"เด็กคนนี้ ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ"
โม่หุยเหยียนพูดซ้ำอีกครั้ง
ถึงอย่างไรหนานกงเยว่ก็เป็นถึงองค์หญิงตงจวิ้น ย่อมมีหูตาที่ว่องไวและมีไหวพริบกว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง
ทันทีที่ได้ยินโม่หุยเหยียนพูดแบบนี้ ก็ถามว่า "ท่านอ๋อง ท่านกำลังสงสัยว่า เด็กคนนั้นอาจจะเป็นลูกชายของเจ้าเจ็ดใช่หรือไม่?"
"อื้ม"
เมื่อเห็นเขาพยักหน้า หนานกงเยว่กลับยกยิ้มบาง ๆ “ท่านอ๋อง นี่ท่านคงไม่ได้กำลังขู่ให้ตัวเองตกใจกลัวอยู่หรอกนะ? เจ้าเจ็ดกับหนิงเอ๋อร์มีลูกด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่รึ?”
นางมองเขาด้วยสายตาจนใจ
หลายปีที่ผ่านมา ในวังมีใครบ้างที่จะไม่รู้ ว่าหยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่ไม่ลงรอยกัน?
ใครบ้างที่จะไม่รู้ ว่าโม่เยว่เกลียดหยุนหว่านหนิงมากแค่ไหน?
“ข้าแค่รู้สึกว่า ท่าทางของเจ้าเจ็ดมันดูแปลกมากจริงๆ”
โม่หุยเหยียนนั่งลงด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด "เด็กคนนั้น อาจไม่ใช่ลูกของเขากับหยุนหว่านหนิง แต่ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นลูกนอกสมรสของเจ้าเจ็ดก็ได้นะ?!"
ไม่อย่างนั้น เขาจะตั้งท่าปกป้องขนาดนั้นรึ?
ในวันปกติแล้ว ในบรรดาพวกเขาพี่น้อง โม่เยว่คือคนที่จะไม่มีวันยื่นมือเข้ามาช่วยประคับประคอง ในเวลาที่ใครก็ตามเกิดเรื่องเดือดร้อน
ถ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเขา แล้วทำไมเขาถึงได้ปกป้องขนาดนั้น? !
“คงไม่หรอกน่า? ท่านอ๋อง ข้าว่าท่านคิดมากเสียจนจิตตกแล้วนะ”
หนานกงเยว่เดินยิ้มแย้มเข้าไปใกล้ ๆ "ท่านเองก็รู้นิสัยของหนิงเอ๋อร์ดีไม่ใช่รึ?"
“ด้วยความอารมณ์ร้อนของนาง จะยอมทนให้เจ้าเจ็ดมีลูกกับหญิงอื่นได้หรือ?”
เมื่อก่อนหยุนหว่านหนิงรักโม่เยว่มากขนาดไหน พวกเขาเองก็รู้เหมือนกัน
"แต่ข้าเอาแต่รู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ นะ"
โม่หุยเหยียนยกมือขึ้นกุมหน้าผากด้วยท่าทางปวดหัว
หนานกงเยว่ช่วยนวดคลึงที่ขมับให้เขาเบา ๆ "ท่านอ๋องอย่าเพิ่งร้อนใจไป! เรื่องนี้พวกเราไม่อาจด่วนสรุปแบบง่าย ๆ ได้ แต่เราสามารถหยั่งเชิงเจ้าเจ็ดกับหนิงเอ๋อร์ได้"
“หยั่งเชิงอย่างไรรึ?”
โม่หุยเหยียนเงยหน้าขึ้นมองนาง
หนานกงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นก็คิดถึงลูกสาวของตัวเอง.....
นางยกยิ้มเล็กน้อย "อายุของหยุนเอ๋อร์กับเด็กคนนั้น เหมือนว่าจะต่างกันไม่มากนัก"
“พรุ่งนี้ข้าจะพาหยุนเอ๋อร์ไปที่จวนอ๋องหมิง จะได้ลองหยั่งเชิงดูด้วยเลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของโม่หุยเหยียนก็สว่างวาบ "นี่เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย!"
