“เจ้าสามารถหาซ่งจื่ออวี๋เจอจริงหรือ?”
โม่จงหรานยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“หาเจอแน่นอนอยู่แล้ว!”
หยุนหว่านหนิงตบไปที่หน้าอก “เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้เช้า ลูกจะมัดซ่งจื่ออวี๋ส่งมาให้ท่านในห้องทรงพระอักษรเลย เสด็จพ่อคิดว่าอย่างไร?”
“ได้”
โม่จงหรานพยักหน้า
เขาทนซ่งจื่ออวี๋เจ้าหมอนี่มานานมากแล้ว!
เดิมทีคิดว่าชินเทียนเจี้ยนที่โม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงแนะนำ เป็นปรมาจารย์ผู้หลีกเร้นจากโลกียวิสัยที่เชื่อถือได้คนหนึ่ง
ใครจะรู้ว่า เขาจะแต่งตั้งตัวเองเป็นนาย!
ใช่ชินเทียนเจี้ยนที่ไหน?
เห็นได้ชัดว่า “ไม่เห็นกฎเกณฑ์ใดๆอยู่ในสายตา” ถึงได้ถูก!
เวลาที่ต้องการให้เขาออกอุบายวางแผนการ ก็มักจะหายตัวไป......ก่อนหน้านั้นโม่จงหรานก็เคยระบายความคับอกคับใจต่อหยุนหว่านหนิง ตอนนั้นนางบอกว่า: เป็นปรมาจารย์ผู้หลีกเร้นจากโลกียวิสัย! อย่างไรก็แตกต่างจากคนทั่วไปอยู่แล้ว!
ยังบอกว่า ปรมาจารย์ผู้หลีกเร้นจากโลกียวิสัยล้วนมีนิสัยของตัวเอง ค่อนข้างโอหังถือดี และค่อนข้างลึกลับทั้งนั้น
ดังนั้นจึงหายตัวไปเช่นนี้อยู่บ่อยๆ
โม่จงหรานก็เชื่อคำพูดไร้สาระของนาง
มาคิดดูภายหลัง ตอนนี้ซ่งจื่ออวี๋คือชินเทียนเจี้ยน ไม่ใช่ปรมาจารย์ผู้หลีกเร้นจากโลกียวิสัยที่มีอิสรเสรีอย่างในอดีต!
รับเงินเดือนของราชสำนัก ก็ควรจะเป็นชินเทียนเจี้ยนอย่างซื่อสัตย์ถึงจะถูก!
“ครั้งนี้หากเจ้าไม่พาซ่งจื่ออวี๋เข้าวังมาให้ข้า ข้าจะ......”
“ตัดหัวของลูก?”
หยุนหว่านหนิงไม่รู้สึกประหลาดใจต่อคำขู่ของเขาแล้ว
“ไม่ ข้าจะกักบริเวณเจ้า!”
โม่จงหรานกล่าวขึ้นมาอย่างหยิ่งทะนง “จากนั้นข้าจะพาหยวนเป่าเป่าเป้ยเข้าวัง ให้ทุกคนได้รู้ว่า ข้ามีพระนัดดาที่น่ารักและเป็นเด็กดีตั้งนานแล้ว!”
หยุนหว่านหนิง: “......เสด็จพ่อ ถือว่าท่านแน่”
คำขู่นี้ โหดมากพอจริงๆ!
เมื่อก่อนอ้าปากก็จะตัดหัวของนางตลอด
ถูกข่มขู่จนชินแล้ว หยุนหว่านหนิงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ รู้ว่าโม่จงหรานไม่ได้จะตัดหัวของนาง
ตอนนี้รู้ถึงการมีอยู่ของหยวนเป่า ถึงกับใช้ลูกชายมาข่มขู่นาง
แถมจะยังฉวยโอกาส พรากลูกชายนางไปอีก!
ลูกชายเป็นจุดอ่อนของนางจริงๆด้วย!
หยุนหว่านหนิงเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ “เสด็จพ่อ ไม่ควรให้ท่านรู้ถึงการมีอยู่ของหยวนเป่าเลย ครั้งหน้าหากท่านข่มขู่ลูกเช่นนี้อีก ลูกก็จะพาหยวนเป่าหนีไปให้ไกลห่าง”
โม่จงหรานเต็มไปด้วยความประหม่า “เจ้ากล้าหรือ!”
