อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 210

หยุนธิงหลานท้องแล้ว!

พอข่าวนี้แพร่ออกมา เมืองหลวงก็จ้าละหวั่นทันที

หรูเยียนเห็นหยุนหว่านหนิงทำหน้านิ่ง อดถามขึ้นไม่ได้ “พระชายา หรือว่าท่านไม่รู้สึกตกใจหรือเจ้าคะ”

“ก็คิดไว้อยู่แล้ว มีอะไรน่าตกใจ”

หยุนหว่านหนิงไม่ใส่ใจสักนิด “หยุนธิงหลานก็จริงๆ เลย มีฝีมืออยู่บ้างนะ”

นางหัวเราะอย่างมีความหมายเชิงลึก “ตอนนี้ฉินซื่อเสวียคงร้อนใจเป็นไฟแล้วกระมัง นางวางยาหยุนธิงหลานตั้งหลายเดือน แต่ยังท้องได้อีก”

หรูเยียนพลันตระหนักในความหมายของนาง

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ! พระชายาต้องการดูพวกเขาสู้กันเอง?”

มิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้ ทีแรกหยุนหว่านหนิงคิดจะให้พวกโม่หุยเฟิงรู้ว่าหยุนธิงหลานมีลูกไม่ได้

แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจ ยังไม่บอกเรื่องนี้ออกไป

ตอนนี้หรูเยียนเพิ่งจะเข้าใจ นางต้องการยุให้ฉินซื่อเสวียสู้กับหยุนธิงหลาน!

พอสองคนนั้นสู้กันขึ้นมา จวนอ๋องหยิงก็จะไก่เตลิดสุนัขวิ่งพล่าน อยู่ในภาวะตกระกำลำบาก...แม้แต่ฮองเฮาจ้าวก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

แล้วจะลามไปถึงจวนยิ่งกั๋วกงกับจวนเฉิงเซี่ยง รวมถึงเหล่าขุนนางจำนวนมากที่ภักดีกับโม่หุยเฟิง

“แผนนี้ของพระชายายอดจริงๆ! ไม่ต้องทำอะไรก็ทำให้พวกเขาอยู่ไม่เป็นสุขได้”

หรูเยียนหัวเราะเบาๆ

หยุนหว่านหนิงใช่ว่าจะไม่ทำอะไรเลย

แต่นางก็แค่ไปโรงหมองหลวงรอบหนึ่งเท่านั้น...

นางหาวหวอดแบบขี้เกียจ “สงสัยตอนนี้ฮองเฮากำลังดีใจยิ้มไม่หุบอยู่กระมัง”

ตำหนักคุนหนิง

เป็นอย่างที่หยุนหว่านหนิงคาดคิดพอดี ฮองเฮาจ้าวดีใจยกใหญ่

เวลานี้ เหล่านางสนมกำลังถวายบังคมกับนางอยู่

ยังเช้าอยู่มาก

แม้แต่เต๋อเฟยที่ป่วยหลายวันก็มาด้วย ผู้คนนั่งเต็มตำหนัก ฮองเฮาจ้าวนั่งอยู่ตรงตำแหน่งหลัก เห็นหน้าตายิ้มแย้มของนางแต่ไกลๆ

แม้แต่ตีนกาที่หางตาก็แฝงด้วยรอยยิ้ม

จางหมัวมัวเข้ามารายงาน บอกว่ามีนางกำนัลทะเลาะกับขันทีน้อย

ถ้าเป็นยามปกติ ฮองเฮาจ้าวต้องสั่งให้ลากไปโบยยี่สิบไม้แน่นอน

ใครจะรู้ วันนี้นางกลับยิ้มหน้าบานไม่เปลี่ยน “ก็แค่ทะเลาะเบาะแว้ง! ปากของคน นอกจากกินอาหาร ก็คือใช้พูดมิใช่หรือ”

“ปล่อยพวกเขาไปเถอะ”

เหล่านางสนมต่างตะลึงงัน

วันนี้ฮองเฮาเหนียงเหนียงถึงกับมีพระเมตตาเช่นนี้ได้?!

สนมที่มีไหวพริบเริ่มพูดประจบแล้ว “เหนียงเหนียง หม่อมฉันว่าในบรรดาอ๋อง ผู้ที่มีความสามารถและทรงเสน่ห์ที่สุด เห็นทีจะเป็นอ๋องหยิงแล้วเพคะ!”

“นั่นนะสิ คุณหนูรองหยุนของจวนยิ่งกั๋วกง ยังไม่ทันได้เข้าจวนอ๋องหยิง ก็มีลูกให้อ๋องหยิงแบบรอไม่ไหวแล้ว”

ผู้ที่กล่าวคือเฉียนยกุ้ยเหริน “ถ้าได้ลูกชายในทีเดียว เช่นนั้นเด็กที่คุณหนูรองหยุนให้กำเนิด ก็จะเป็นพระนัดดาองค์โตเลยนะ!”

“นั่นสิ พี่หญิงเฉียนกล่าวได้ถูกต้อง”

ฟ่านตาอิ้งสมทบ รู้ว่าเป็นเรื่องเน่าแต่ก็ยังชื่นชม

ฮองเฮาจ้าวยิ้มตาหยีจนแทบไม่เห็นดวงตาแล้ว

นางมองเต๋อเฟยด้วยความหมายลึกซึ้ง เห็นนางทำหน้าเรียบ คล้ายกำลังเหม่อ

ดังนั้นจึงจงใจพูดขึ้น “พวกเจ้าอย่าพูดไร้สาระ! ฝ่าบาททรงมีโอรสมากมาย ตอนนี้ที่โดดเด่นที่สุดคือเจ้าเจ็ด พวกเจ้าพูดเช่นนี้ เต๋อเฟยจะรับได้อย่างไร”

เมื่อนั้นเต๋อเฟยจึงคืนสติ “เหนียงเหนียงตรัสว่าอะไรนะเพคะ”

“ข้ากำลังชมเจ้าเจ็ดอยู่”

ฮองเฮาจ้าวยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งแล้ว

เต๋อเฟยพยักหน้า ย่อตัว “ขอบพระทัยที่ทรงชม”

ฮองเฮาจ้าว “...”

นังแพศยานี่ต้องจงใจแน่!

สนมสองสามนางกลั้นไม่อยู่ ซูเฟยบิดผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมปิดปาก “พี่หญิงเต๋อเฟยช่างตรงไปตรงมานัก! ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ชมอ๋องหมิงคนละประโยค?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์