อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 454

โม่เยว่ถูกตามตัวมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อกี้อยู่ที่ตำหนักฉินเจิ้ง เขาได้ยินผู้คนพูดคุยกันแล้วว่า ฮองเฮาเหนียงเหนียงหาย

หลังจากเขาถวายทำความเคารพ ก็ยืนอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เจ้าเจ็ด”

โม่จงหรานเงยหน้ามองดูเขา เห็นเขาปั้นหน้าเรียบเฉย....ถ้าเป็นลูกชายคนอื่นเอาแต่ปั้นหน้าอยู่อย่างนั้น เขาคงเตะไปแต่แรกแล้ว

ช่างเถอะช่างเถอะ

เพราะเจ้าเจ็ดเป็นลูกชายที่คลอดโดยผู้หญิงที่เขารักที่สุด

เจ้าเจ็ดเป็นสามีของลูกสะใภ้ที่เขาพอใจที่สุด

เจ้าเจ็ดยังเป็นเสด็จพ่อของหลานชายสุดที่รักที่เขาโปรดปรานที่สุด....

เขาจึงอดกลั้นไว้

โม่จงหรานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หันหน้าไปพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ารู้เรื่องแล้วหรือยัง เรื่องที่ฮองเฮาหายตัวไป?”

“ข้าได้ยินมาแล้ว”

โม่เยว่พูดตอบ

“งั้นเจ้ารู้ไหมว่า เรื่องนี้เป็นฝีมือใคร?”

โม่จงหรานก็ถามขึ้นว่า

สายตาโม่เยว่สั่นไหว

ฮองเฮาจ้าวหายตัวไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

ต่อให้จะถาม ก็ควรถามโม่ฮั่นอี่ว์ถึงจะถูก ยังไงเขาก็เป็นคนดูแลห้ากองทหาร เกี่ยวข้องกับการปกป้องความปลอดภัยของเมืองหลวง ค่ายเสินจีของเขาไม่เกี่ยวข้องอะไร

แต่ตอนนี้โม่จงหรานไม่ได้ถามโม่ฮั่นอี่ว์ เรียกเขามาถามเพียงคนเดียว....

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา หรือว่า.....เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้น?

“ข้าไม่รู้เรื่อง”

“ใช่ไหม?”

โม่จงหรานเลิกคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่รู้เรื่องจริงๆ?”

โม่เยว่มองดูเขา พร้อมพูดด้วยสายตาจริงจังว่า “ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ”

โม่จงหราน “.........”

เขาลืมไปได้ยังไง

ลูกคนนี้ตอนนี้มีเมียแล้วก็ลืมแม่ จะต้องลืมเขาที่เป็นพ่อคนนี้ด้วยแน่

ต่อให้นี่เป็นฝีมือของหยุนหว่านหนิง โม่เยว่ก็จะปกป้องหยุนหว่านหนิงอย่างไม่คิดอะไรเลย ต่อให้หยุนหว่านหนิงจะปีนขึ้นฟ้าไปเด็ดดวงดาว เขาก็จะเป็นบันไดให้กับนาง

ยิ่งไปกว่าการลักพาตัวฮองเฮาจ้าว?

หยุนหว่านหนิงอยากทำอะไรฮองเฮาจ้าว โม่เยว่จะไม่มีทางห้ามผู้หญิงของเขาคนนั้น

มิหนำซ้ำยังจะช่วยนางอีกด้วย

ตอนนี้โม่เยว่กลายเป็นคนที่ปกป้องภรรยาอย่างบ้าคลั่ง

โม่จงหรานรู้สึกว่า สิ่งที่เขาทำในวันนี้ เป็นการกระทำที่สูญเปล่า

เขายกมือลูบจมูก ลุกขึ้นมาอย่างจนใจพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเจ็ด ข้าก็เพียงแค่อยากเตือนพวกเจ้า”

“ยังไงฮองเฮาก็เป็นถึงฮองเฮา ตอนนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งราชสำนัก ข้าเองก็ลำบากใจ”

เขาเดินไปหลายก้าว เอามือไขว้หลังแล้วก็พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ข่มขู่ก็พอแล้ว อย่าให้ถึงแก่ชีวิต ทำให้ข้าต้องตกที่นั่งลำบาก”

โม่เยว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าอย่างน่าสงสารว่า “เสด็จพ่อ”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

“ข้าไม่ได้ว่าเจ้า ข้าว่าหว่านหนิง”

โม่จงหรานจนใจ

“หนิงเอ๋อร์ก็ไม่เกี่ยวข้อง”

โม่เยว่พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “เมื่อคืนหนิงเอ๋อร์อยู่กับข้าทั้งคืน นางไม่ได้ออกไปจากจวนอ๋อง ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่”

โม่จงหราน “.......”

