อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 335

ผ่านไปไม่นาน โม่เยว่พูดก่อน “วิธีนี้ของหนิงเอ๋อร์ฟังดูไม่เข้าท่า แต่ข้าว่ามีประโยชน์นะ”

วิธีนี้ก็คือ ‘การเล่นแง่’!

ซีจวิ้นกลับกลอกตีสองหน้า หนานจวิ้นก็‘เล่นแง่’บ้าง จะทำไมล่ะ?

“เพราะถึงซีจวิ้นจะไม่อุดมสมบูรณ์เท่าหนานจวิ้น แต่จำนวนประชาชนไม่น้อย ถ้าบีบบังคับให้พวกเขารับปากเงื่อนไขนี้ ซีจวิ้นต้องยอมแพ้เลิกราไปแน่”

โม่เยว่วิเคราะห์บอก “ถ้าเป็นทรัพย์สินเงินทอง หรือแบ่งแยกดินแดนให้”

“สองเงื่อนไขนี้ทำได้ง่ายมาก ซีจวิ้นต้องรีบรับปากโดยไวแน่”

แต่ถ้าให้ซีจวิ้นพร้อมใจกันลดความอ้วนเพื่อความสวยงามทั้งแคว้น...

ลำบากละ!

“ข้าได้ยินมาว่า คนซีจวิ้นชอบกินเนื้อดิบ เลยทำให้แต่ละคนรูปร่างสูงใหญ่เหมือนวัวเหมือนม้า ขนาดสตรีซีจวิ้นยังมีเรี่ยวแรงมากล้น”

โม่จงหรานพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ถ้าให้พวกเขาทำการเปลี่ยนแปลง มันต้องไม่ง่ายแน่”

ครั้งนี้ ซีจวิ้นคิดเอาเองถึงวิธีที่จะหักหน้าหนานจวิ้นได้ออกมา

พวกเขารบแพ้ ในสี่แคว้นก็ไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้แล้ว

กลับยังมาสู่ขอองค์หญิงหนานจวิ้น เพื่อมาเป็นตราประทับยืนยันว่าซีจวิ้น ยังมี “ความละโมบโลภมาก” ... ถ้ารับปากไป โม่จงหรานก็ขายหน้า โม่โยวโยวโดนพรากจากหนานจวิ้นไป หนานจวิ้นโดนซีจวิ้นเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้า

ถ้ารับปาก ซีจวิ้นก็จะมารุกรานตอแยเป็นระยะๆเหมือนตัวตลกอีก

สรุปคือน่ารำคาญนัก!

ดังนั้นวันนี้โม่จงหรานเลยอารมณ์เสียมาก

วิธีนี้ของหยุนหว่านหนิงไม่เลวเลยจริงๆ!

เธอยิ้มน้อยๆ “พวกเราทำอย่างนี้ได้อีก”

“ถ้าไม่กำหนดเวลาให้ซีจวิ้น เช่นภายในสามเดือน ทั้งหมดต้องน้ำหนักลดไปหนึ่งร้อยห้าสิบชั่ง จากนั้นพวกเราถึงจะเห็นด้วยกับการส่งองค์หญิงหนานจวิ้นไปแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีกับซีจวิ้น”

เธอลุกขึ้นเดินหลายก้าว “ถ้าภายในสามเดือนทำไม่ได้ ก็อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก”

“หรือไม่ ทำได้เมื่อไหร่ พวกเราค่อยส่งองค์หญิงหนานจวิ้นไปแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีเมื่อนั้น!”

ทั่วทั้งซีจวิ้นมีประชาชนหลายร้อยคน ถ้าบุรุษทั้งหมดพร้อมใจกันลดน้ำหนักไปหนึ่งร้อยห้าสิบชั่ง ฟังดูง่ายแต่ทำขึ้นมานั้นยาก

ยิ่งไปกว่านั้น สตรีซีจวิ้นก็คุ้นเคยกับชีวิตเรียบง่ายหยาบกร้าน

หากให้พวกนางกลายเป็นพริ้วไหวดุจสายลม...

เรียกได้ว่าฝันไปเถอะ!

เพราะอย่างนั้น ไม่ว่าจะเลือกอย่างไหน ซีจวิ้นก็ไม่มีทางทำได้!

ต่อให้ผ่านไปกี่ปี สิบกว่าปีทำได้ ถึงเวลานั้นโม่โยวโยวก็อายุสามสิบสี่สิบปีแล้ว องค์หญิงชราเยี่ยงนั้น ซีจวิ้นของพวกเขายังต้องการรึ?

โม่จงหรานมองหยุนหว่านหนิงอย่างชื่นชม

เขาปรบมือ “สมองของหว่านหนิงฉับไวดีจริงๆ”

“เจ้าเจ็ด เจ้าเขย่านางหน่อยสิ”

“เสด็จพ่อ เพราะเหตุใดรึ?”

โม่เยว่ไม่เข้าใจ

เผชิญสายตางุนงงสงสัยของทุกคน โม่จงหรานยิ้มน้อยๆ “ฟังๆดูว่าน้ำหมึกในท้องนังหนูนั่นกำลังผุดฟอง‘บุ๋งบุ๋ง’หรือไม่?”

หยุนหว่านหนิง “...เสด็จพ่อท่านช่างอารมณ์ขันนัก”

โม่เยว่ก็ทนไม่ไหวหัวเราะออกมา

เต๋อเฟยนั่งเท้าคางทำหน้าครุ่นคิด “คำพูดนี้ของฝ่าบาท หม่อมฉันเข้าใจ”

“ท่านกำลังบอกว่า หนิงเอ๋อร์เป็นเด็กไม่ดี?”

โม่จงหรานพูดไม่ออก “เอ่อ คล้ายคลึงล่ะ!”

“ยังไงซะ วันนี้ทั่วทั้งท้องพระโรงราชการเช้า ไม่มีใครคิดวิธีแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผลให้แก่ข้าได้เลย!”

ขุนนางเหล่านั้น หากมิใช่เห็นด้วยกับการแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรี บอกว่า สงครามทำให้เกิดการเรียกรวมพลชาวบ้านและเงินทอง ประชาชนบ้านแตกสาแหรกขาด พึ่งจะผ่านศึกสงครามมา บัดนี้ท้องพระคลังหนานจวิ้นว่างเปล่า

ดังนั้นอย่าปะทะกับซีจวิ้นจะดีที่สุด

ไม่เช่นนั้นก็ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรี บอกให้เปิดศึกเลย และขับไล่ซีจวิ้นวิ่งหนีหางจุกตูดไปซะ

นอกจากสองวิธีนี้แล้ว ไม่มีใครคิดวิธีที่ทำให้เขาพอใจได้ออกมาเลย!

ช่างเป็นคนแก่หัวแข็งที่เน่าเฟะและดื้อรั้น กลุ่มหนึ่งจริงๆ!

โม่จงหรานมองหยุนหว่านหนิงอย่างอารมณ์ดี “วิธีนี้ของหนิงเอ๋อร์ดียิ่งนัก! ไม่เพียงไม่เปิดศึกสงครามกับซีจวิ้นอีก และยิ่งไม่ต้องส่งโยวโยวไปแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรี”

“ข้าดีใจยิ่งนัก!”

เขายิ้มอย่างพอใจ

เต๋อเฟยยิ้มตามไปด้วย

ลูกสะใภ้ตนโดนชมเชย นางดีใจเสียยิ่งกว่าตนเองโดนชมเชยเสียอีก เต๋อเฟยยิ้มหวานราวกับน้ำผึ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์