อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 46

ผีหลอก!

ยาในช่องว่างของห้วงเวลานี่กลับเป็นรากครามกล่องหนึ่ง?!

หยุนหว่านหนิงอึ้งกิมกี่ อดก้มลงมองดูกำไลหยกที่ส่องประกายแสงบนข้อมือไม่ได้ “กำไลน้อย เจ้าคงมิใช่เข้าใจว่าข้าอ่านหนังสือไม่ออกหรอกนะ?!”

รากครามจะรักษาอะไรได้?!

หวัดหรือไง?!

ช่องว่างของห้วงเวลาที่ปกติเธอรู้สึกว่าเชื่อถือได้ วันนี้ทำให้เธอไม่เชื่อใจเป็นครั้งแรกละ

แต่ว่า...

ถ้าเกิดท่านลุงเป็นหวัดจริงๆล่ะ?

ความคิดนี้เธอพึ่งผุดออกมา และก็ดับไปทันทีเลย

เพราะเธอเห็นว่า ใน《ตำราสมุนไพร》บันทึกไว้ว่า “รากคราม ประโยชน์และวิธีใช้เหมือนใบคราม สามารถใช้ฟอกเลือดในตับและกระเพาะ ใช้ดับร้อน ล้างพิษ ไล่โรคระบาด ฆ่ายุงแมลงแมลงสาบและหนูเท่านั้น”

รากครามเป็นยาที่ใช้ดับร้อนล้างพิษได้!

แต่ผู้ป่วยที่ม้ามและกระเพาะอ่อนแอใช้ไม่ได้

ดังนั้นหยุนหว่านหนิงจึงส่ายหัวบ่นพึมพำว่า “ยาแก้พิษส่วนมากทำลายกระเพาะ และตอนนี้ม้ามและกระเพาะของท่านลุงก็อ่อนแอมากด้วย”

ดังนั้นต้องรักษาม้ามและกระเพาะก่อน

รักษาม้ามและกระเพาะได้เสร็จ ค่อยรักษาที่สาเหตุของโรค

เมื่อครู่ช่องว่างของห้วงเวลาตอบเธอกลับ และสามารถเป็นการยืนยันทางอ้อมว่า ท่านลุงเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเรื้อรังจริงๆ

ตัวยาเช่นรากคราม เหลียนเฉียวล้วนแก้พิษได้

สูตรยาจริงๆเดี๋ยวค่อยว่ากัน

เธอครุ่นคิดครู่หนึ่ง พูดเสียงต่ำกับกำไลหยกว่า “ข้าต้องการWeikangling แคปซูล”

รักษาโรคกระเพาะก็ต้องใช้ให้ถูกวิธี

ยาที่ใช้รักษาโรคกระเพาะมีเยอะมาก ยาชนิดนี้ใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เลือดออกในกระเพาะอาหารได้พอดี หลังจากเอายาออกมาจากช่องว่างของห้วงเวลา เธอลุกขึ้นไปเทน้ำร้อนครึ่งแก้วจากกาน้ำบนโต๊ะ

กู้หมิงสลบไปแล้ว กลืนแคปซูลไม่ลง

หยุนหว่านหนิงได้แต่แกะด้านนอกของเปลือกแคปซูลออก และเทผงยาผสมลงในน้ำ ให้กู้หมิงกลืนลงไป

อีกทั้งกลัวพวกกู้ป๋อจ้งจะสงสัย เธอเอากระดาษห่อยามากางออกและเทผงยาในแคปซูลลงไป จากนั้นใช้กระดาษห่อยาห่อไว้

พอดูอย่างนี้ ถึงจะยังไม่เหมือนยาจีน

แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้คนสงสัยละ

หลังจากป้อนยาโรคกระเพาะให้กู้หมิงแล้ว ก็ไม่ได้รีบร้อนจากไป

เธอวางยาหลายชุดไว้บนชั้นหัวเตียง และยังกำชับสาวใช้ว่าควรจะกินตอนไหน ถึงกลับมาบอกกู้ป๋อจ้ง

“เจ้ากำลังบอกว่า “ม้ามและกระเพาะของท่านลุงเจ้าได้รับความเสียหายถึงทำให้อาเจียนเป็นเลือด?”

“ใช่”

หยุนหว่านหนิงพยักหน้า “ต้องปรับม้ามและกระเพาะให้ดีก่อน ถึงจะสามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ก่อนหน้านี้ ยาที่ท่านหมออื่นสั่งให้ หยุดไปก่อน กินแค่ผงยาที่ข้าให้ท่านลุงไว้เท่านั้น”

“ได้”

กู้ป๋อจ้งไม่ได้สงสัยเลย และพยักหน้ารับคำ

“แล้วท่านลุงเจ้าเป็นโรคอะไรกันแน่?”

เขาถามอย่างสงสัยว่า “นับตั้งแต่ท่านลุงเจ้าเกิด ก็ร่างกายอ่อนแอมาตลอด หลายปีมานี้ป่วยออดๆแอดๆมาตลอด ขนาดหมอหลวงจากในวังยังหาสาเหตุไม่เจอ”

“ตอนนี้ข้าเองก็ไม่กล้ามั่นใจ! แต่ก็เริ่มคาดเดาได้”

หยุนหว่านหนิงปลอบท่านตา “ท่านตาไม่ต้องกังวลไปดอก โรคของท่านลุงมิใช่ว่ารักษาไม่ได้”

“หลายวันนี้ข้าจะมาจับชีพจรให้ท่านลุงทุกวัน”

พอได้ยินคำนี้ กู้ป๋อจ้งถึงผ่อนลมหายใจ

เวลานี้ ฟ้ามืดลงแล้ว

เขาให้หยุนหว่านหนิงและหยวนเป่าอยู่ทานอาหารเย็นที่ตระกูลกู้ก่อนค่อยกลับไป

ไหนเลยพึ่งจะออกปาก โม่เยว่ก็เดินตามคนรับใช้เข้ามาพอดี

“นายท่านกู้”

เขาพยักหน้าอย่างเคารพ และพูดจุดประสงค์ที่มา “ข้ามารับพวกนางแม่ลูกกลับไป”

กู้ป๋อจ้งไม่ได้เป็นไท่ฟู่นานแล้ว แต่คนในเมืองหลวงรวมถึงท่านอ๋องหลายคน หรือกระทั่งโม่จงหรานล้วนให้ความเคารพเขามากนัก ดังนั้นเลยเรียกเขาว่า “นายท่านกู้”

“เดิมข้าอยากให้พวกนางอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันก่อน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็กลับไปกันเถอะ”

กู้ป๋อจ้งไม่ได้รั้งไว้อีก

เพียงแต่ หลังจากส่งหยุนหว่านหนิงและหยวนเป่าขึ้นรถม้าแล้ว เขาพลันร้องเรียก “ท่านอ๋องรอประเดี๋ยวก่อน”

“นายท่านกู้มีสิ่งใดจะกล่าวรึ?”

โม่เยว่หันกลับมามองเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์