สรุปเนื้อหา บทที่ 248 ข้าก็คิดถึงเจ้าเหมือนกัน – อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ โดย มู่อีอี
บท บทที่ 248 ข้าก็คิดถึงเจ้าเหมือนกัน ของ อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย มู่อีอี อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เช้าตรู่ หรูเยียนรีบเข้ามาในห้องนอนและบอกว่า “พระชายา มีเรื่องให้แปลกใจเพคะ!"
“มีอะไรให้แปลกใจงั้นหรือ”
หยุนหว่านหนิงหาว “ข้าอยู่ในวังนอกเมือง ใครจะมาทำให้ข้าแปลกใจ จะมีอะไรน่าแปลกใจ?”
“ถ้าไม่แปลกใจหรือตกใจ ข้าจะทุบเจ้าให้ดู”
หรูเยียน “...พระชายาอย่าใช้ความรุนแรงได้ไหมเพคะ”
“ข้าเป็นคนอ่อนโยนจะตายไป”
หยุนหว่านหนิงขยี้ตาอย่างง่วงเหงาหาวนอนและลงไปแต่งตัวและสวมรองเท้า จากนั้นเสียงอันตื่นเต้นของหรูเยียนจึงดังขึ้นที่ข้างหู “พระองค์ไปที่ตำหนักหลักหลักก็จะรู้เองเพคะว่ามีเรื่องอะไรน่าประหลาดใจ!"
แม้ว่าในตำหนักสิงกง(*พระราชวังที่อยู่นอกเมืองหลวง) จะมีตำหนักอยู่หลายตำหนัก แต่หยุนหว่านหนิงก็ยืนยันว่าจะอยู่กับไทเฮากู้ที่ตำหนักเจาฮุยถัง
ดังนั้นไทเฮากู้จึงอยู่ที่ตำหนักหลัก นางอยู่ที่ตำหนักด้านข้าง
“งั้นหรือ”
หลังจากล้างหน้าหวีผมอย่างง่ายๆ หยุนหว่านหนิงก็ไปที่ตำหนักหลัง
ยังไม่ทันจะเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงคิกคักดังมาจากด้านใน
เป็นเสียงของไทเฮากู้!
แม้ว่าจะอยู่ที่วังแห่งนี้มาสองวัน แต่หยุนหว่านหนิงก็ยังไม่เคยได้ยินไทเฮากู้หัวเราะอย่างสบายใจเช่นนี้... ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ หยุนหว่านหนิงจึงชะงักไปนิดหนึ่ง
“ไทเฮาเป็นอะไรน่ะ”
หรูเยียนสบตากับสายตาที่งุนงงของนาง แต่นางก็ไม่ยอมตอบตรงๆ
นางยังคง ‘ยุ’ หยุนหว่านหนิงไม่หยุดว่า “พระชายาเข้าไปก็จะรู้เองเพคะ!"
“อะไรกันน่ะ ทำเป็นมีลับลมคมใน”
หยุนหว่านหนิงส่ายหัวอย่างจนปัญหา ใครจะรู้ว่าทันทีที่ก้าวไป นางจะได้ยินเสียงใสที่คุ้นเคยดังขึ้นมา “ทอดเนตรสิพ่ะย่ะค่ะเสด็จย่า...”
เสด็จย่า?!
เสียงที่คุ้นเคยนั่นคือ...
หยุนหว่านหนิงยังไม่ทันตอบสนอง ร่างเล็กๆ ของใครคนหนึ่งก็โผเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่!"
หยวนเป่าพุ่งเข้ามาในอ้อมกอดของนางราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ลูกเล็กๆ!
หยุนหว่านหนิงทิ้งตัวลงนั่งยองๆ และจับเขาไว้
ทันใดนั้นหยวนเป่าจึงใช้สองแขนโอบรอบคอและใช้สองขาโอบรอบเอวของนางไว้แน่น ดูเหมือนสลอธตัวน้อยที่ห้อยอยู่บนตัวของนาง!
“ท่านแม่! ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน!”
หยวนเป่าจุ๊บบนใบหน้าของนางไม่หยุด
เวลานี้หยุนหว่านหนิงค่อนข้างสับสนเล็กน้อย
ภายในหัวมีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นมานับไม่ถ้วน... ข้าเป็นใคร? ข้าอยู่ที่ไหน?
ไม่สิ!
หยวนเป่ามาที่นี่ได้อย่างไร!
หยุนหว่านหนิงมองหยวนเป่าที่กำลังมีความสุขอย่างประหลาดใจ นางใช้สองมือกอดเขาแน่นและจ้องมองพลางถามว่า “หยวนเป่า เจ้ามาได้อย่างไร”
มิน่าเล่า เมื่อครู่นี้หรูเยียนจึงบอกว่าจะทำให้นางประหลาดใจ!
ที่แท้สิ่งที่จะทำให้ประหลาดใจก็คือลูกชายนี่เอง!
เมื่อความประหลาดใจปรากฏแล้ว...
ความตกใจย่อมตามมาโดยธรรมชาติ
โม่เยว่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ข้างๆ โดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ส่วนไทเฮากู้กำลังมองนางกับหยวนเป่าด้วยรอยยิ้มที่รื่นรมย์
มองไปมองมาน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม “วันนี้ข้ามีความสุขยิ่งนัก! นึกว่าชีวิตนี้จะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้เสียแล้ว ใครจะไปรู้...”
“ซูยิง รีบไปเอานารีแดงที่ดีที่สุดออกมา”
ไทเฮากู้เช็ดน้ำตา รับสั่งทั้งสะอื้นว่า “วันนี้ข้าจะฉลองสักหน่อย!"