“เช่นนั้นท่านยังจะข่มขู่ข้าอีก?”
หยุนหว่านหนิงมองดูเขาอย่างเยือกเย็น
“ไม่ๆๆ ข้าจะไม่ทำแล้ว!”
โม่จงหรานรับประกันอย่างประหม่า “เจ้าห้ามพาหยวนเป่าเป่าเป้ยจากไป เจ้าต้องรับปากข้า!”
“ฮึ”
หยุนหว่านหนิงเอามือไพล่หลัง ฮึเสียงเบาออกมาแล้วจากไปอย่างสบายอารมณ์
มองดูโม่จงหรานตามมาถึงหน้าประตูด้วยความประหม่า ซูปิ่งซ่านยืนหัวเราะเงียบๆอยู่หน้าประตู
ฮ่องเต้ที่ยังวางมาดยิ่งใหญ่เกรียงไกรเมื่อครู่นี้ วินาทีเดียวก็กลายเป็นตาเฒ่าที่ “กังวลว่าหลานชายจะจากไป” ท่าทางนั่น ดูอย่างไรก็ตลกจริงๆ!
“เจ้าหัวเราะอะไร?”
โม่จงหรานใช้เท้าเตะเข้าไป “ไอ้เจ้าโง่!”
ซูปิ่งซ่านที่อยู่ดีๆก็โดนเตะ: “? ? ? ฝ่าบาท บ่าวไปยั่วยุพระองค์อย่างไร?”
เขายังไม่ได้ส่งเสียงเลย ทำไมถึงกลายเป็นเจ้าโง่ได้? !”
“ใครใช้เจ้าหัวเราะเยาะข้า?”
โม่จงหรานเหล่มองเขาครู่หนึ่ง แล้วก็มองดูแผ่นหลังที่จากไปของหยุนหว่านหนิง กัดฟันกล่าวว่า “อีนังหนูคนนี้! อาศัยว่าข้ารักนางนั่นแหละ!”
“ยังควบคุมหลานชายของข้าเอาไว้ ก็ไม่เห็นกฎเกณฑ์ใดๆอยู่ในสายตา! อาศัยว่าเป็นคนโปรดก็วางท่าโอหัง!”
“น่าโมโหจริงๆ!”
แต่คนที่หยวนเป่าหวังพึ่งพา และรักมากที่สุด ก็ดันเป็นแม่เฒ่าอย่างหยุนหว่านหนิง
เพื่อให้หลานชายมีความสุข เขาที่เป็นฮ่องเต้คนนี้ก็ได้แค่กล้าโกรธไม่กล้าพูดออกมาเช่นกัน!
มองดูท่าทางที่โกรธเคืองของเโม่จงหราน ซูปิ่งซ่านยังอยากหัวเราะขึ้นมาอีก
แต่เมื่อนึกถึงลูกเตะเมื่อครู่นี้ เขาก็อดกลั้นเสียงหัวเราะกลับไปอย่างยากลำบาก
จนกระทั่งเงาร่างของหยุนหว่านหนิงหายไปจากสายตา โม่จงหรานถึงได้ฮึเสียงเบาออกมา หันหลังก็เดินกลับเข้าไป หางตามองเห็นซูปิ่งซ่านยืนอยู่หน้าประตู ก้มหน้าก้มตา ใบหน้าแดงก่ำ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย......
โม่จงหรานขมวดคิ้ว “เจ้าปวดปัสสาวะหรือ?”
ซูปิ่งซ่านเงยหน้าขึ้นมา “บ่าว บ่าวขอทูลลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”
เขาวิ่งออกจากห้องทรงพระอักษรอย่างรวดเร็ว ซ่อนตัวอยู่หลังเสาพิงอยู่บนเสาหัวเราะจนเมื่อยแก้มไปหมด
เพิ่งจะยืนตรงขึ้นมา ก็เห็นโม่เยว่เข้าไปในห้องทรงพระอักษรด้วยสีหน้าท่าทางเร่งรีบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...