หยุนหว่านหนิงยังไม่ทันตอบ โม่เฟยเฟยก็โอบหยวนเป่าเข้าอ้อมแขน ราวกับแม่ไก่แก่ปกป้องลูกเจี๊ยบ
“ชอบใส่หน้ากากไม่ได้หรือ”
นางถลึงตามองโม่ฮั่นอี่ว์ “พี่รอง ท่านจะดูแลกว้างขวางไปหน่อยแล้วกระมัง นี่ท่านจะมากินข้าว หรือจะมาทำให้ลูกคนอื่นตกใจกันแน่”
อยู่กับหยุนหว่านหนิงนาน โม่เฟยเฟยจึงค่อยๆ สลัดความเรียบร้อยขององค์หญิงไปทีละน้อย
ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หรือรูปแบบการพูด ล้วนไปทางหยุนหว่านหนิงหมด
เห็นดังนั้น หยุนหว่านหนิงแสดงออกว่าพอใจมาก
กลับเป็นโม่ฮั่นอี่ว์ที่ตะลึง เกาศีรษะ “ข้าก็แค่ถามไปอย่างนั้น ทำไมถึงกลายเป็นทำให้เด็กตกใจได้”
“ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ได้ทำให้เด็กตกใจเล่า”
โม่เฟยเฟยอุ้มหยวนเป่า พูดด้วยความไม่พอใจ “เด็กคนนี้น่าสงสารมากพออยู่แล้ว”
“ท่านยังจะซ้ำเติมเขาอีกหรือ”
โม่ฮั่นอี่ว์ถูกใส่ความเล็กน้อย
เขาแค่ถามประโยคเดียว ทำไมถึงกลายเป็นซ้ำเติมไปได้ล่ะ!
กลับเป็นโจวหยิงหยิง วางตะเกียบลงแล้วมองโม่เฟยเฟยอย่างสงสัย “เฟยเฟย เจ้าไม่รู้ว่าเด็กคนนี้คือใครไม่ใช่หรือ ทำไมเจ้าถึงรู้ว่าเขาน่าสงสารล่ะ”
“ข้า...”
ยังดีที่โม่เฟยเฟยหัวไว รีบตอบ “เมื่อกี้ตอนที่ข้าเป็นลูกมือพี่สะใภ้เจ็ดยู่ในห้องครัว นางก็เล่าให้ข้าฟังแล้ว”
“อ้อ”
โจวหยิงหยิงไม่ถามมาก คีบอาหารให้โจวเถียนเถียน
โจวเถียนเถียนกับหยวนเป่าถือน่องไก่คนละน่อง กำลังกินคำโต
นังหนูนี่ในมือก็ถือน่องไก่อยู่แท้ๆ แต่ดวงตากลับจ้องตีนไก่ในจานเขม็ง
ขณะที่นังหนูยื่นมือจะไปคว้าตีนไก่ อย่างมือเร็วตาไว โม่เฟยเฟยก็คีบไปวางในถ้วยของหยวนเป่าแล้ว “เจ้าลูกบุญธรรม รีบกิน!”
โจวเถียนเถียนคว้าอากาศ ได้แต่เอาปีกไก่มาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
หลังจากแคะปีกไก่เสร็จ นางก็สนใจขาหมูที่เหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวในอีกจานหนึ่งอีก
พอเห็นมือป้อมๆ ทำท่าจะยื่นมา โม่เฟยเฟยก็คีบขาหมูตัดหน้านางไปก่อนหนึ่งก้าวอีกครั้ง “เจ้าลูกบุญธรรม ให้เจ้ากิน!”
โจวเถียนเถียนมองจานที่ว่างเปล่า ตะลึงงัน
พักใหญ่ถึงจะ “แง” ร้องไห้ขึ้นมา
เสียงร้องไห้ของนางทำให้โจวหยิงหยิงที่กำลังกินอาหารอย่างแร้งลง และโม่ฮั่นอี่ว์ที่นั่งอยู่ข้างนางตกใจ
โจวหยิงหยิงถามด้วยความงุนงง
“นาง!”
โจวเถียนเถียนยื่นมือออกไปชี้โม่เฟยเฟย “นางไม่ให้ข้ากิน!”
โม่เฟยเฟยทำหน้าบริสุทธิ์ “พี่สะใภ้รอง ใช่ว่าไม่ให้นางกิน! แต่ท่านดูนังหนูนี่สิ อ้วนขนาดไหน ขืนกินอีก ต่อไปก็ต้องลดความอ้วน ข้าหวังดีต่อนางต่างหาก”
เมื่อได้ยินโม่เฟยเฟยว่านางอ้วน โจวเถียนเถียนก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม!
โม่เฟยเฟยยังคงคีบอาหารให้หยวนเป่าต่อ
กระทั่งกับข้าวกองอยู่ในชามของเขาจนเป็นภูเขาลูกน้อยๆ แล้วจึงจะหยุดมือ มองหยวนเป่ากินอาหารอย่างพึงพอใจ
ราวกับแค่มองเขากิน นางก็อิ่มแล้ว
นี่ก็คือความรักที่อาแท้ๆ มีต่อหลานกระมัง
หยุนหว่านหนิงส่ายหน้าด้วยความจนใจ คืนนี้โม่เฟยเฟยทำเกินไปหน่อยแล้ว...ดีกับหยวนเป่าขนาดนี้ แต่กลับทำให้โม่ฮั่นอี่ว์และโจวหยิงหยิงสงสัย
แต่ เห็นได้ชัดว่าหยุนหว่านหนิงคิดมากไปแล้ว!
เพราะหลังจากยกอาหารขึ้นโต๊ะ โจวหยิงหยิงกับโม่ฮั่นอี่ว์ก็สวาปามอยู่ตลอด
หากไม่ใช่เพราะรู้ว่าสองคนนี้ไม่ยึดติดกับมารยาทอยู่แล้ว หยุนหว่านหนิงยังนึกว่าพวกเขากำลังเคร่งครัดกับ ‘เวลากินห้ามพูด’ ระเบียบโต๊ะอาหารของราชวงศ์
สองคนนี้ ปกติมีคำพูดไร้สาระมากกว่าอะไร
ที่ตั้งใจกินอาหารแบบใจจดใจจ่อในตอนนี้ แค่เพราะอาหารโอชาถูกปากเท่านั้น!
แม้แต่โจวเถียนเถียนก็ยังต้องกินเอง โจวหยิงหยิงไม่สนใจนางสักนิด
ด้วยเหตุนี้ ต่อให้โม่เฟยเฟยจะ ‘รังแก’ หนูน้อยโจวเถียนเถียนคนนี้อีก พวกโจวหยิงหยิงก็ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติสักนิด กลับกัน ยังมองพวกนางด้วยความสงสัยอีก “มีอะไรหรือ”
“พี่สะใภ้รอง ไม่มีอะไรจริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...