“แต่ไทเฮา พระองค์ดื่มสุราไม่ได้นะเพคะ”
หวางหมัวมัวยิ้มอย่างมีความสุขและหัวเราะทั้งน้ำตา
“วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีเช่นนี้ จะไปกลัวอะไร! ไปเอามาได้แล้ว!”
ไทเฮากู้โบกพระหัตถ์และรับสั่งอย่างเอาแต่พระทัย
หวางหมัวมัวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปอย่างช่วยไม่ได้
โม่เยว่เพิ่งจะวางถ้วยชาลง เมื่อสายตาจับจ้องไปทางหยุนหว่านหนิงและหยวนเป่า... ท่าทีที่แข็งทื่อเฉยเมยเมื่อครู่ก็มลายไป
และความอ่อนโยนก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในดวงตา
ไทเฮากู้ที่ประทับอยู่ข้างๆ และแอบเฝ้ามองทั้งสองคนอย่างเงียบๆ รู้สึกปลื้มใจมากเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของโม่เยว่!
เจ้าเด็กร้ายกาจ!
ชอบทำเป็นสุขุมเย็นชา ช่างเสแสร้งเสียจริง!
ตอนแรกนางคิดว่าหนิงเอ๋อร์แค่พูดไปอย่างนั้นเอง คิดว่านางโกหกคนแก่ เรื่องที่บอกว่านางกับโม่เยว่ดีกันแล้ว
แต่ดูสิ่งที่เห็นตอนนี้สิ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ!
ถึงตอนนี้นางก็วางใจได้แล้ว!
ไทเฮากู้ถอนหายใจอย่างโล่งอก นางมองหยุนหว่านหนิงที่อุ้มหยวนเป่ามานั่งทั้งน้ำตาไหลริน “แม่หนูน้อยหนิงเอ๋อร์! เมื่อวานนี้ข้ายังพูดเรื่องพระนัดดาองค์ โตกับเจ้าอยู่เลย”
“เหตุใดเจ้าจึงไม่บอกความจริงกับข้า แม้แต่กับข้าก็ต้องปิดบังด้วยหรือ!"
“อื้ม!"
ไทเฮากู้ตอบรับง่ายๆ และยิ้มไม่หุบ
เมื่อหยวนเป่าวิ่งไปในอ้อมกอดของไทเฮากู้อย่างออดอ้อน หยุนหว่านหนิงจึงถามโม่เยว่ว่า “พวกท่านมาที่นี่ทำไมหรือ”
“ลูกคิดถึงเจ้า”
โม่เยว่ตอบโดยไม่ต้องคิด
หลังจากหยุดไปนิดหนึ่ง เขาจึงเอ่ยอย่างเคร่งขรึมต่ออีกว่า “ข้าก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน”
หยุนหว่านหนิง “.....”
ทำไมแก้มถึงได้ร้อนเห่อขึ้นมาอย่างนี้
อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนอนถีบผ้าห่มออกไป ตอนนี้ก็เลยมีไข้ขึ้นมากระมัง
ถึงอย่างไรที่วังแห่งนี้ก็ค่อนข้างมืดครึ้มและหนาวอยู่แล้ว...
ขณะที่นางกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง นางไม่ทันสังเกตเลยว่าสายตาของโม่เยว่มีประกายของความยั่วเย้า เขาตั้งใจลดเสียงลงและเอ่ยว่า “เจ้าไม่คิดถึงข้าหรือ”
หยุนหว่านหนิง “...ข้าคิดถึงท่าน อยากจะฆ่าท่าน”
โม่เยว่ขมวดคิ้ว
หรูโม่ไม่ได้บอกว่าถ้าจะจีบผู้หญิงต้องใจกล้าหน้าด้านหรอกหรือ
ต้องตรงไปตรงมา?
กับหยุนหว่านหนิง ดูเหมือนเคล็ดลับนี้จะใช้ไม่ได้ผลสินะ
เขากระแอมเบาๆ “หนิงเอ๋อร์ ทำไมเจ้าจึงหน้าแดงเล่า”
เสียงของเขาไม่เบา ดังนั้นจึงดึงดูดความสนใจของไทเฮากู้และหยวนเป่าได้ ดวงตาของโม่เยว่เป็นประกายอิ่มอกอิ่มใจ “เป็นเพราะเมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่าเจ้าคิดถึงข้าใช่หรือไม่”
“ดังนั้นเจ้าก็เลยเขิน?”
หยุนหว่านหนิง “.....”
นางจะอยากจะทุบผู้ชายคนนี้สักหมัดจริงๆ!
ไทเฮากู้เคยผ่านโลกมาก่อน นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทั้งสองคนกำลังเกี้ยวพาราสีกันอยู่!
หยวนเป่ากระโดดออกจากอ้อมกอดของนางและวิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหยุนหว่านหนิงอีกครั้ง “ท่านแม่ ท่านพ่อเก๊รังแกท่านอีกแล้วเหรอ”
เมื่อได้ยินคำเรียกนี้ ไทเฮากู้ก็หัวเราะออกมา “พ่อเก๊?!"
“เยว่เอ๋อร์ หยวนเป่าตัวน้อยเรียกใครหรือ”
ทีนี้ถึงคราวโม่เยว่หน้าแดงบ้าง
เขาหันไปมองไทเฮากู้อย่างไม่พอใจประหนึ่งจะบอกว่า ‘ท่านรู้แล้วยังจะถามอีก’ จากนั้นจึงหันไปพูดกับหยวนเป่าอย่างหมดท่าว่า “หยวนเป่า เรียกท่านพ่อสิ!"
เขาเอ่ยอยู่ในใจว่า ‘ลูกเอ๋ยลูก ช่วยรักษาหน้าให้พ่อบ้างไม่ได้หรือ?!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...