อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 255

“ฝ่าบาท ที่นี่คือตำหนักสิงกงพ่ะย่ะค่ะ”

ซูปิ่งซ่านเตือนด้วยความระมัดระวัง

“อ้อ เช่นนั้นก็ถ่ายทอดคำสั่งของข้ากลับเมืองหลวง!”

โม่จงหรานสะบัดแขนเสื้อ “พระชายาหมิงมีผลงาน ประทานที่นาพันหมู่(* ประมาณ 0.416667 ไร่) แก้วแหวนเงินทองนับไม่ถ้วน และ...”

ยังไม่ทันกล่าวจบ หยุนหว่านหนิงก็ยั้งไว้ก่อน “เสด็จพ่อ แบบนี้ไม่ดีกระมังเพคะ ถ้าทำให้เอิกเกริกใหญ่โต ต้องเป็นที่สงสัยแก่คนรอบข้างแน่เพคะ”

“ความจริงหม่อมฉันคิด ที่โม่เยว่ยังไม่ได้ทูลบอกเรื่องหยวนเป่าก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน”

นางรีบอธิบาย “ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของหยวนเป่าเพคะ!”

“ถูกต้อง สมควรคุ้มครองหลานชายของข้า”

โม่จงหรานพยักหน้าอย่างกับมีความคิด “แต่เจ้าคือพระชายา ข้าจะเลื่อนยศของเจ้าไม่ได้แล้ว...”

จะให้สูงกว่าฮองเฮาไม่ได้กระมัง

“ตกรางวัลให้เจ้าก็ไม่เอา อย่างนั้นเจ้าก็บอกข้ามา เจ้าอยากได้อะไร”

“หม่อมฉันยังคิดไม่ออกเพคะ”

หยุนหว่านหนิงครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น “ไม่อย่างนั้น หลังจากกลับเมืองหลวงแล้ว เสด็จพ่อก็มอบราชโองการเปล่าให้หม่อมฉันสักฉบับเถอะเพคะ!”

ราชโองการเปล่า?

ของพรรค์นี้มีประโยชน์กว่ารางวัลอื่นเป็นไหนๆ!

เพราะผู้ใดก็ไม่รู้ว่าหยุนหว่านหนิงจะเขียนอะไรลงไปในราชโองการแผ่นนี้...ถึงตอนนั้น แม้จะเด็ดหัวของโม่เยว่ ก็คงไม่มีใครขัดขวางได้!

เพราะโม่จงหรานประทับตราหยกลงบนราชโองการ นั่นคือเขาพยักหน้าเห็นด้วย!

หมายถึงโองการแห่งโอรสสวรรค์!

คำสั่งของโอรสแห่งสวรรค์ ผู้ใดกล้าขัดขืน!

นี่คือรางวัลใหญ่เท่าฟ้าเชียวนะ!

โม่จงหรานลำบากใจเล็กน้อย “เจ้าจะเอาราชโองการเปล่าไปทำอะไร”

“เสด็จพ่อไม่ต้องกังวลพระทัยไปหรอกเพคะ หม่อมฉันไม่เอาไปทำเรื่องไม่ดีหรอก”

หยุนหว่านหนิงอธิบายด้วยความน้อยใจ “พระองค์ก็ทรงทราบ หม่อมฉันล่วงเกินคนในเมืองหลวงมากมาย คนที่อยากทำให้หม่อมฉันตายมีนับไม่ถ้วน”

“ที่หม่อมฉันอยากได้ราชโองการฉบับนี้ ก็เพราะจะใช้รักษาชีวิตเท่านั้นเพคะ!”

ถ้อยคำนี้สัตย์จริงยิ่งนัก

โม่จงหรานพยักหน้าราวกับมีความคิด “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะให้ตามที่เจ้าต้องขอ!”

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”

หยุนหว่านหนิงโขกศีรษะด้วยความดีใจลิงโลด

“ลุกขึ้นมาเถอะ”

โม่จงหรานมองนางทีหนึ่ง เอ่ยอย่างจริงจัง “วางใจ ต่อไปข้าจะคุ้มครองเจ้า จะไม่ให้ใครรังแกเจ้าเด็ดขาด!”

หยุนหว่านหนิงย่อมเชื่อคำพูดนี้อยู่แล้ว

เพราะก่อนหน้านี้ ก่อนที่โม่จงหรานจะกล่าวคำรับรองนี้...

