ตำหนักหย่งโซ่ว
ยามไฮ่ล่วงเลยไปแล้ว เดิมทีควรจะเป็นเวลาที่ดับไฟเข้านอนแล้ว แต่เวลานี้ตำหนักหย่งโซ่วกลับยังสว่างไสว
มองดูเต๋อเฟยที่ริมฝีปากเป็นสีม่วง นอนหมดสติอยู่บนเตียง โม่จงหรานโกรธจนยากที่จะควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ “พวกขยะไร้ประโยชน์ทั้งหลาย! หากรักษาเต๋อเฟยไม่ได้ ข้าจะฝังพวกเจ้าไปพร้อมกันเลย!”
บรรดาหมอหลวงต่างก็พากันคุกเข่าลงไปข้างเตียง ร้องขอความเมตตา
“ไว้ชีวิต? หากเต๋อเฟยตายไป พวกเจ้าก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดเลย!”
โม่จงหรานถีบหมอหลวงหยันที่อยู่ตรงหน้า “ขยะไร้ค่า! ล้วนเป็นขยะไร้ประโยชน์ทั้งนั้น!”
มีเพียงหมอหลวงหยางหัวหน้าแห่งโรงหมอหลวง นั่งจับชีพจรอย่างละเอียดอยู่ข้างเตียง
ชั่วครู่หนึ่ง เขาเก็บมือกลับมา แล้วก็ลูบเคราอย่างครุ่นคิด...... “วันนี้หากเจ้าไม่สามารถรักษาเต๋อเฟยได้ ข้าก็จะเผาหนวดเคราของเจ้าซะ!”
หมอหลวงหยางที่กำลังลูบเคราอยู่: “......”
เขารีบร้อนวางมือลง “ฝ่าบาท อาการป่วยของเต๋อเฟยเหนียงเหนียง เกรงว่าจะถูกคนวางยาพิษ!”
“ข้าไม่รู้ว่าถูกคนวางยาพิษหรือ? ยังต้องให้เจ้าพูดอีกหรือ? !”
โม่จงหรานโกรธสุดขีด
ริมฝีปากที่เป็นสีแดงอมม่วงของเต๋อเฟยนั่น เขาไม่ได้ตาบอดซะหน่อย!
หมอหลวงหยางจนใจ
คืนนี้เต๋อเฟยถูกวางยาพิษ ฝ่าบาทก็ทรงกระวนกระวายและโกรธจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้แล้ว ใครใช้ให้คนที่ถูกพิษ คือเต๋อเฟยเหนียงเหนียงที่เป็นยอดดวงใจและได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทมาหลายปีขนาดนี้กันล่ะ? !
เขาอยากจะบอกมากเลยว่า ฝ่าบาทในคืนนี้เหมือนกับทรราชพระองค์หนึ่งเลย
แต่เมื่อสบตาเข้ากับดวงตาที่แดงก่ำและโกรธสุดขีดของโม่จงหราน เขาก็กลืนคำพูดที่มาถึงปากกลับไป
“ฝ่าบาท พิษนี้ร้ายแรงและก็หายากมาก!”
หมอหลวงหยางรีบกล่าว “พระชายาหมิงมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ถ้าอย่างไรเชิญนางมาแก้พิษให้เหนียงเหนียงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
โม่จงหรานหรี่ตาลง ในดวงตามีประกายแสงอันตรายพุ่งออกมา “เจ้ากำลังบอกว่า เจ้าที่เป็นหัวหน้าแห่งโรงหมอหลวง ทักษะทางการแพทย์ยังสู้พระชายาหมิงไม่ได้หรือ? !”
“ข้ามีเจ้าไว้เพื่ออะไร? ! เจ้าพวกคนไม่เป็นโล้เป็นพายทั้งหลาย!”
บรรดา “คนไม่เป็นโล้เป็นพาย” ก้มหน้าเอาไว้ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
หลี่หมัวมัวยืนเช็ดน้ำตาอยู่ด้านข้าง “ฝ่าบาท หมอหลวงหยางกล่าวถูกแล้ว ถ้าอย่างไรเชิญพระชายาเข้าวังมาเถอะ!”
โม่จงหรานถึงได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง “ซูปิ่งซ่าน ออกนอกวัง ไปเชิญพระชายาหมิงเข้าวังทันที”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
ซูปิ่งซ่านหันหลังจากไปทันที
โม่จงหรานอดกลั้นความโกรธในใจเอาไว้ กล่าวถามหลี่หมัวมัว “อยู่ดีๆ ทำไมเต๋อเฟยถึงถูกวางยาพิษได้? คืนนี้กินอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
“ทูลฝ่าบาท คืนนี้เหนียงเหนียงรู้สึกเบื่ออาหาร ดื่มไปเพียงโจ๊กถั่วแดงลูกเดือยถ้วยเดียว แล้วก็ซุปข้นตับแกะครึ่งถ้วยเล็กเท่านั้น”
โม่จงหรานขมวดคิ้วแน่น “เหตุใดเต๋อเฟยถึงเบื่ออาหาร?”
วางเต๋อเฟยเอาไว้บนยอดดวงใจจริงๆ ด้วย
ได้ยินว่านางเบื่ออาหาร…….โม่จงหรานก็สอบถามในทันที ถึงขั้นลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่นี้เขากำลังถามว่า คืนนี้เต๋อเฟยกินอะไรไป
“นี่……”
หลี่หมัวมัวแสดงออกว่าตอบได้ยาก
นางมองไปที่โม่จงหรานอย่างลำบากใจครู่หนึ่ง อยากจะพูดแต่ก็หยุดเอาไว้ “วันนี้ในตำหนักคุนหนิง พระนางฮองเฮากับซูเฟยเหนียงเหนียง รวมหัวกันถากถางเหนียงเหนียงของเรา”
ในดวงตาของโม่จงหรานมีความโหดเหี้ยมไร้ความปรานีแวบผ่านไปเล็กน้อย “พวกนางว่าอะไรเต๋อเฟย? !”
ผู้หญิงปากมากขี้นินทาพวกนี้!
ตอนนี้เขาแค่อยากจะดึงลิ้นของพวกนางออกมาเท่านั้น!
ผู้หญิงสามคนอยู่ด้วยกันก็มีเรื่องวุ่นวายต่างๆ นานาแล้ว แต่เขาดันมีหญิงงามในวังหลังสามพันนาง!
แสดงละครกันอยู่ตลอดเวลา ไม่มีหยุดพักกันเลยสักวัน!
หลี่หมัวมัวก้มหน้าเอาไว้ กล่าวตอบอย่างระมัดระวัง “พระนางฮองเฮากับซูเฟยเหนียงเหนียง เยาะเย้ยท่านอ๋องกับพระชายาว่าไร้ทายาท ดังนั้นเหนียงเหนียงก็เลยโกรธมาก......”
“หลังจากกลับตำหนักแล้ว เหนียงเหนียงก็อ่อนเพลียทั้งวัน”
“มื้อกลางวันก็ดื่มไปแค่น้ำซุปถั่วเขียวเท่านั้น มื้อเย็นก็กินไปแค่ซุปข้นตับแกะกับโจ๊กถั่วแดงลูกเดือยเท่านั้น”
หัวข้อสนทนากลับไปที่ มื้อเย็นเต๋อเฟยกินอะไร
โม่จงหรานถึงได้กล่าวถามขึ้นมาอย่างสงสัย “ซุปข้นตับแกะ?”
“ซุปข้นตับแกะคืออะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...