หยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่ากวาดสายตามองดูเขา อย่างไม่พูดไม่จา
โม่เหว่ยก็หันไปมองทางอื่น
โม่ฮั่นอี่ว์พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เว่ย พวกเจ้าสามคนให้เกียรติข้าหน่อยได้ไหม? อย่างน้อยก็ถามข้าว่า คิดชื่ออะไรดีๆขึ้นมาได้หรือ?”
หยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่าทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน ทั้งสองคนต่างหันไปมองโม่เยว่ที่กำลังเดินมาใกล้
โม่เหว่ยหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่รอง สมองอย่างเจ้าจะคิดชื่อดีๆอะไรมาได้?”
“เจ้ากล้าคิดขึ้นมาได้ เจ้าเจ็ดกับหว่านหนิงก็ไม่กล้าตั้งให้หยวนเป่า?”
โม่ฮั่นอี่ว์พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “เจ้าสี่ เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าเป็นคนป่วยแล้วข้าจะไม่กล้าทำร้ายเจ้า”
เขายกมือเท้าเอว มองดูโม่เยว่ที่นั่งลงด้านข้างหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเจ็ด เจ้ามาให้ความยุติธรรม ข้าคิดชื่อให้กับหยวนเป่าได้อย่างทรงพลังและมีอำนาจเหนือกว่า เจ้าอยากฟังไหม?”
“ไม่อยาก”
โม่เยว่ปฏิเสธอย่างไม่แม้แต่จะคิด
ไม่เพียงเท่านี้ ยังช่วยเช็ดเศษขนมหวานบนแก้มให้กับหยวนเป่าอย่างใส่ใจ พร้อมถามขึ้นว่า “กินอิ่มหรือยัง?”
เป็นการไม่สนใจเขาอย่างสิ้นเชิง
โม่ฮั่นอี่ว์แทบจะระเบิดอยู่กับที่
โจวหยิงหยิงหยิกเขาหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “มีอะไรก็พูดออกมาไม่ต้องลีลา เจ้าจะเล่นท่าอยู่ทำไม?”
ช่วงเวลาคับขันยังคงเป็นภรรยาที่เป็นกำลังใจ
เห็นโจวหยิงหยิงให้ความสนใจ โม่ฮั่นอี่ว์มองดูพวกหยุนหว่านหนิงอย่างได้ใจ แล้วพูดขึ้นว่า “ในเมื่อพวกเจ้าอยากรู้กันขนาดนี้ งั้นข้าก็จะบอกพวกเจ้า”
พวกหยุนหว่านหนิงมองตากัน ยากที่ทุกคนไม่ขัดใจเขา
“ตั้งว่า....โม่เทียนป้า พวกเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร?”
“พัฟ”
หยุนหว่านหนิงอดกลั้นไม่ไหว สำลักน้ำชากระเด็นออกมา
โม่เยว่รีบหยิบผ้ามาช่วยเช็ดให้นาง พร้อมหันไปขมวดคิ้วสั่งสอนโม่ฮั่นอี่ว์ว่า “พี่รอง หากพูดจาไม่เป็น หุบปากไว้ก็ไม่มีใครว่าเจ้าเป็นใบ้”
โม่เหว่ยเงยหน้ามองขึ้นฟ้า โจวหยิงหยิงก้มหน้ามองบนพื้น
หยวนเป่าพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “ท่านลุงรอง แม้แต่ป้ารองก็ไม่อยากในใจท่านแล้ว”
โม่ฮั่นอี่ว์ยกมือเกาหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ชื่อนี้ไม่ดีหรือ? ยังจะมีชื่อไหนมีพลังมีอำนาจมากกว่านี้อีก? ทำไมพวกเจ้าถึงแสดงท่าทีเช่นนี้?”
หยุนหว่านหนิงไร้ซึ่งความอยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว
นางปล่อยให้โม่เยว่ช่วยนางเช็ดน้ำชา มองดูโม่ฮั่นอี่ว์อย่างจนใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ลูกชายของเจ้าในอนาคต ตั้งชื่อว่าโม่เทียนป้านะ”
“ชื่อเรียก ทรงพลังและพิเศษ ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน”
โจวหยิงหยิงพูดปฏิเสธทันทีว่า “ข้าไม่เอา”
“ทำไมไม่เอา? ชื่อนี้ไพเราะจะตาย?”
โม่ฮั่นอี่ว์ไม่เข้าใจ ยังถกเถียงกับโจวหยิงหยิง
เห็นหยุนหว่านหนิงยกมือทาบหน้าผากอย่างพูดไม่ออก โม่เยว่ขยับเข้าไปกระซิบข้างหูของนางว่า “พี่รองสมองไม่ค่อยดีมาตั้งแต่เด็ก เจ้าอย่าสนใจเขา”
หยุนหว่านหนิงขำเขาขึ้นมา
เวลานี้ หยุนเจิ้นซงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินออกมา
“กำลังดูอะไรหรือ?”
เห็นหยุนหว่านหนิงจับจ้องมองด้านหลังเขา โม่เยว่หันไปดูอย่างแปลกใจ
“หยุนมันฝรั่งมาแล้ว”
หยุนหว่านหนิงพูดขึ้น
ถึงจะเป็นกฎของเขา นอกจากเขาแล้ว ผู้ชายทุกคนในสายตาหยุนหว่านหนิงล้วนเป็นเห็ดหอม หัวไชเท้า ผักกากขาว.....แม้แต่หยวนเป่าก็เช่นกัน
แต่ได้ยินหยุนหว่านหนิงพูดขึ้นมาอย่างจริงจังแบบนี้ โม่เยว่ก็ทนไม่ไหว หัวเราะขึ้นมาด้วยเสียงเบา
“หยุนมันฝรั่ง” เดินมาใกล้แล้ว
เห็นโม่เยว่ เขาแลดูไม่เป็นสุขอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนที่โม่เยว่จะมา ได้รู้เรื่องที่หยุนเจิ้นซงเมาแล้วพูดจาไปเรื่อยแล้ว
เดิมวันนี้เขามีงานยุ่งอยู่ในค่ายเสินจี ไม่อยากที่จะให้เกียรติหยุนเจิ้นซงคนนี้ ไม่อยากมาอวยพรวันครอบรอบวันเกิดเขาด้วยตนเอง
แต่เพื่อภรรยากับลูกชาย....
เขาจึงจำต้องมา
“อ๋องหมิง”
หยุนมันฝรั่งทำความเคารพอย่างนอบน้อม พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าอ๋องหมิงจะให้เกียรติมาร่วมงาน ข้าเสียมารยาทที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับ ขออ๋องหมิงอย่าได้ถือสา"
“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด คนเขลานั้นสมควรตาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...