หยุนหว่านหนิงสบตากับโม่เยว่ ทั้งสองคนเข้าไปในตำหนักด้วยกัน
ก่อนเข้าไป ฮองเฮาจ้าวยังยืดคอยาวมองพวกเขา แต่โม่จงหรานไม่ได้ให้นางเข้าไปพูดด้วย นางได้แต่ยืนดูหมอหลวงหยางตรวจพิษอยู่ด้านนอกต่อไป
บรรยากาศในตำหนักตึงเครียดนัก กดดันจนทำให้คนแทบหายใจไม่ออก
สีหน้าโม่จงหรานกับเต๋อเฟยไม่น่าดูเท่าไหร่นัก
พอเห็นพวกเขาเข้ามา เต๋อเฟยเปิดปากก่อน “เยว่เอ๋อร์ ดูท่าเจ้าคงบอกหนิงเอ๋อร์แล้วกระมัง?”
โม่เยว่พยักหน้าและนั่งลงข้างหยุนหว่านหนิง
“งั้นพวกเจ้ามาวิเคราะห์สิ!”
เต๋อเฟยพูดอย่างโกรธขึ้ง “ต่อให้โยวโยวไม่ใช่ลูกสาวของข้า แต่ข้าเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต! สตรีบอบบางอย่างนั้นเช่นนางจะส่งไปแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีกับซีจวิ้นได้รึ?”
“บุรุษกักขฬะซีจวิ้นพวกนั้นเป็นอย่างไร ทุกคนต่างเคยได้ยินกันมาทั้งนั้น!”
ถ้าโยวโยวถูกส่งตัวไปซีจวิ้นจริงๆ ยังเหลือทางรอดรึ?”
ดูท่าเต๋อเฟยกำลังเรียกร้องให้โม่โยวโยวอยู่
“เรื่องนี้ตามความเห็นข้า ไม่อาจรับปากข้อเรียกร้องงี่เง่าของพวกซีจวิ้นได้!”
เต๋อเฟยตบโต๊ะผ่างอย่างโกรธจัด “แคว้นใหญ่รุ่งเรืองอย่างหนานจวิ้นเรา มีหรือจะกลัวเกรงกับแค่ซีจวิ้น? แล้วยังต้องใช้วิธีแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีนี้มาขอร้องให้ซีจวิ้นหยุดมือ?”
“ซีจวิ้นเป็นก้อนขี้หนูก้อนไหนล่ะ?!”
ต้องยอมรับจริงๆ คำด่ากราดของเต๋อเฟยสะใจจริงๆ!
หยุนหว่านหนิงทนไม่ไหวปรบมือให้นาง
ปรบไปได้ครู่หนึ่ง สายตาเคร่งขรึมของโม่จงหรานก็ปรายมองมา “หว่านหนิง แบบนี้เจ้าเห็นด้วยกับเสด็จแม่ของเจ้าล่ะสิ”
“ไม่อยากให้โยวโยวแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรี?”
หยุนหว่านหนิงวางสองมือลง “เสด็จพ่อ ลูกไม่อยากให้พี่หญิงห้าแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีไปซีจวิ้นจริงๆ”
“เพราะคนซีจวิ้นนิสัยใจคออย่างไร เป็นอย่างที่เสด็จแม่ ทุกคนต่างรู้ดี”
โม่จงหรานสีหน้าไม่น่าดู แต่ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ ได้แต่ลูบคางพลางว่า “พูดต่อไป”
“ลูกคิดว่าเรื่องนี้มีวิธีการแก้ไขที่ดียิ่งกว่า”
หยุนหว่านหนิงลุกขึ้นยืน
“เมื่อครู่ด้านนอกประตู โม่เยว่บอกว่าซีจวิ้นเหมือนพังพอนที่น่ากลัว คำพูดนี้ข้าไม่เห็นด้วยเท่าใดนัก ของอย่างพังพอน อย่างน้อยยังดูน่ารักอยู่...”
หยุนหว่านหนิงพูดอย่างใจเย็น “เทียบกับพังพอนแล้ว ยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่น่ารังเกียจยิ่งกว่า”
พวกโม่เยว่มองนางอย่างจริงจัง ตั้งใจฟังนางพูด
“กิ้งก่า”
หยุนหว่านหนิงอธิบาย “พวกท่านอาจจะไม่รู้ว่าคืออะไร”
“ข้าอธิบายอย่างง่ายๆให้พวกท่านฟังแล้วกัน! เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง”
เธออยากจะหยิบเอกสารเกี่ยวกับกิ้งก่าออกมาจากในช่องว่างแล้วแบ่งให้คนละชุดนัก
บางทีอาจจะให้พี่ชายช่องว่างจับกิ้งก่าเป็นๆมาตัวหนึ่งเลย...
ก็กลัวจะทำพวกเขาหัวใจวายตาย!
ดังนั้นหยุนหว่านหนิงเลยได้แต่อธิบายอย่างง่ายๆ “สัตว์ชนิดนี้มีฝีมือในการปลอมแปลงที่แข็งแกร่งมากยามอยู่ในป่า ภายใต้สถานการณ์ที่ต่างๆกัน สามารถเปลี่ยนสีร่างกายได้”
“หากไม่หลบหนีการโจมตี ก็จะเตือนสัตว์อื่น หรือไม่ก็ส่งสาสน์”
โม่จงหรานเริ่มสนใจ “อ้อ? มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้อยู่ด้วยรึ?”
เขาคือฮ่องเต้!
กลับไม่เคยได้เห็นมาก่อน กระทั่งยังไม่เคยได้ยินชื่อกิ้งก่ามาก่อนด้วย!
“แน่นอนว่ามี! แต่สัตว์ชนิดนี้ยังชอบแย่งอาหารของสัตว์อื่น...โดยเฉพาะสัตว์ที่กินแมลงเป็นอาหาร”
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วบอก “พวกท่านลองคิดดู”
“มันแย่งชิงแมลง แล้วรีบเปลี่ยนสีปลอมแปลงร่างกายตนเอง สีของร่างกายเหมือนกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบไม่ผิดเพี้ยน!”
“ใช้กลลวงตาแบบนี้หลบซ่อนได้สำเร็จ ใครจะพบเจอได้?”
เธอแบมือสองข้างออก “ต่อให้โดนแย่งแมลงไป สัตว์อื่นยังไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆแมลงก็หายไปด้วยสิ!”
“ชั่วร้ายมากกระมัง?”
ทำเอาพวกโม่จงหรานเบิกตากว้างอย่างตกใจ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...