“เจ้ารีบสั่งคนไปที่จวนอ๋องหมิง”
โม่จงหรานพูดสั่งว่า “ถามภรรยาเจ้าเจ็ด นางเป็นคนลักพาตัวฮองเฮาไปหรือเปล่า”
“พระชายาหมิง?”
เห็นได้ชัดว่าซูปิ่งซ่านตกตะลึงอย่างมาก
หลังจากได้สติกลับมา เขาถามขึ้นอย่างลังเลว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นฝีมือของพระชายาหมิงมั้ง? เรื่องลักพาตัวฮองเฮาเหนียงเหนียงแบบนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ต่อให้พระชายาหมิงใจกล้าแค่ไหน ก็น่าจะไม่.....”
ยิ่งพูด ซูปิ่งซ่านก็ไม่ค่อยมั่นใจแล้ว
ใบหน้าของเขาแสดงอาการลังเล
โม่จงหรานมองสบตาเขา แล้วพูดขึ้นว่า “นังเด็กคนนั้นใจกล้า ยังจะมีเรื่องอะไรที่นางไม่กล้าทำ?”
เขาพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “รื้อพังตำหนักยังกล้าทำ แล้วจะไม่กล้าลักพาตัวฮองเฮาไปหรือ?”
ซูปิ่งซ่านอยากถามโม่จงหรานมากว่า โกรธโมโหจนมึนหรือเปล่า
รื้อพังตำหนักมีโทษหนัก หรือลักพาตัวฮองเฮาเหนียงเหนียงมีโทษหนัก?
ดูเหมือนฮ่องเต้จะสับสนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทั้งสอง?
แต่ว่าเวลานี้ เขาก็ไม่กล้าพูดว่าอะไร
“น่าจะไม่ใช่พระชายาหมิงมั้ง?”
ซูปิ่งซ่านยกมือเกาหัว ท่าทีลำบากใจยิ่งนัก
แต่ก็ยังคงหันเดินออกไปนอกประตู เตรียมที่จะไปถามหยุนหว่านหนิที่จวนอ๋องหมิง
จวนอ๋องหมิง
โม่เยว่เข้าวังไปว่าราชการเช้าก่อน หยุนหว่านหนิงเห็นหยวนเป่ายังไม่ตื่น จึงสั่งหรูเยียนไม่ต้องปลุกเขาตื่น ให้เขาได้หลับต่ออีกสักพัก ตื่นมาแล้วค่อยพาเขาเข้าวังไปหาเต๋อเฟย
“พระชายา ซูกงกงมา”
หรูอวี้พูดขึ้นตรงหน้าห้อง
เขากับหยุนหว่านหนิงมองตากัน นายบ่าวสองคนยิ้มอย่างมีเลสนัย
“พระชายา ท่านคิดดีแล้วหรือยังว่าจะตอบยังไง?”
“มีอะไรน่าคิด?”
หยุนหว่านหนิงยักไหล่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ให้ซูกงกงนั่งรออยู่ที่ห้องโถง ข้าแต่งตัวเสร็จแล้วก็จะไปหาเขา”
“ขอรับ พระชายา”
หรูอวี้หันเดินออกไป
หรูเยียนเข้ามาช่วยหยุนหว่านหนิงหวีผมเปลี่ยนชุด จากนั้นหยุนหว่านหนิงก็ไปยังเรือนด้านหน้า หรูเยียนเฝ้าดูยวนเป่า
มองไกลๆก็เห็นซูกงกงนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว มือเท้าคางอยู่อย่างครุ่นคิด ท่าทีคิดหนักอย่างมาก
“ซูกงกง”
หยุนหว่านหนิงเดินมาหาพร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “ลมอะไรพัดเจ้ามาถึงที่นี่?”
ซูปิ่งซ่านรีบลุกขึ้นมาวถวายความเคารพ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไอโย้ว พระชายาหมิง รู้ว่าปกติพระชายาตื่นสาย วันนี้ฮ่องเต้สั่งให้ข้าน้อยมา จึงต้องมารบกวนพระชายา”
เขามองดูหยุนหว่านหนิงอย่างยิ้มแย้ม
ดูรูปร่างพระชายาหมิงผมเพรียว ดูก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรง
ถึงแม้ปกติ พระชายาหมิงจะสามารถทำให้คนโกรธได้อย่างไม่มีเหตุผล
แต่ก็เห็นได้น้อยครั้งว่านางลงมือทำร้ายคน
ดังนั้น พระชายาหมิงที่อ่อนแอแบบนี้ น่าจะไม่มีทางลักพาตัวฮองเฮาเหนียงเหนียงไป?
ซูปิ่งซ่านเลิกคาดเดาในใจ พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “มีอยู่เรื่องหนึ่ง ฮ่องเต้สั่งให้ข้าน้อยมาถามพระชายาหมิง”
“เรื่องอะไรหรือ?”
หยุนหว่านหนิงนั่งลง มองดูเขาอย่างแปลกใจ
มือซูปิ่งซ่านไม่ได้แตะต้องน้ำชา เขาปัดออกเบาๆ แล้วพูดขึ้นอย่างอ้ำๆอึ้งๆว่า “ไม่รู้ว่าพระชายาหมิงรู้เรื่องหรือยัง ข่าวที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงหายตัวไป?”
“โย้ว? เกิดเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หยุนหว่านหนิงแปลกประหลาดใจ
นางมองดูซูปิ่งซ่านอย่างตกตะลึง พร้อมพูดขึ้ว่า “อยู่ดีๆทำไมฮองเฮาถึงหายตัวไป?”
เห็นนางเหมือนไม่รู้เรื่องนี้ ซูปิ่งซ่านค่อยพูดขึ้นอย่างถอนหายใจว่า “ข้าน้อยเองก็ไม่รู้ เช้าวันนี้จางหมัวมัวมาหาฮ่องเต้ บอกว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงหายตัวไป”
“ส่งคนไปตามหาหรือยัง?”
สายตาหยุนหว่านหนิงฉายแววกังวล สีหน้าเป็นห่วง
ซูปิ่งซ่านลังเลสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “ค้นหาจนทั่วทั้งวังหลวงแล้ว ตามหาไม่เจอ”
“น่าแปลกจังเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...