อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 472

แขกทุกคน “.....”

พระนัดดาองค์โตถึงจะอายุยังน้อย แต่ลักษณะท่าทีนั้นใครก็ไม่กล้ามองข้าม

เห็นสายตาของเขาหันมามองพวกเขา แขกทุกคนต่างก็อึ้ง

ราวกับว่าพลังที่มองไม่เห็นกำลังกดดันพวกเขาอยู่ พวกแขกต่างพากันพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเตี้ยนเซี่ยพูดถูก เมื่อกี้หยุนกั๋วกงพูดเช่นนั้นจริง”

“หยุนกั๋วกง เรื่องนี้เจ้าจะเบี้ยวไม่ได้นะ”

“ใช่ เจ้าติดหนี้พระชายาหมิงหนึ่งล้านตำลึง จะเบี้ยวไม่ได้นะ”

“หยุนกั๋วกงเป็นคนไม่ขาดเงินทอง รีบใช้คืนไปเถอะ

“พี่น้องกันยังต้องใช้หนี้กัน หยุนกั๋วกงติดหนี้ลูกสาวแล้วจะไม่คืนไม่ได้นะ”

“หนึ่งล้านตำลึง ไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยนะ”

“….”

ฟังข้อกล่าวหาจากทุกคนแล้ว สีหน้าหยุนเจิ้นซงแดงไปหมด

ต่อให้เมื่อกี้ดื่มจนเมา แต่เขาก็เข้าใจดี ตนเองไม่มีทางพูดเรื่องติดหนี้หยุนหว่านหนิงหนึ่งล้านตำลึงแน่นอน

เพราะเขาไม่ได้ติดหนี้นาง

หยวนเป่า เจ้าเด็กคนนี้

มองดูน่ารักน่าชัง คิดไม่ถึงว่าจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้

หยุนเจิ้นซงสูดลมหายใจเย็นๆเข้าปอดอย่างเจ็บปวด

หากเป็นหนึ่งแสนตำลึงยังดี นี่ตั้งหนึ่งล้านตำลึง

ต่อให้เขาไม่ขาดเงินทอง ใครจะอยากยกเงินตั้งหนึ่งล้านตำลึงให้คนอื่นไป?

สินสอดที่เขาได้มาจากหยุนหว่านหนิงพวกนั้น ยังไม่คิดที่จะคืนให้นาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนึ่งล้านตำลึง?

“ท่านตา ท่านว่าอย่างไร?”

ในขณะที่หยุนเจิ้นซงกำลังครุ่นคิดหนัก หยวนเป่าก็พูดแทงใจขึ้นมาอีกว่า “ท่านยังพูดว่า จะคืนเงินหนึ่งล้านตำลึงให้กับท่านแม่ภายในวันนี้”

“ยังพูดอีกว่า ท่านแม่เป็นคนเนรคุณ อกตัญญู”

หยุนเจิ้นซง “....”

เขาหันไปมองหยุนธิงธิง พร้อมถามด้วยเสียงเบาว่า “ธิงธิง ข้าพูดแบบนี้จริงหรือ?”

หยุนธิงธิงลังเลสักพัก แล้วก็พยักหัวอย่างลำบากใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ ท่านเมาอย่างมาก ท่านพูดเช่นนี้จริง....”

คราวนี้ หยุนเจิ้นซงกระวนกระวายแล้ว

หากเขาไม่เชื่อคำพูดของคนอื่น ยังจะเชื่อคำพูดของหยุนธิงธิงไม่ได้หรือ?

“หว่านหนิง”

เขาหันหน้าไปหาหยุนหว่านหนิง พยายามพูดอธิบายว่า “ในเมื่อข้าเมา พูดอะไรออกมาล้วนเชื่อถือไม่ได้ เอามาคิดจริงจังไม่ได้นะ”

“หรือไม่เจ้า....”

“หยุนกั๋วกงจะคืนเงินตอนนี้ หรือสักพักค่อยส่งคนนำไปให้ที่จวนอ๋องหมิง?”

หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง

หยวนเป่าจูงมือของนาง พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ท่านตา ท่านต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง หากท่านไม่คืนเงินให้กับแม่ของข้า ข้าก็จะไม่นับว่าท่านเป็นตา”

หยุนเจิ้นซงสีหน้าขาวซีด

สิ่งที่เขาสามารถพึ่งพิงได้ในตอนนี้ มีเพียงหยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่าเท่านั้นแล้ว

หากหยวนเป่าไม่นับเขาที่เป็นท่านตาคนนี้.....

ต่อไปเขาจะยืนมั่นคงอยู่ในเมืองหลวงได้อย่างไร?

“ควรคืน ควรใช้คืน”

หยุนเจิ้นซงกัดฟัน เผยรอยยิ้มที่ดูแย่ยิ่งกว่าร้องไห้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ติดหนี้ต้องใช้คืน เป็นเรื่องปกติ เงินหนึ่งล้านตำลึง เดี๋ยวข้าให้คนนำไปให้ที่จวนอ๋องหมิง”

เงินหนึ่งล้านตำลึงของเขา

หยุนเจิ้นซงเจ็บปวดใจจนหายใจลำบาก

สีหน้าทุกคนแตกต่างกัน ต่างพูดกระซิบส่งสายให้กับคนด้านข้าง

แม้แต่โม่ฮั่นอี่ว์ ก็สะกิดโม่เหว่ยที่อยู่ด้านข้าง

ปกติเขาไม่ค่อยได้คุยกับน้องสี่คนนี้

ตอนนี้โจวหยิงหยิงไม่อยู่ เขาจึงจำต้องพูดคุยกับโม่เหว่ยว่า “เจ้าสี่ หยวนเป่าเด็กขนาดนี้ อนาคตลูกต้องเข้มกว่าพ่อแน่”

“เจ้าเด็กคนนี้ เด็ดยิ่งกว่าเจ้าเจ็ดกับหว่านหนิง”

โม่เหว่ยไม่พูดอะไร สายตาจับจ้องมองทางด้านพวกหยวนเป่า

“เจ้ากำลังดูอะไรอยู่?”

เห็นเขาไม่พูดอะไร โม่ฮั่นอี่ว์จึงถามขึ้นอย่างแปลกใจ

โม่เหว่ยยังคงไม่พูดตอบ

โม่ฮั่นอี่ว์ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก เขายิ้มหัวเราะ พร้อมพูดกับตนเองว่า “เจ้าก็กำลังดูหยวนเป่าใช่ไหม? เด็กคนนี้น่ารักฉลาดหลักแหลมจริงๆ ต่อไปหากข้ามีลูกชายแบบนี้สักคนก็คงดี”

เขาหยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วก็

โม่เหว่ยไม่ตอบ เขาก็ยังมีความสามารถในการหาเรื่องสนทนาต่อ

“เงินตั้งหนึ่งล้านตำลึง วันนี้หยุนกั๋วกงเสียหายอย่างมากแน่”

เขาส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “โชคดีที่เขายังมีเงินหนึ่งล้านตำลึง หากไม่มี....วันนี้คงถูกบีบบังคับให้ชนกำแพงตายแน่?”

เวลานี้ โม่เหว่ยค่อยกวาดสายตามองดูเขาแวบหนึ่ง

“พี่รอง พูดจาระวังหน่อย”

เขาพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ยังไงวันนี้ก็เป็นวันครบรอบวันเกิดของหยุนกั๋วกง เจ้าพูดจาแบบนี้ไม่เป็นมงคลเลย”

“เจ้าช่วยพูดเข้าข้างเขา?”

โม่ฮั่นอี่ว์ตกตะลึง

เนื่องจากตกตะลึงอย่างมาก จนแทบสำลักขนมหวาน

โม่ฮั่นอี่ว์ไอรุนแรงอยู่หลายที แล้วเขาก็ค่อยมองกลับมาด้วยท่าทางแปลกๆ

ช่างเถอะ ช่างเถอะ ยังไงเขากับเจ้าสี่ก็ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน.....แม้แต่เรื่องคุยกันก็ไม่มี ไม่สามารถที่จะคุยกันได้อย่างมีความสุข

