อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 473

“ท่านตา ไม่คิดจะรับไว้หรือ?”

เห็นหยุนเจิ้นซงแสดงสีหน้าลังเล ไม่คิดจะยื่นมือออกมารับ....

หยวนเป่าเลิกคิ้ว

“ข้า.....”

หยุนเจิ้นซงกลืนน้ำลายลงคอ จำต้องรับกล่องนั้นมา ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณเสี่ยวเตี้ยนเซี่ย ข้าเพียงแค่ซาบซึ้งในน้ำใจ”

พูดเสร็จ เขาก็รับกล่องนั้นมายื่นให้กับลุงเฉิน พร้อมพูดขึ้นว่า “ต้องเก็บไว้ให้ดี”

“ครับ นายท่าน”

ลุงเฉินแทบไม่กล้าหายใจแรง รับกล่องนั้นมาอย่างเคารพ

“หว่านหนิง เสี่ยวเตี้ยนเซี่ย พระชายาฮั่น ขอเชิญนั่ง”

หยุนเจิ้นซงพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม

เขารู้สึกโล่งอก คิดว่าเรื่องนี้คงผ่านไปได้แล้ว

ที่ไหนได้ จู่ๆหยวนเป่าก็ร้องเรียกเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านตา ท่านไม่เปิดดูกล่องของขวัญหรือ ดูว่าข้างในเป็นอะไร สั่งคนนำไปเก็บเสียแบบนี้ เพราะไม่ชอบหรือ?”

หยุนเจิ้นซงลังเลสักพัก

“ของขวัญจากเสี่ยวเตี้ยนเซี่ย ข้าต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี”

เฒ่าเจ้าเล่ห์

หยวนเป่าหัวเราะเย้ยในใจ ใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านตา เปิดดูก่อนสิว่าชอบไหม”

“หากท่านไม่ชอบ ข้าไม่เสียความตั้งใจหรือ?”

“นี่.....”

หยุนเจิ้นซงค่อนข้างลำบากใจ

โม่ฮั่นอี่ว์มักเรื่องสนุกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ เขาก็ไม่มีอารมณ์กินต่อแล้ว

เขาวางขนมในมือ พร้อมรีบเดินไปพูดขึ้นว่า “หยุนกั๋วกง หยวนเป่าเราตั้งใจเลือกของขวัญให้เจ้า ดูเจ้าไม่ค่อยชอบเลยนะ?”

“เปล่า เปล่า”

หยุนเจิ้นซงรีบผงกหัว

“ในเมื่อเปล่า งั้นเจ้าก็เปิดดูสิ ให้พวกเราได้ชื่นชมด้วย?”

หยุนเจิ้นซง “......”

โม่ฮั่นอี่ว์คนนี้ ปกตก็เป็นคนเสือกอย่างไม่กลัวเป็นเรื่องใหญ่

เขาเป็นเหมือนอย่างก้อนอิฐ ที่ไหนคึกคักก็ย้ายไปที่นั่น

หยุนเจิ้นซงจนใจ จำต้องกัดฟันรับกล่องนั้นมาใหม่ ค่อยๆเปิดกล่องนั้นภายใต้สายตายิ้มอย่างมีเลศนัยของหยวนเป่า

แขกทุกคนต่างก็แทบกลั้นหายใจ พากันยื่นคอยาวมาดู

เพียงอยากเห็นว่าพระนัดดาองค์โตของพวกเขา เตรียมของขวัญครบรอบวันเกิดอะไรให้กับหยุนเจิ้นซง

หยุนเจิ้นซงเคลื่อนไหวช้ามาก ราวกับกลัวว่าจะมีอะไรกระโดดออกมาจากในกล่อง....

เขากลืนน้ำลายลงคอ มือทั้งคู่สั่นเทา

เพิ่งเปิดออก ภายในกล่องเหมือนไม่มีอะไรเลย

เขามองดูหยวนเป่าอย่างตกตะลึงแปบหนึ่ง แล้วเอากล่องเข้ามาใกล้พร้อมสำรวจดูอย่างละเอียด

ใครจะไปคิดว่าเวลานี้....

