“ข้าจะโกหกเจ้าทำไม?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “หากเจ้าไม่เชื่อ ก็ไปสืบดูได้เลยว่า ข้าพูดเป็นความจริงไหม?”
สายตาของนางกวาดมองท่ามกลางแขก
ทันใดนั้น สายตาก็หยุดชะงัก
หยุนหว่านหนิงเชยคางไปข้างหน้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าดูทางด้านนั้น....”
โม่เหว่ยมองไปตามสายตาของนาง สีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งย่ำแย่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้แล้ว”
เขาลุกขึ้นจากไป ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร
……
เรือนด้านหลังจวนหยุนกั๋วกง
หยุนธิงธิงก็ยังไม่ได้เข้ามานั่งในงาน
หยุนเจิ้นซงอ้างว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบกลับห้องไปอย่างเร่งรีบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมา กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเขา หยุนธิงธิงจึงรีบตามมาหา
“พ่อ พ่อ?”
ประตูห้องหยุนเจิ้นซงปิดสนิท หยุนธิงธิงเคาะประตู
ไม่มีเสียงคนตอบรับ
หยุนธิงธิงรู้สึกแปลกใจ
หยุนเจิ้นซงกลับมาที่ห้องแล้วไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงไม่มีคนตอบ?
รอบๆเงียบสงบ ไม่มีบ่าวใช้คอยปรนนิบัติ เวลานี้ บ่าวใช้ล้วนรับแขกอยู่ตรงลานด้านหน้า ต่างเข้าๆออกๆทำงานยุ่งอยู่กับการจัดงานเลี้ยง
หยุนธิงธิงผลักประตู แต่ก็เปิดไม่ได้เพราะลงกลอนไว้ข้างใน
“พ่อ?”
ยังคงไม่มีเสียงคนตอบ นางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พร้อมพูดพึมพำขึ้นมาว่า “หาไปไหนแล้ว? ทำไมถึงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย?”
หรือว่า หยุนเจิ้นซงรับไม่ได้ที่วันนี้ถูกเหยียดหยาม จึงคิดสั้น?
ในขณะที่กำลังร้อนใจ ก็ได้ยินเสียงครวญครางดังมาจากในห้อง
เสียงนี้ ฟังดูแปลกๆ
สีหน้าหยุนธิงธิงเปลี่ยนไปทันที รีบเคาะประตูอย่างรุนแรง พร้อมร้องเรียกว่า “พ่อ พ่อไม่เป็นไรใช่ไหม? พ่อเป็นยังไงบ้าง? อย่าคิดสั้นเด็ดขาดนะ วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของพ่อนะ”
เสียงภายในห้องหยุดลงอย่างกะทันหัน
แต่ไม่นาน ก็มีเสียงหนึ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ดังขึ้นมาอีก.....
ถึงหยุนธิงธิงจะเป็นสาวที่ไม่เคยผ่านอะไรมา แต่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง
ถึงว่าทำไมประตูถึงลงกลอน ถึงว่าไม่ว่านางจะร้องเรียกเคาะประตูยังไง หยุนเจิ้นซงก็ไม่ตอบ
นี่เพราะกำลังเสพสุขอยู่อย่างสำราญ?
หยุนธิงธิงหน้าแดง พร้อมรีบหนีไปจากที่นี่
เพิ่งวิ่งหนีออกมาจากเรือนด้านหลัง ก็เจอกับโม่เหว่ยที่กำลังเดินเล่น....หยุนธิงธิงก้มหน้าก้มตารีบเดิน ไม่ได้สังเกตเห็นว่าข้างหน้ามีคน จนเกือบชนซบอกโม่เหว่ย
ถูกเขาคว้าจับไว้ นางค่อยเงยหน้าขึ้นมาอย่างเพิ่งรู้ตัว
“ขอบ ขอบคุณอ๋องโจว”
หยุนธิงธิงยังตกตะลึงอยู่
“ไม่เป็นไร”
โม่เหว่ยมองดูนาง สายตาฉายแววดีใจ
เขารวบเก็บความดีใจไว้ แล้วถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “คุณหนูสามหยุนเป็นอะไรหรือ? มีคนไล่ตามมาหรือ? หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ไม่ ไม่มีอะไร”
สายตาหยุนธิงธิงกระวนกระวาย ไม่กล้ามองสบตาเขา
ในความทรงจำของนาง อ๋องโจวเป็นเหมือนอย่างคนเฒ่าหัวโบราณคนหนึ่ง
เมื่อกี้เพิ่งไปเจอหยุนเจิ้นซงกระทำเรื่องแบบนั้น ตอนนี้ก็มาเจอโม่เหว่ย......
ทำให้รู้สึกแปลกๆ
โม่เหว่ยก้มหน้ามองดูนาง เห็นเม็ดเหงื่อผุดบนหน้าผากของนาง ผมเผ้ายุ่งเหยิง แก้มแดงๆ หายใจติดขัด
สายตาของนางก็กระวนกระวาย เห็นได้ชัดว่าไม่ปกติ
“หากคุณหนูสามหยุน เจอปัญหาอะไร บอกข้าได้นะ”
“ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ”
หยุนธิงธิงเพียงอยากหนีไปเท่านั้น
แต่โม่เหว่ยไม่ปล่อยนางไป นางจึงจำต้องฝืนยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าอ๋องโจวมาทำอะไรที่นี่หรือ?”
“ข้า ข้ามาเดินเล่นที่นี่”
โม่เหว่ยพูดไปเรื่อยขึ้นมาว่า “เมื่อกี้ข้ากินของกินในงานเยอะไปหน่อย เดิมก็สุขภาพไม่ดี หว่านหนิงสั่งข้าไว้ว่า หลังทานอาหารต้องเดินย่อยอาหารด้วย”
เหตุผลนี้ฟังดูสมเหตุสมผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...