อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 332

ไม่รอโม่เยว่ตอบ เธอก็พึมพำขึ้นอีกว่า “มิน่าเสด็จพ่อถึงกริ้วนัก!”

“ทำไมอยู่ดีๆ ซีจวิ้นก็ทำแบบนี้?”

หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วหนัก “หลายวันก่อนชายแดนส่งข่าวมามิใช่รึ บอกว่าแม่ทัพโจวห้าวหาญองอาจ โจมตีจนซีจวิ้นถอยทัพไปแทบไม่ทันรึ?”

“ใช่”

โม่เยว่ผงกหัวน้อยๆ

“ในเมื่อซีจวิ้นล่าถอยทัพไปแทบไม่ทัน ก็คือผู้แพ้!”

หยุนหว่านหนิงถลกชายเสื้ออย่างหงุดหงิด “มีผู้ชนะที่ไหนส่งองค์หญิงไปเจริญสัมพันธไมตรีให้ผู้แพ้บ้างกัน?!”

ที่แท้ซีจวิ้นเรียกร้องขอองค์หญิงหนานจวิ้น!

ถึงจะไม่ได้เจาะจงชื่อว่าจะขอองค์หญิงคนไหน แต่โม่จงหรานมีลูกสาวแค่สองคน

องค์หญิงห้าโม่โยวโยว รวมถึงองค์หญิงเก้าโม่เฟยเฟย

“ซีจวิ้นรับรองว่า ขอเพียงได้แต่งงานกับองค์หญิง ก็จะอยู่อย่างปรองดองอันดีกับหนานจวิ้น ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่ทำสงครามกับหนานจวิ้นอีก”

สีหน้าโม่เยว่เคร่งเครียดมาก

เห็นหยุนหว่านหนิงโกรธจนถลกชายเสื้อ เผยให้เห็นท่อนแขนขาวผ่อง...

เขาปล่อยชายเสื้อให้นางอย่างเป็นห่วง “โดนลม มันหนาวเข้ากระดูกนะ”

“ไม่สบายไปจะไม่ดีเอานะ”

หยุนหว่านหนิงมองชายเสื้อที่โดนเขาดึงปล่อยลง “ซีจวิ้นนี่เป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์จริงๆ!”

“รบแพ้ ยังอยากแต่งงานกับองค์หญิง ฝันไปล่ะมั้ง?”

เธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับโม่โยวโยว

แต่ก็รู้ว่า องค์หญิงห้าผู้นี้นิสัยเขินอายเงียบนิ่ง ไม่ชอบแก่งแย่งชิงดีมาแต่ไหนแต่ไร

ปีก่อนตอนงานวันเกิดเต๋อเฟย ที่ตำหนักหย่งโซ่ว โม่โยวโยวไม่ได้ร่วมเยาะเย้ยหยุนหว่านหนิงกับโจวหยิงหยิงด้วย ตรงกันข้ามยังยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน เป็นการให้กำลังใจ

ตอนนั้นหยุนหว่านหนิงรู้สึกซาบซึ้งพอดู

เธอวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว

ด้านอายุ โม่โยวโยวแก่กว่าโม่เฟยเฟย

ตอนนี้ขนาดโม่เยว่ยังแต่งงานมีลูกมีเมียแล้วเลย โม่โยวโยวกลับยังไม่ได้แต่งงาน

ในยุทธภาพมีข่าวลือไม่น้อย บอกว่าองค์หญิงห้าคิดจะแก่ตายเป็นแม่เฒ่าอยู่ในวัง

ก่อนหน้านี้โม่เฟยเฟยก็เคยบอกเธอว่า น่ากลัวโม่โยวโยวจะต้องแต่งงานเป็นองค์หญิงเจริญสัมพันธไมตรี

ไม่คิดว่า จะพูดแม่นขนาดนี้

เพราะครั้งนี้ต่อให้ต้องแต่งงานเป็นองค์หญิงเจริญสัมพันธไมตรี ขอเพียงโม่โยวโยวยังไม่แต่งงาน เรื่องการเจริญสัมพันธไมตรีก็ไม่มีทางหล่นมาถึงโม่เฟยเฟยได้

โม่เฟยเฟยอายุน้อย และยังเป็นลูกสาวคนเล็กที่โม่จงหรานกับเต๋อเฟยรักมากที่สุด

ดังนั้นก็ต้องเป็นโม่โยวโยวแล้วล่ะ....

หยุนหว่านหนิงรู้สึกเสียใจ “แล้วเสด็จพ่อว่าอย่างไรเล่า?”

“ถึงพี่หญิงห้าจะไม่ค่อยสนิทสนมกับพวกเรานัก แต่นิสัยนางเขินอาย เป็นคนจิตใจดีนัก” เธอกัดริมฝีปาก “ข้าได้ยินมาว่า ซีจวิ้นโหดร้าย บุรุษซีจวิ้นรูปร่างสูงใหญ่เหมือนวัวเหมือนม้า เรี่ยวแรงมากนัก และฐานะของสตรีซีจวิ้นก็ต่ำต้อยยิ่งนัก”

ในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนานจวิ้นหรือซีจวิ้น บุรุษล้วนมีเมียมากหน้าหลายตา

คำพูดนี้ยกไว้ก่อน

แต่ซีจวิ้นยังมีภาพลักษณ์อีกอย่างที่ทำให้คนอยากอาเจียน---

นั่นคือสตรีซีจวิ้นเหมือนสิ่งของอย่างหนึ่ง ไม่มีศักดิ์ศรีเลยสักนิด!

สามารถโดนบุรุษบ้านตนมอบให้บุรุษอื่นได้ง่ายดาย สามารถเปลี่ยนสตรีกับบุรุษอื่นได้

กระทั่งยังสามารถมีสัมพันธ์กับพ่อลูกพี่น้องได้อีก

สรุปแล้วสตรีซีจวิ้นอนาถถึงที่สุด!

“แถมสตรีซีจวิ้นยังรูปร่างสูงใหญ่เหมือนวัวเหมือนม้า ดูแล้วไม่เหมือนคนดีเลย พี่หญิงห้างดงามอ่อนหวาน สูงส่งมาแต่เล็ก”

หยุนหว่านหนิงยิ่งพูดยิ่งโกรธ “ถ้าไปถึงซีจวิ้นจริงๆ ไม่โดนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกรึ?!”

บุรุษมากรักนักหนา

ไม่สนอายุ ไม่สนซีจวิ้นหนานจวิ้น

สาวงามอย่างโม่โยวโยวไปถึงซีจวิ้น นั่นน่ะสาวงามอันดับต้นเชียวนะ...

ถึงเวลานั้นคงทำให้บุรุษไม่น้อยเกิดอารมณ์หลงใหล และเหล่าสตรีจะมองนางเป็นศัตรู!

สามารถคาดเดาสถานการณ์ของนางได้เลย!

“และเพราะแบบนี้”

โม่เยว่เองก็รู้เรื่องนี้ดี เขาพูดเสียงต่ำว่า “ไม่เพียงแค่นี้ ฮ่องเต้เฒ่าซีจวิ้นตอนนี้อายุเจ็ดสิบแล้ว เขามีลูกชายยี่สิบกว่าคน”

พอได้ยินคำพูดนี้ หยุนหว่านหนิงแทบกัดลิ้นตัวเองตาย “ลูกชายยี่สิบกว่าคน?!”

“นี่คอกหมูรึ?!”

“ยังมีลูกสาวอีกสิบกว่าคน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์