ได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากภายในกล่อง

เหมือนเสียงผีร้องโหยหวน แล้วก็เหมือนมีใครมากรีดร้อง

อย่างไรก็ตามเสียงนั้นดังทะลุแก้วหู หยุนเจิ้นซงตกใจจนมือสั่น เกือบโยนกล่องในมือทิ้งไป

แต่กล่องนั้นเหมือนกาวแนบติดมือ เขาสะบัดยังไงก็สะบัดไม่ออก ในขณะที่ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เสียงในกล่องก็หยุดลง

หยุนเจิ้นซงรีบสูดลมหายใจอย่างไว มองดูกล่องนั้นอย่างหวาดผวา

ครั้งนี้ เขาไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้

ต่อให้เป็นเช่นนี้ ภายในกล่องก็ยังคงมีคนตัวเล็กโผล่ออกมา

คนตัวเล็กนั่นแปลกประหลาดมาก ไม่เพียงโผล่ออกมาแล้ว ยังกระเด็นไปโดนจมูกของหยุนเจิ้นซง

คนตัวเล็กเคลื่อนไหวมือแขนอยู่สักพัก แล้วก็กรีดร้อง “อ้าก” ขึ้นมา....

“อ้าก”

ไม่เพียงคนตัวเล็กกรีดร้อง ครั้งนี้ยังมีเสียงหยุนเจิ้นซงกรีดร้องด้วย “อ้าก....นี่ตัวอะไรกัน มี มีผี อ้าก อ้าก.....”

เห็นแบบนี้ หยวนเป่าหัวเราะมีความสุขอย่างมาก

เขาหัวเราะเสียงดังขึ้นมา

มองดูสภาพย่ำแย่ของหยุนเจิ้นซง พวกแขกทั้งหลายก็พากันหัวเราะขึ้นมา

วันนี้ หยุนเจิ้นซงถือว่าเสียหน้าอย่างที่สุด

เมื่อได้สติกลับมา ใบหน้าของเขาก็แดงไปหมด

เขาไม่คิดสนใจดูแลหยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่า อ้างว่าจะไปเปลี่ยนผ้าแล้วก็รีบหายลับไปจากสายตาทุกคน

หยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่าค่อยนั่งลง

พวกเขาหลายคน นั่งตรงตำแหน่งที่สูงศักดิ์ที่สุด

โจวหยิงหยิงก็นั่งลงด้านข้างโม่ฮั่นอี่ว์ มองดูหยุนหว่านหนิงคีบผักให้กับหยวนเป่า ยิ้มหัวเราะจนสายตางอเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว พร้อมพูดขึ้นว่า “หนิงเอ๋อร์ เจ้ามีผู้สืบทอดแล้ว”

“อืม?”

หยุนหว่านหนิงถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ผู้สืบทอดอะไร?”

“ฉ้อโกงหลอกลวง พูดให้คนอื่นโกรธได้อย่างไร้เหตุผล”

โจวหยิงหยิงส่งสายตาให้กับพวกเขาสองแม่ลูก

หยุนหว่านหนิง “.....”

ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดชมพวกเขาสองแม่ลูก หรือกำลังว่าพวกเขา?

นางยังไม่ทันได้ตอบ หยวนเป่าก็พูดขึ้นด้วยเสียงสดใสว่า “ป้ารอง ท่านกับลุงรองก็ควรเร่งมือหน่อย มีญาติลูกพี่ลูกน้องให้กับข้า”

“แบบนี้ พวกท่านก็จะมีผู้สืบทอดแล้ว”

โจวหยิงหยิงกับโม่ฮั่นอี่ว์มองหน้ากัน ทั้งสองคนหัวเราะชอบใจ

วันนี้โม่ฮั่นอี่ว์เผชิญกับของกินเต็มโต๊ะ ก็ไม่รู้สึกอยากกิน

พูดหยอกล้อหยวนเป่าขึ้นว่า “ทำไมเจ้าไม่ใช้ท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้า มีน้องชายน้องสาวให้เจ้า? กลับมาให้พวกเรามีญาติลูกพี่ลูกน้องให้เจ้า?”

“ท่านพ่อกับท่านแม่ข้ายังหนุ่ม ไม่รีบ แต่พวกท่านอายุไม่น้อยแล้ว....”