เขาผลักมือของหนานกงเยว่ออกเบา ๆ หันหน้าเดินตรงออกนอกประตูไป แล้วสั่งคนรับใช้ว่า "ใครก็ได้มานี่หน่อย! ไปพาคุณหนูมาที่นี่เร็วเข้า ข้ามีเรื่องจะพูดกับนาง!"
โม่จือหยุนลูกสาวของโม่หุยเหยียนกับหนานกงเยว่ ตอนนี้เพิ่งจะอายุได้ไม่ถึงห้าขวบดี
เมื่อเทียบช่วงอายุระหว่างหยวนเป่า ก็นับว่าไม่ต่างกันมากนัก
อายุไล่เลี่ยกัน ก็ยิ่งเป็นเพื่อนเล่นกันได้ดียิ่งขึ้น!
โม่หุยเหยียนยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ
...............
วันรุ่งขึ้น ตอนที่หนานกงเยว่เข้าไปถึงจวนอ๋องหมิง พอดีว่าโม่โยวโยวก็อยู่ที่นั่นด้วย
นางได้รู้เรื่องที่ซีจวิ้นเรียกร้อง ขอการแต่งงานกับองค์หญิงแล้ว
ด้วยเหตุนั้น เมื่อวานนางจึงขังตัวเองอยู่ในห้องนอน แล้วเอาแต่ร้องไห้ตลอดทั้งวันจนสองตาบวมช้ำไปหมด ต่อมาค่อยมารู้ทีหลังว่าเป็นหยุนหว่านหนิงที่ช่วยนางแก้ปัญหานี้จนคลี่คลายไปได้ ในใจของนางจึงรู้สึกซับซ้อนสับสนมาก
ตลอดหลายปีมานี้ แม้ว่านางจะไม่ได้ซ้ำเติมหยุนหว่านหนิง
แต่นางก็ไม่เคยมีการไปมาหาสู่ใด ๆ กับหยุนหว่านหนิงเช่นกัน
ในช่วงเวลาที่นางทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด โม่โยวโยวทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่ตำตา แต่ก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น.....
นางคิดไม่ถึงเลยสักนิด ว่าหยุนหว่านหนิงจะลุกขึ้นมาออกหน้าแทนนาง!
"หนิงเอ๋อร์"
โม่โยวโยวจับมือนางทั้งน้ำตา สะอึกสะอื้นจนแทบพูดอะไรไม่ออก "เมื่อก่อนเป็นข้าเองที่ต้องขอโทษเจ้า! หาได้ยากนักที่จะมีคนแบบเจ้าที่ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางในอดีต ยอมออกหน้าช่วยข้าถึงขนาดนี้ "
"ในใจของข้าตอนนี้ มันรู้สึกละอายเหลือเกินแล้ว!"
เดิมทีหยุนหว่านหนิงก็เป็นคนประเภทปากร้ายใจดีอยู่แล้ว
เมื่อเห็นว่าโม่โยวโยวร้องไห้จนมีสภาพเป็นถึงขนาดนี้แล้ว นางก็อดถอนหายใจ ไม่ได้ "พี่หญิงห้า"
“เรื่องในอดีต อันที่จริงมันก็เป็นเพราะข้าเองที่ทำไม่ถูก ต่อให้โม่เยว่จะสั่งกักบริเวณข้า ก็เป็นเพราะข้าหาเรื่องใส่ตัวเอง ข้าไม่เคยรู้สึกโกรธหรือคิดแค้นใครทั้งนั้น”
ยกเว้นฉินซื่อเสวีย ยัยผู้หญิงน่าตายซักร้อยครั้งพันครั้งนั่น!
กับไอ้ผู้ชายนิสัยหมาอย่างโม่เยว่นี่อีกคน!
นางพูดปลอบโยนเบา ๆ “สถานการณ์ของเจ้าเดิมทีก็ลำบากอยู่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...