เขาก็เป็นคนที่คอยปกป้องคุ้มครองลูกสะใภ้ที่ทำให้ในวังไก่เตลิดสุนัขวิ่งพล่านเป็นประจำอยู่แล้ว

ไทเฮากู้ที่อยู่ด้านข้างก็ยิ้มอย่างพอใจด้วย

ขณะที่พวกเขากำลังสนทนา หวางหมัวมัวก็พาหยวนเป่าที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเข้ามา

หากเทียบกับเมืองหลวง ตำหนักสิงกงถือได้ว่าเป็นแดนสวรรค์แห่งการหลบร้อน

ครั้นเข้าสู่ม่านวิกาล ตำหนักสิงกงจะเย็นสบายเป็นอย่างมาก

เมืองหลวงยังเป็นฤดูร้อนที่ร้อนจัด แต่ตำหนักสิงกงเหมือนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว โดยเฉพาะในตอนกลางคืน แม้แต่หยุนหว่านหนิงยังต้องใส่เสื้อกั๊กคอกลมเพิ่มอีกตัว

หยวนเป่าไม่ได้ใส่ชุดผาวยาว

ข้างในเขาใส่เสื้อเชิ้ตลายตารางตัวหนึ่ง ข้างนอกใส่เสื้อไหมพรมสีล้วนอีกตัว

กางเกงยีน รองเท้ากีฬา

ผมยังคงมัดจุกเหมือนเดิม ขัดด้วยปิ่นหยก

ผิวพรรณขาวสะอาด สดใสร่าเริง

ช่วงที่อยู่ตำหนักสิงกง ไทเฮากู้และคนอื่นๆ คุ้นเคยกับการแต่งตัวที่ประเดี๋ยวทันสมัย ประเดี๋ยวโบราณของหยวนเป่านานแล้ว

แม้จะสงสัยว่าหยุนหว่านหนิงทำเสื้อผ้ากางเกงรูปแบบพิเศษนี้ให้เขาได้อย่างไร แต่พอเห็นเขาแต่งกายไม่เหมือนเด็กบ้านอื่นแล้ว ไทเฮากู้ก็ชอบยิ่งนัก!

“หยวนเป่าสุดที่รัก มาหาท่านย่าทวดนี่เร็ว!”

นางเพิ่งเอ่ยปาก โม่จงหรานก็อยาก ‘ดัก’ เอาไว้กลางทางอย่างอดรนทนไม่ไหว

เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปอุ้มหยวนเป่าไว้ในอกด้วยตนเอง หอมใบหน้าเขาสองทีแรงๆ

“เสด็จแม่ ทรงประทับอยู่กับหยวนเป่าสิบกว่าวันแล้ว ทรงยอมให้หม่อมฉันบ้างเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

ครั้นโม่จงหรานเห็นท่าทางหยวนเป่าน่ารักแต่ไม่ขาดความเท่แล้ว ก็ชอบเป็นที่สุด!

เขากอดหยวนเป่าแน่นๆ ไม่ยอมปล่อย

ไทเฮากู้ส่ายหน้าด้วยความจนใจ “เจ้าก็แย่งไปแล้ว ข้ายังจะพูดอะไรได้อีก”

โม่จงหรานอุ้มหยวนเป่านั่งลงด้วยความกระหยิ่มใจ พินิจมองเขาอย่างละเอียด “หยวนเป่าสุดที่รักเหมือนกับเจ้าเจ็ดตอนเด็กๆ เลย! ดูหน้าผากนี่สิ สูงขนาดไหน”

“ใบหูใหญ่ขนาดไหน มีวาสนาขนาดไหน”

“แล้วยังดวงตานี่อีก จมูก...”

ทุกจุดล้วนชวนให้คนหลงใหลขนาดนั้น โม่จงหรานตื่นเต้นปริ่มเปรมจนน้ำตาไหลออกมาแล้ว

เขาจดจ้องหยวนเป่า ไม่อยากกะพริบตา

อย่างกับกลัวว่ากะพริบตาแล้ว หยวนเป่าจะลอยหายไป!

หยุนหว่านหนิงอายเล็กน้อย

ตั้งแต่ได้เจอกับหยวนเป่า ไทเฮากู้กับโม่จงหรานก็เรียกบุตรชายว่า ‘หยวนเป่าสุดที่รัก’ ที่ว่าข้ามรุ่นสนิทสนม ไม่ใช่แค่คำร่ำลือจริงๆ ด้วย

พอเห็นหยวนเป่าสนทนากับโม่จงหรานแล้ว หยุนหว่านหนิงก็รู้สึกหนักอึ้ง

ตอนนี้โม่จงหรานก็รู้ตัวตนของบุตรชายแล้ว

เหมือนกับที่นางคิด เขารักหยวนเป่าสุดหัวใจ

นี่คือเรื่องดี แต่มันกลับทำให้นางกระวนกระวายใจนิดๆ

“เสด็จพ่อ”

ทันใดนั้นนางก็เปิดปาก “หม่อมฉันมีเรื่องหนึ่ง อยากขอร้องให้เสด็จพ่อรับปากเพคะ”

“เรื่องอันใด เจ้าว่ามา!”

ตอนนี้อย่าว่าแต่หนึ่งเรื่องเลย ต่อให้ร้อยเรื่อง...ขอเพียงสมแก่เหตุผล โม่จงหรานย่อมรับปากแบบตาไม่กะพริบแน่นอน!

