ตอนที่โม่เยว่กลับมาถึงจวนอ๋อง ก็เป็นเวลาดึกแล้ว
เขาไปที่เรือนชิงหยิ่งในนาทีแรกเลย
หยวนเป่านอนหลับไปแล้ว หยุนหว่านหนิงนั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง ในมือถือตำราประวัติศาสตร์เอาไว้เล่มหนึ่งกำลังอ่านอย่างออกรส
เห็นเขาเข้ามาโดยไม่เคาะประตู นางอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ “หรือว่าท่านอ๋องไม่มีนิสัยการเคาะประตู? ที่นี่ไม่ใช่เรือนทิงจู๋ของท่านอ๋อง”
“ทั่วทั้งจวนอ๋องเป็นของข้าทั้งนั้น ยังต้องเคาะประตูอีกหรือ?”
โม่เยว่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างไม่เห็นด้วย “ออกมา ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
หยุนหว่านหนิงถูกคำพูดไม่มีเหตุผลของเขาทำให้โมโห
ลงมาจากเตียงอย่างระมัดระวัง แล้วห่มผ้าห่มให้กับหยวนเป่า นางคลุมเสื้อนอกแล้วเดินออกมาด้วยลักษณะท่าทางดุดัน “วันนี้ก็ช่างมันเถอะ ถ้าหากวันหน้าช้ากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ท่านอ๋องก็จะเข้ามาโดยไม่เคาะประตูหรือ?”
“เปลี่ยนเสื้อผ้า? ร่างกายเจ้ามีส่วนไหนที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน?”
เขามองนางอย่างดูหมิ่นครู่หนึ่ง
นัยนอกเหนือคำพูด คือหมายถึงเรื่องที่พวกเขาร่วมหอกันตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้ว
หยุนหว่านหนิงถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้ เขินอายขึ้นมา
คิดย้อนกลับมา ตัวเองเป็นถึงผู้หญิงยุคใหม่ ยังจะถูกคำพูดคุยโม้เกินจริงไม่กี่คำของเขาทำให้ตกใจได้หรือ?
นางยิ้มเย้ยหยันออกมา ตอบกลับอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย “งั้นหรือ? เช่นนั้นท่านอ๋องรู้หรือไม่ว่า เส้นขนบนร่างกายส่วนไหนของข้าที่หนาทึบมากที่สุด?”
“เจ้า......”
คิดไม่ถึงว่านางจะไร้ยางอายเช่นนี้ แก้มของโม่เยว่ร้อนผ่าว ถึงกับตอบไม่ได้!
“ท่านอ๋องกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ? ข้าพูดถึงเส้นผมของข้าอยู่!”
หยุนหว่านหนิงมองเขาอย่างดูหมิ่นครู่หนึ่ง
พวกมือใหม่
คิดจะมาสู้กับนาง? !
โม่เยว่ถูกสกัดกั้นจนพูดไม่ออกอีกครั้ง!
เขากับผู้หญิงคนนี้ มีชะตากรรมชงกันอย่างแน่นอน!
“เอาล่ะ ไม่ทำสงครามน้ำลายกับท่านแล้ว ดึกๆค่ำคืน ท่านอ๋องไม่หลับไม่นอนมาหาข้าทำไม? มีอะไรจะพูดก็พูดมา!”
หยุนหว่านหนิงหาวขึ้นมา น้ำเสียงค่อนข้างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
โม่เยว่โมโหจนหน้าเขียวหน้าดำ!
ผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งใจกล้าต่อหน้าเขามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว!
“หยาบคาย!”
เขากล่าวลอดไรฟันออกมาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันประโยคหนึ่ง “ได้รับความเห็นชอบจากเสด็จพ่อแล้ว จะใช้กำลังเข้ายึดอาวุธ ผู้ที่ไม่เชื่อฟัง ฆ่าไม่มียกเว้น”
“ท่านคิดว่า การกระทำนี้เหมาะสมหรือไม่?”
ก่อนหน้านี้เขายังไม่เชื่อนาง
แต่หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์มามากมายขนาดนี้ เมื่อพบเจอปัญหาอีก กลับมาหารือกับนางในนาทีแรก
“ความหมายของเสด็จพ่อ คือให้ท่านเชือดไก่ให้ลิงดูใช่ไหม? ถือโอกาสนี้สร้างอำนาจบารมี?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว
โม่เยว่พยักหน้า รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่นางเดาเจตนาของโม่จงหรานออก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านยังมีอะไรให้ลังเลอีก?”
ฮ่องเต้ให้อำนาจเขามากมายขนาดนี้ ไม่ถือโอกาสนี้สั่งสอนโม่หุยเฟิงให้เป็นบทเรียนหน่อย หรือยังจะรอให้วันหน้า โม่หุยเฟิงจะยิ่งไม่เห็นเขาอยู่ในสายตามากขึ้นเรื่อยๆ? !
สบตากับสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งของนาง ในใจของโม่เยว่เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนขึ้นมา
สองวันติดต่อกัน เขาก็ไม่ได้กลับมาจวนอ๋องอีก
แม้แต่หรูโม่ ก็ไม่เคยกลับมาเช่นกัน
หรูยี่กับหรูเยียนยังติดตามอยู่ข้างกายของหยุนหว่านหนิง เรื่องต่างๆในจวน ลุงเว่ยกับหลิ่วมามาก็มารายงานนางด้วยความเคยชิน
นางที่เป็นพระชายาหมิง กลับแลดูสมฐานะมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
เช้าตรู่วันที่สาม หยุนหว่านหนิงเพิ่งจะพาหยวนเป่าไปที่ห้องหนังสือ พบกับกู้ป๋อจ้ง ลุงเว่ยก็เข้ามาและกล่าวด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม บอกว่า คนของจวนยิ่งกั๋วกงมา
“อ๋อ?”
หยุนหว่านหนิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “จวนยิ่งกั๋วกง? ใครมาหรือ?”
“คือคุณหนูรองหยุน”
ลุงเว่ยตอบอย่างเคารพนบนอบ
หยุนติงหลานมาหรือ? !
หยวนเป่าเป็นดอกไม้ดอกเล็กๆแห่งอนาคตของมาตุภูมิ จะให้เขามีความคิดที่ “ดำมืด” เช่นนี้ไม่ได้
หยุนหว่านหนิงยิ้มออกมาเล็กน้อย นั่งยองๆลงไปตรงหน้าเขา “ลูกชายคนเก่ง! เจ้าตั้งใจเรียนหนังสือกับตาทวดดีๆ คืนนี้แม่จะทำหมูตุ๋นน้ำแดงให้เจ้ากิน!”
“เยี่ยมเลย! ขอบคุณท่านแม่!”
หยวนเป่าปรบมือด้วยความดีใจทันที และ “จ๊วบๆ” บนใบหน้าของนางอย่างแรง
หยุนหว่านหนิงถึงได้ลุกขึ้นมา “ท่านตา ข้าฝากหยวนเป่าเอาไว้ให้ท่านแล้ว”
“หนิงเอ๋อร์”
กู้ป๋อจ้งขมวดคิ้ว น้ำเสียงแฝงความกังวลเล็กน้อย “เท่าที่ข้ารู้มา ในสี่ปีมานี้คนของจวนยิ่งกั๋วกง ไม่เคยมาเยี่ยมเจ้าที่จวนอ๋องหมิงเลยสักครั้ง ถึงขั้น ตัดขาดความสัมพันธ์กับเจ้าเพียงฝ่ายเดียวด้วยซ้ำ”
“ตอนนี้หยุนติงหลานคนนั้นมาทำอะไร?”
นอกเหนือจากหยวนเป่าแล้ว ก็มีท่านตาที่เป็นห่วงนางมากที่สุด......
เห็นความห่วงใยและความกังวลในสายตาของท่านตา หยุนหว่านหนิงแสร้งกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างผ่อนคลาย “ท่านตาไม่ต้องกังวลไปหรอก!”
“นางจะสามารถทำอะไรได้? คิดว่าคงแค่มาดูว่า ตอนนี้ข้าใช้ชีวิตอยู่อย่างไรเท่านั้นแหละ!”
“อีกอย่าง ที่นี่คือจวนอ๋องหมิง นางก็ไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก”
“ก็ได้ เจ้าต้องระวังตัวให้มาก”
กู้ป๋อจ้งถึงได้พยักหน้า จูงมือหยวนเป่าเข้าไปในห้องหนังสือ
หลังจากที่ประตูห้องหนังสือปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของหยุนหว่านหนิงก็หายไปในทันที
หยุนติงหลานใช่ไหม?
วันนี้นาง จะไปขอคำแนะนำน้องสาวแสนดีที่ “อ่อนโยนใจกว้าง ดูแลเอาใจใส่และเข้าใจจิตใจผู้อื่น” ท่านนี้อย่างดี!
หยุนหว่านหนิงหันหลังเข้าไปทางลานด้านหน้า
เพิ่งจะเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ก็เห็นเงาร่างสีเขียวอ่อนเงาหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงอย่างถูกต้องเหมาะสม ได้ยินเสียงฝีเท้ามาถึงหน้าประตู นางก็หันหน้ามองมา เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามและคุ้นเคย
“ท่านพี่มาแล้วหรือ!”
หยุนติงหลานทักทายด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ทันทีที่เห็นนาง ก็ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆนานาเมื่อสี่ปีก่อน......ความเกลียดชังในใจของหยุนหว่านหนิง พลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างท่วมท้น!
วันนี้ มีบัญชีหนี้แค้นมากมาย ที่ต้องชำระกับหยุนติงหลานจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...