวเราะแหะๆ เอ่ย “หยวนเป่า พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ”
ครั้นเห็นนางยิ้มอย่างเกร็งๆ...
หยวนเป่าก็ลุกขึ้นอย่างรู้ใจ จูงมือนางออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...