หยุนหว่านหนิงหันไปมอง เห็นหรูอวี้กำลังยืดคอยาวอยู่หน้าประตู
ที่นี่คือห้องทรงพระอักษร เขาไม่กล้าผลีผลาม
ไม่ได้รับอนุญาตจากโม่จงหราน เขาไม่กล้าเข้ามาโดยพลการ
ตอนนี้เขายืดคอยาวราวกับห่านตัวผู้ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง “ท่านอ๋องให้ข้าน้อยมาดูว่า พระชายาหิวแล้วหรือไม่? จะขึ้นพระกระยาหารเลยหรือไม่?”
หยุนหว่านหนิง “หือ?”
ขึ้นพระกระยาหาร?
ก่อนหน้านี้เธอมักจะเข้าวังมาร่วมราชการเช้ากับโม่เย่ทุกวันเวลานี้
บางครั้งจะเข้ามาก่อนเพื่อทานอาหารเช้า บางครั้งเธอก็ไปรออยู่ที่ห้องทรงพระอักษร คนทางห้องทรงพระอักษรจะส่งอาหารเช้ามา
โม่เยว่เคยเป็นห่วงเป็นใยเมื่อไหร่กัน?
วันนี้พระอาทิตย์ดูจะขึ้นทางทิศตะวันตกล่ะมั้ง!
ขึ้นพระกระยาหารน่ะปลอม เรื่องจริงคือจับตาดูเธอล่ะมั้ง?
หยุนหว่านหนิงหน่ายใจ “หรูอวี้ ถ้าเจ้าพูดความจริงกับข้า ข้าจะให้...”
คำว่า “รางวัล”ยังไม่ทันออกจากปาก หรูอวี้ก็รีบเปลี่ยนคำว่า “พระชายา ท่านอ๋องให้ข้าน้อยมาดูว่า คุณชายซ่งได้เว้นระยะห่างกับท่านหรือไม่?!”
หยุนหว่านหนิง: “....”
ซ่งจื่ออวี๋:”....”
เจ้าบ้าโม่เยว่นี่ ไม่โดนชกนานไปหน่อยใช่ไหม?
พอเห็นหยุนหว่านหนิงโกรธจัด ซ่งจื่ออวี๋ยิ้มขันน้อยๆ
“งั้นเจ้าดูสิว่า ข้ากับซ่งจื่ออวี๋ยืนห่างกันในระยะปลอดภัยหรือไม่?”
หยุนหว่านหนิงกัดฟันถาม
หรูอวี้มองดู พวกเขาคนหนึ่งนั่งทางซ้าย อีกคนนั่งทางขวา...ระหว่างพวกเขาสองคนดูจะห่างไกลกันราวกับขวางกั้นด้วยภูเขาและทะเล ดูแล้ว”ปลอดภัย”จริงๆ!
“ปลอดภัยแล้วจริงๆ!”
หรูอวี้ยกนิ้วโป้งให้ “ข้าน้อยจะไปรายงานท่านอ๋อง”
เขาวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
ดูท่าทางหยุนหว่านหนิงไม่พอใจขั้นสุดแล้ว ซ่งจื่ออวี๋พูดเสียงเบาว่า “อ๋องหมิงดูทะนุถนอมเจ้ายิ่งนัก”
“แล้วยังไงล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงพูดอย่างดื้นรั้น “ระหว่างข้ากับเขา หากจะให้คืนดีดุจเดิม ก็ไม่ง่ายดายเยี่ยงนั้นดอก!”
“แต่เพื่อหยวนเป่า ไม่ช้าก็เร็วพวกเจ้าก็จะคืนดีกันมิใช่รึ?”
ซ่งจื่ออวี๋ถาม
เสียงเขาแผ่วเบามาก
เบาดุจขนนก จนหยุนหว่านหนิงแทบไม่ได้ยิน
คำถามนี้เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลย
แต่ตอนนี้ซ่งจื่ออวี๋ถามออกมาแล้ว---
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วถาม “ซ่งจื่ออวี๋ เจ้าจงใจเปลี่ยนเรื่องกับข้าใช่ไหม? เมื่อครู่ข้าถามอะไรเจ้านะ เจ้ายังไม่ได้ตอบข้าใช่ไหม?”
ซ่งจื่ออวี๋หัวเราะเสียงต่ำออกมา
“หว่านหนิง วางใจเถอะ”
เขาถึงตอบว่า “อาการบาดเจ็บของข้าไม่สาหัสดอก”
“เป็นถึงขนาดนี้แล้วยังไม่สาหัสอีก?!”
หยุนหว่านหนิงยืนขึ้นถาม “เจ้าคิดว่าข้าอายุสามขวบรึ?”
“ผ่านไปอีกระยะหนึ่ง ก็จะดีขึ้นเองล่ะ”
ซ่งจื่ออวี๋ลุกขึ้นตาม “วันนี้ฝ่าบาทไม่น่าจะมีเวลาพูดคุยกับข้า ข้ากลับไปก่อนแล้วกัน หว่านหนิง ไว้ค่อยพบกันนะ”
เขาไม่ได้บอกนางว่า อาการบาดเจ็บของเขา...ใช้อะไรแลกมา
หนึ่งบาดแผล ไม่เพียงเอาพลังยุทธ์สิบปีของเขาไป ยังมีอายุขัยสามปีอีก....
เขาทำเพียงผงกหัวให้นางเล็กน้อย อย่างราบเรียบและเฉยเมย
ท่าทางเขาดูเย็นชาโดดเดี่ยวเหมือนครั้งแรกตอนเธอพึ่งเจอเขาที่ภูเขาหยุนอู้
ความรู้สึกนี้มันทำให้หยุนหว่านหนิงไม่สบายใจเอาเสียเลย
พอเห็นซ่งจื่ออวี๋หมุนตัวเดินจากไป เธอก็ไม่ได้ห้ามเขาไว้
ในตอนนี้เองหรูอวี้ยืดคอยาวชะเง้ออยู่หน้าประตูอีกครั้ง “พระชายา...”
“ไสหัวไป!”
หยุนหว่านหนิงระเบิดใส่ทันที
ผู้หญิงนี่เปลี่ยนหน้าเร็วกว่าท้องฟ้าเปลี่ยนสีเสียอีก!
หรูอวี้รับคำอย่างน้อยใจ “ขอรับ!”
เขารีบออกไปอย่างรวดเร็ว
หยุนหว่านหนิงเดินวนเวียนไปมาในตำหนัก คิดยังไงก็ไม่เข้าใจคำพูดนั้นของซ่งจื่ออวี๋ เห็นได้ชัดว่าเขามีความลับซ่อนอยู่
แต่ฟังเขาพูด เหมือนเธอคงคืนดีกับโม่เยว่ในไม่ช้า....
เขาเลยเก็บความอ่อนโยนทั้งหมด และเผยใบหน้าเดิมที่เย็นชาออกมา
นี่เขาคิดจะ แยกทางกับเธอหรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...