ได้ ตนเองหาเรื่องใส่ตัวเอง

“เจ้าบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง งั้นก็ไม่เกี่ยวข้อง”

เขาโบกมือ พร้อมพูดขึ้นอย่างรำคาญว่า “ข้าก็พูดไปอย่างนั้นเอง อย่าให้ถึงแก่ชีวิต”

“เสด็จพ่อ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา ท่านไม่ต้องเตือนพวกเรา”

โม่เยว่มองดูเขาอย่างจริงจัง

โม่จงหราน “.....เอาล่ะ เจ้าไสหัวไปเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ”

โม่เยว่‘ไสหัวไป’อย่างรวดเร็ว

เขาเพิ่ง‘ไสหัว’ออกมา โม่ฮั่นอี่ว์ก็‘ไสหัว’เข้าไป พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ ข้าสืบรู้เบาะแสแล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่เสด็จแม่หายตัวไป”

“อ๋อ?”

โม่จงหรานมองดูเขาอย่างแปลกใจ พร้อมถามขึ้นว่า “เจ้าสืบได้ความว่าอย่างไร?”

ลูกชายคนนี้ ไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถ

“ข้าสืบรู้มาว่า เมื่อคืนเสด็จแม่ถูกคนลักพาตัวไปตอนกลางคืน”

โม่ฮั่นอี่ว์พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า

โม่จงหรานรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที

เขาเดินไปนั่งด้านข้างโต๊ะ ยกมือกุมขมับ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดต่อ”

“เพราะรองเท้าเสด็จแม่ยังวางอยู่ข้างเตียง จะต้องถูกคนตีสลบแล้วแบกตัวไปแน่ ดังนั้นจึงลืมสวมรองเท้า ไม่อย่างนั้นคงไม่เปลือยเท้าออกจากตำหนักไปแน่”

โม่ฮั่นอี่ว์พูดวิเคราะห์อย่างจริงจัง

โม่จงหรานยิ่งปวดหัวรุนแรง

แบบนี้ก็สามารถเรียกว่าเบาะแส

ฟ้ายังไม่สว่างจางหมัวมัวก็รู้แล้วว่าฮองเฮาจ้าวหายตัวไป

ในเมื่อไม่ได้หายตัวไปตอนเพิ่งค่ำ และก็ไม่ได้หายตัวไปตอนฟ้าสว่าง งั้นก็ต้องหายไปตอนกลางดึก

เห็นโม่ฮั่นอี่ว์มองดูเขาอย่างรอคอย.....

คำว่า‘ไสหัวไป’ของโม่จงหรานที่มาถึงปากก็ถูกกลืนกลับไป

ลูกชายคนนี้ยังไงก็ได้ตั้งใจแล้ว

ถึงจะสืบหาแล้วทั้งเช้า ก็หาไม่ได้ความอะไรเลย....

ถือว่าพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้ว

โม่จงหรานกระตุกมุมปากอย่างยากลำบาก พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าสอง เจ้าทำได้ไม่เลว ไปสืบหาต่อ ครั้งหน้าหาเบาะแสที่สำคัญกว่านี้ แล้วค่อยมารายงาน”

เขาจะได้ไม่ต้องปวดหัว

“ขอรับ เสด็จพ่อ”

หลังจากได้รับคำชมจากโม่จงหรานแล้ว โม่ฮั่นอี่ว์ก็กลับไปอย่างดีอกดีใจ

เพิ่งเดินออกไป ก็เจอโม่หุยเหยียนที่สีหน้าคิดหนัก

“เอ๋? พี่ชายใหญ่? เจ้าถูกเสด็จพ่อกักบริเวณไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงยังกล้าออกมา?”