หยวนเป่าพูดอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมา

โม่ฮั่นอี่ว์ โจวหยิงหยิง พร้อมพูดขึ้น “.....แทงใจจริงๆ”

เจ้าเด็กคนนี้ ปากจัดจริงๆ

โม่ฮั่นอี่ว์สูดลมหายใจเข้า พร้อมถามขึ้นว่า “งั้นทำไมเจ้าถึงพูดว่าพวกเรามีผู้สืบทอด?”

“พวกเขาไม่ใช่ผู้สืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ ข้าเองก็ไม่สนใจตำแหน่งฮ่องเต้”

เขาเอามือเท้าคาง มองดูหยวนเป่าด้วยสายตารักใคร่

หยวนเป่าวางตะเกียบ เช็ดมือด้วยท่าทีสง่าสูงศักดิ์ พร้อมเงยหน้ามองดูโม่ฮั่นอี่ว์อย่างจริงจัง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่สืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้”

“งั้นสืบทอดอะไรล่ะ?”

“สืบทอดความกินเก่งของท่านกับป้ารอง”

หยวนเป่าพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “นี่ก็เป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงาม เสด็จพ่อกับท่านแม่ของข้าไม่ชอบกิน ดังนั้นข้าจึงต้องสืบทอดลักษณะพิเศษอย่างอื่น”

ปากจัดมาก

โม่ฮั่นอี่ว์ขมวดหน้าคิ้วย่น โจวหยิงหยิงสำลักผักที่กำลังกินอยู่ พร้อมเริ่มไอขึ้นมา

เจ้าตัวเล็กคนนี้

เมื่อเพิ่งพูดว่าสืบทอดความปากจัดของโม่เยว่กับหยุนหว่านหนิง เพิ่งทำให้หยุนเจิ้นซงโกรธโมโหจนหนีไป ต่อมาก็พูดจนเขาสองคนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

โม่ฮั่นอี่ว์ก้มหน้ามองดูพื้น

โม่เหว่ยถามขึ้นมาอย่างเชื่องช้าว่า “พี่รองเอาแต่จ้องมองพื้น กำลังหารูมุดหรือ?”

โม่ฮั่นอี่ว์ “.....”

ตอนนี้เขาเพียงอยากอยู่อย่างสงบ

“หยวนเป่า ลุงสี่คิดว่าเจ้าพูดถูก”

โม่เหว่ยหันไปยกนิ้วมือให้กับหยวนเป่า

รอยยิ้มบนใบหน้าหยวนเป่าค่อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาขึ้นมา รอยยิ้มแบบนี้ค่อยเหมาะสมกับวัยของเขา เขามองดูโม่เหว่ยอย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณท่านลุงสี่”

“ท่านแม่บอกว่า คนเรา ต้องรวบรวมความกล้าเพื่อคนที่เรารัก ถึงจะมีผล”

“ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง การพยายามคือสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นลุงสี่ ท่านต้องพยายามนะ”

โม่เหว่ย “.......”

นางไม่ใช่คนโง่ จะฟังความหมายของหยวนเป่าไม่รู้เรื่องได้ยังไง

เมื่อกี้ยังเพิ่งพูดชมหยวนเป่าพูดได้ดีอยู่เลย เวลานี้โม่เหว่ยก็เริ่มบ่นในใจ

เจ้าตัวเล็กคนนี้

แก่แดด

ใครกันที่สารเลว สอนเขาพูดจาแบบนี้?

เขาหรี่ตาลง หันไปมองหยุนหว่านหนิง

“เจ้ามองข้าทำไม?”

หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นอย่างไม่รู้เรื่องว่า “ข้าไม่ได้สอนให้ลูกชายข้าพูดแบบนี้ แต่ข้าเห็นด้วยกับคำพูดของหยวนเป่า หากอ๋องโจวไม่รวบรวมความกล้า คนอื่นช่วยเจ้าไม่ได้หรอกนะ”

“ใช่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ข้ายังไม่ได้บอกเจ้า”

นางขยับไปใกล้ข้างหูโม่เหว่ย พร้อมกระซิบพูดขึ้น

หลังจากฟังหยุนหว่านหนิงพูดเสร็จ โม่เหว่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เป็นความจริงหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์