ในสายตาของเขา ตอนนี้หยุนหว่านหนิงคือขุนนางผู้ทำผลงานใหญ่หลวง!

“หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงรักษาความลับไว้ก่อน ไม่บอกเรื่องหยวนเป่ากับคนอื่นเพคะ”

หยุนหว่านหนิงสีหน้าเคร่งเครียด

“เพราะอะไร”

โม่จงหรานแสดงออกว่าไม่เข้าใจ “ข้ารู้ พวกเจ้ากลัวเรื่องความปลอดภัยของหยวนเป่า”

“แต่เขาคือพระนัดดาองค์โต คือแก้วตาดวงใจของข้า มีข้าคุ้มครองอยู่ ยังจะมีใครกล้าลงมือหยวนเป่าอีกหรือ!”

“เสด็จพ่อ ทวนเปิดเผย หลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์ลับ ยากจะระวังเพคะ”

หยุนหว่านหนิงกัดฟัน เอ่ยเสียงหนัก “หากเป็นอันตรายโจ่งแจ้ง หม่อมฉันกับท่านอ๋องยังพอป้องกันได้ แต่ทางลับ ยังมีคนจ้องจวนอ๋องหมิงอยู่ ยากจะพูดเพคะ”

นางไม่กลัวตาย โม่เยว่ก็ไม่กลัวตาย

แต่กลัวหยวนเป่าจะมีอันตราย!

ครั้นเป็นบิดามารดา ก็จะมีจุดอ่อน และกลัวตายตามสัญชาตญาณ!

หากพวกเขาตาย บุตรชายจะทำอย่างไร

ไทเฮากู้วางถ้วยน้ำชา เก็บรอยยิ้มในดวงตา “ฮ่องเต้ ความจริงหนิงเอ๋อร์ก็พูดถูก”

ทีแรกนางก็คิดแต่จะสนับสนุนให้พวกหยุนหว่านหนิงบอกเรื่องชาติกำเนิดของหยวนเป่ากับโม่จงหรานเหมือนกัน

ตอนนี้ในเมื่อโม่จงหรานรู้แล้ว...ถ้าชาติกำเนิดของหยวนเป่าเป็นที่รู้กันไปทั่ว ที่ตามมาติดๆ ก็จะเป็นทวนแจ้งเกาทัณฑ์ลับต่างๆ นานา!

“ตอนนี้สถานการณ์อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง”

ไทเฮากู้เอ่ยเสียงหนัก “หยวนเป่าต้องถูกคนพวกนี้เห็นเป็นหนามยอกอกแน่!”

โม่จงหรานจะไม่รู้ได้อย่างไร ว่าคำพูดของไทเฮากู้หมายถึงอะไร

เขายังไม่ได้แต่งตั้งไท่จื่อ

ตอนนี้ขนาดยังไม่ได้แต่งตั้งไท่จื่อ ราชสำนักก็เริ่มมีคลื่นใต้น้ำแล้ว

หากคนอื่นรู้ฐานะหยวนเป่าที่เป็นพระนัดดาองค์โต น่ากลัวว่าจะต่อกรลำบาก...

เขาหรี่ดวงตาลงเล็กน้อย “หม่อมฉันเข้าใจความหมายเสด็จแม่! หว่านหนิง เจ้าวางใจ เรื่องนี้ข้ารู้ดี จะไม่ให้หยวนเป่าสุดที่รักมีอันตรายแม้แต่ปลายก้อย!”

แม้ว่าเขาจะรักและเอ็นดูหยวนเป่า แทบอยากอยู่กับหลานชายตลอดเวลา

แต่ตอนนี้จะเอิกเกริกไม่ได้

หลานชายเข้าวังอยู่เป็นเพื่อนเขาไม่ได้ แต่เขาออกจากวังไปอยู่เป็นเพื่อนหลานชายสุดที่รักที่จวนอ๋องหมิงได้ทุกวันนี่!

เมื่อคิดเช่นนี้ โม่จงหรานก็โล่งอก “ข้าจะไม่บอกใคร”

เขาจุ๊บๆ ดวงหน้าขาวสะอาดของหยวนเป่า

เมื่อเห็นเขาโปรดปรานหยวนเป่าอย่างหักห้ามไม่อยู่ หยุนหว่านหนิงก็กังวล อดพูดขึ้นไม่ได้ “เสด็จพ่อ ถึงจะทรงรับปากเรื่องนี้แล้ว”

“แต่หม่อมฉันยังห่วงเรื่องพระองค์เพคะ!”

“เรื่องอะไร”

โม่จงหรานเงยหน้าขึ้นมาด้วยความงุนงง

หยุนหว่านหนิงมองเขาอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง “เสด็จพ่อ ยังมีเรื่องยุ่งที่สุด!”

โม่จงหรานงุนงงหนักกว่าเดิม “เรื่องยุ่งอย่างไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์