เหมือนเขาจะลืมไปแล้วว่า หลายวันก่อนช่วงที่เขาถูกกักบริเวณ ก็ได้แอบหนีออกไป

“ไม่เป็นไร ข้ามาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ”

โม่หุยเหยียนดูโศกเศร้าไม่สดชื่นแจ่มใสอย่างมาก

“พี่ชายใหญ่ สีหน้าของเจ้าดูไม่ค่อยดี? นี่ไม่ได้เจอแค่ครึ่งเดือนเอง เจ้าก็ผอมไปมากเลย.....”

โม่ฮั่นอี่ว์ยืนขวางอยู่ตรงหน้าเขา มองพิจารณาดู พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ข้าว่า จวนอ๋องฉู่มีสาวงามมากมายขนาดนั้น พี่ชายใหญ่จะไม่ผอมได้อย่างไร? ”

“ว่ากันว่า การปฏิเสธสาวงามนั้นเป็นสิ่งที่ยากที่สุด”

เห็นได้ชัดว่าโม่หุยเหยียนไม่สนใจเขา

เห็นโม่ฮั่นอี่ว์ขวางอยู่ข้างหน้า เขาก็เดินอ้อมไปยังห้องทรงพระอักษร

โม่ฮั่นอี่ว์ไม่ตายใจ

เมื่อก่อนเขามักถูกโม่หุยเหยียนพี่ชายใหญ่คนนี้ก่นด่า วันนี้กว่าจะได้มีโอกาส เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร?

“พี่ชายใหญ่”

เขาวิ่งไล่ตามไปขวางโม่หุยเหยียนไว้อีก

ตอนนี้เดินมาถึงหน้าประตูแล้ว

โม่ฮั่นอี่ว์ยื่นมือออกไปอย่างไม่กลัวตาย คว้าจับขอบประตู ขวางทางโม่หุยเหยียนไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ยินว่าพี่สะใภ้ใหญ่กลับบ้านไปแล้ว? ทำไมเจ้าไม่ไปตามกลับมา?”

“เสด็จแม่หายตัวไป? เจ้าจะมาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อเพราะเรื่องนี้หรือ?”

ตอนนี้จวนอ๋องฉู่มีเรื่องวุ่นวายไม่น้อย โม่หุยเหยียนอยู่ในสภาพอึดอัดปวดหัวจะแย่แล้ว

แต่โม่ฮั่นอี่ว์กลับมาซ้ำเติม

ทิ่มแทงใจเขาทีละแผล สีหน้าโม่หุยเหยียนบูดเบี้ยว

เขากัดฟันดังกรอด พร้อมพูดขึ้นว่า “หลีกไป”

“ทำไมพี่ชายใหญ่โกรธหรอ? สีหน้าเจ้าย่ำแย่มาก เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”

“หลีกไป”

เห็นโม่ฮั่นอี่ว์ยังยั่วยุเขาอยู่ โม่หุยเหยียนโกรธจัดจึงผลักเขา แล้วเดินเข้าไปในห้องทรงพระอักษรอย่างไม่หันกลับมา เงาด้านหลังดูเร่งรีบอย่างมาก

โม่ฮั่นอี่ว์ก็ไม่ได้โกรธ

สะบัดมือ หัวเราะแล้วก็จากไป

เขาไล่ตามไปทางที่โม่เยว่หายตัวไป

แต่ฝีเท้าโม่เยว่ไวมาก โม่ฮั่นอี่ว์ไล่ตามมาถึงนอกวังก็ไม่เห็นเขา

เวลานี้ โม่เยว่กลับมาถึงจวนอ๋องหมิงแล้ว

เข้ามาถึงก็รีบถามบ่าวใช้ว่า “พระชายาล่ะ?”

บ่าวใช้เห็นสีหน้าท่านอ๋องไม่สู้ดี จึงพูดตอบอย่างระมัดระวังว่า “ข้าน้อยไม่ทราบ พระชายาดูเหมือนจะหายไปตั้งแต่เช้าแล้ว”

หายตัวไป?

โม่เยว่หรี่ตาลง

คิดถึงคำพูดเมื่อกี้ของโม่จงหราน....

อาศัยหยุนหว่านหนิงตัวคนเดียว ไม่มีทางลักพาตัวฮองเฮาจ้าวออกไปจากทหารที่เฝ้าอยู่อย่างแน่นหนาแน่

เบื้องหลังของนาง ต้องมีคนช่วยแน่

ในหัวสมองโม่เยว่ ปรากฏภาพเงาร่างคนคนหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์