โม่ฮั่นอี่ว์ส่ายหัว หันมองไปทางหน้าประตูอย่างสนใจ

หลังจากหยุนเจิ้นซงยอมจ่ายเงิน หยวนเป่าก็ค่อยไม่เอาเรื่องอีก

“ท่านตา แม่ของข้าเป็นลูกสาวของท่าน เมื่อกี้ข้ากับแม่เข้าวัง เพื่อจะไปรับเสด็จพ่อมาร่วมงานครบรอบวันเกิดของท่านด้วยกัน”

เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าบูดบึ้งว่า “ที่ไหนได้ท่านตากลับไม่เห็นดีเห็นงาม ยังตำหนิด่าว่าท่านแม่ของข้าอกตัญญู”

“ท่านตาต้องขอโทษแม่ของข้า”

“อะไรนะ?”

หยุนเจิ้นซงอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอโทษ?”

ถึงแม้หยุนหว่านหนิงเข้าวังไปรับโม่เยว่ เรื่องนี้เขาคิดไม่ถึงจริงๆ

แต่ได้ยินว่าต้องขอโทษ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที

ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ เขาที่เป็นพ่อคนนี้ จะพูดขอโทษลูกสาวตนเองได้ยังไง?

“หากท่านตาไม่พูดขอโทษ แสดงว่าไม่ยินดีต้อนรับเราสองแม่ลูก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไร ท่านแม่เราไปกันเถอะ”

พูดเสร็จ หยวนเป่าก็จูงมือหยุนหว่านหนิงไป

พวกแขกต่างมองดูหยุนเจิ้นซงอย่างสนุก

เวลานี้ใครจะยังไม่เข้าใจ?

เสี่ยวเตี้ยนเซี่ยกำลังแก้แค้นแทนพระชายาหมิง

ดูหยวนเป่าอายุไม่เยอะ แต่ก็เป็นคนที่ปกป้องเข้าข้างคนของตนเองมาก

แม่ของเขา เขาปกป้องเอง

ในสายตาหยวนเป่า โม่เยว่ยังพูดจาแรงใส่หยุนหว่านหนิงไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหยุนเจิ้นซง?

เห็นเขาสองแม่ลูกพูดว่าจะไป หยุนเจิ้นซงก็ร้อนใจ รีบไล่ตามไปพูดขึ้นว่า “หว่านหนิง เสี่ยวเตี้ยนเซี่ยเดี๋ยวก่อน ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ”

“วันนี้ล้วนเป็นเพราะข้าไม่ดี ข้าดื่มมากไปจนเสียเรื่อง”

เขาตบปากตนเองเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ล้วนเป็นเพราะปากของข้า ข้าพูดจาไม่เป็น”

“หวังว่าเสี่ยวเตี้ยนเซี่ยกับหว่านหนิงจะไม่ถือสาข้าที่เป็นคนเฒ่าคนหนึ่ง”

หยุนเจิ้นซงอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

ต่อหน้าผู้คนมากมาย ถูกตบหน้าแล้วยังไง?

ไม่ใช่เพราะอยากพึ่งพิงจวนอ๋องหมิงที่สูงศักดิ์นี้หรือ?

เห็นหยุนเจิ้นซงยอมเสียหน้า หยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่ามองหน้ากัน....

“เห็นทีท่านตามีความจริงใจ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้ากับแม่ก็จะไม่ถือสาท่านตา หวังว่าต่อไปท่านตาจะไม่ทำตัวไม่น่าเคารพ”

หยวนเป่าพูดสอนด้วยสีหน้าจริงจัง

เป็นเด็กแล้วยังไง?

ใครใช้ให้คนอื่นสถานะสูงส่ง?

หยุนเจิ้นซงตอบรับด้วยสีหน้าเศร้า

เวลานี้หยวนเป่าค่อยยื่นกล่องในมือออกไป พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านตา นี่เป็นของขวัญครบรอบวันเกิดที่ข้าเตรียมให้ท่าน หวังว่าท่านจะชอบ”

มองดูใบหน้าเล็กน้อยของเขายิ้มหัวเราะอย่างแปลกประหลาด....

หยุนเจิ้นซงรู้สึกไม่สบายใจ

เขารู้สึกเหมือนว่า ภายในกล่องนี้ไม่ใช่สิ่งของดีอะไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์