"กระหม่อม...."
โม่ฮั่นอี่ซืเพิ่งจะพูดได้แค่สองคำ โม่จงหรานก็อดใจพลิกเปิด "ไซอิ๋ว"ขึ้นมาอ่านอีกไม่ได้
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...."
โม่จงหรานระเบิดหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง ชี้ไปที่หนึ่งในภาพประกอบแล้วพูดกับโม่ฮั่นอี่ว์ว่า "เจ้ารองดูสิ เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้หน้าตาดูช่างน่ามองเสียจริง!"
โม่ฮั่นอี่ว์ไม่กล้าคล้อยตามไปอย่างไร้เหตุผล
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินใครสักคนใช้คำว่า "หน้าตาน่ามอง" มาอธิบายถึงสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง!
ตามความคิดเห็นของเขา สัตว์ประหลาดตัวนี้หน้าตาดู “น่ากลัวเกินไปแล้ว” มากกว่า!
มีหัวเป็นวัว สองเขายาวโง้งแบบวัว ที่จมูกมีห่วงสองห่วงห้อยอยู่.....
เขากลืนน้ำลายเอื๊อก “วัวตัวตัวนี้ดูแล้วอ้วนท้วนนัก คงต้องอร่อยมากแน่ ๆ! ใช้ทำเนื้อหม้อไฟ ตุ๋นเนื้อแดง เนื้อผัดยี่หร่า.…”
เขาเริ่มร่ายชื่อรายการอาหารแล้ว
ชื่อรายการอาหารเหล่านี้ ล้วนเป็นอาหารที่เขาเคยกินในจวนอ๋องหมิงทั้งสิ้น
โม่จงหรานถึงกับขว้างหนังสือใส่ "ไอ้ลูกสารเลว! รู้จักแต่เรื่องกิน! ชาติก่อนเจ้าเป็นผีที่ตายเพราะอดอยากแล้วได้กลับชาติมาเกิดใหม่รึ?! "
"พูดมา! มีเรื่องอะไรจะคุยกับข้า!"
โม่ฮั่นอี่ว์ถูกขว้างหนังสือใส่หน้าจนเห็นดาวระยิบระยับ รีบยกมือขึ้นบังหัวพลางตอบว่า "เสด็จพ่อ เมื่อสองสามวันก่อน ท่านไม่ได้กลัดกลุ้มเรื่องที่ท่านคิดจะเปลี่ยนชื่อของหยวนเป่าหรอกหรือ?"
เมื่อได้ยินดังนี้ โมเยว่ก็หยุดสิ่งที่กำลังทำทันที ปรายตามองไปที่โม่ฮั่นอี่ว์ด้วยแววตาหนักอึ้ง
ถ้าเขากล้าพูดชื่ออะไรแปลก ๆ ออกมาล่ะก็ เขาจะกระโดดข้ามโต๊ะตัวนี้ไปทุบหัวทึ่มทื่อไม่ต่างจากสุนัขโง่ ๆ ของเขาให้แตก!
ทันทีที่ได้ยินว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหยวนเป่า.....
โม่จงหรานรีบวางหนังสือลงทันที มองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดจริงจัง "มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมาเร็ว ๆ !"
เรื่องของหลานชายที่แสนล้ำค่าและน่ารักของเขา ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด!
แน่นอนว่าย่อมสำคัญกว่า "ไซอิ๋ว" ด้วย!
"กระหม่อมคิดกับตัวเองในใจว่า เสด็จพ่ออยากจะตั้งชื่อที่มีความหมายแฝงดี ๆ ทั้งเต็มไปด้วยความองอาจเผด็จการ ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ต้องทำให้คนไม่กล้าหาเรื่อง กระหม่อมเพิ่งจะคิดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน สมควรจะให้ชื่อว่า....."
โม่เยว่หรี่ตาลง ในดวงตาผุดประกายที่แสดงถึงความอันตรายขึ้นมาสายหนึ่ง
เขาคิดถึงชื่อ "โม่เทียนป้า" ชื่อนี้ขึ้นมาอีก วันนั้นที่อยู่ในจวนหยุนกั๋วกง เขาถูกพวกโม่เยว่ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย.....
เมื่อเห็นว่าสองมือของโม่เยว่ในยามนี้กำเป็นหมัดแน่น แสดงท่าทีข่มขู่คุกคามเขาอย่างเงียบ ๆ โม่ฮั่นอี่ว์ก็หดคออย่างหวั่น ๆ
เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของโม่จงหราน กระซิบเสียงแผ่วเบาว่า "เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าชื่อ 'เทียนป้า' ชื่อนี้นับว่าไม่เลวเลย! ฟังแล้วให้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความองอาจห้าวหาญของราชวงศ์นัก! "
เขายังไม่ยอมแพ้
ยังคงรู้สึกว่า ไม่มีชื่อไหนดีไปกว่าชื่อ "โม่เทียนป้า" ชื่อนี้อีกแล้ว!
ถ้าหยวนเป่าไม่ชอบ ลูกชายในอนาคตของเขา จะต้องตั้งชื่อให้ว่าโม่เทียนป้าอย่างแน่นอน!
โม่จงหรานขมวดคิ้ว ไม่มีท่าทีคัดค้านแต่ก็ไม่ได้เห็นด้วย
โม่ฮั่นอี่ว์เห็นว่าเริ่มจะมีหวัง จึงรีบตีเหล็กระหว่างร้อนทันที "เสด็จพ่อ คำว่า “เทียน”หมายถึงท้องฟ้า เป็นการสื่อถึงสถานะอันสูงส่ง"
"ส่วน “ป้า” หมายถึงความองอาจห้าวหาญ! ยังมีชื่อไหนที่ฟังแล้วองอาจห้าวหาญ ทั้งยังสุดแสนจะสูงส่งไปกว่าชื่อนี้อีกล่ะ? !"
โม่จงหรานลูบคางอย่างครุ่นคิด "ฟังดูมีเหตุผล..... "
โม่เยว่พูดด้วยสีหน้ามืดทะมึนว่า "เสด็จพ่อ หนิงเอ๋อร์เคยบอกว่า คำว่า ‘พ่อ’ นั้น ยังสามารถแทนที่ด้วยคำเรียกอื่นได้ด้วย"
“คำว่าอะไรรึ?”
"ป้าปา"
ใบหน้าแก่ ๆ ของโม่จงหรานถึงกับตกตะลึงพรึงเพริศ "ป้าปา? ป้าป้า?"
(*คำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้แปล ภาษาจีนมีคำที่ใช้เรียกพ่ออยู่หลายคำ คนจีนในสมัยโบราณนิยมเรียกว่า “เตี่ย” ถ้าเป็นตระกูลชนชั้นสูง หรือคนมีการศึกษา มีหน้าตาในสังคมจะเรียกว่า “ฟู่ชิน” ความหมายคือ “ท่านพ่อ” หรือ “บิดา” ถ้าเป็นราชนิกูล จะเรียกว่า “ฟู่หวาง” คล้ายคำราชาศัพท์ของไทยเราคือเติมคำว่า”เสด็จ”เข้าไปข้างหน้า ในขณะที่คำว่า “ป้าปา” เป็นคำเรียกที่ค่อนข้างสมัยใหม่ คำนี้คนไทยเราอาจคุ้นหูจากการได้ยินคนไทยเชื้อสายจีนเรียกพ่อตัวเองว่า “ปะป๊า” นั่นเอง)
เขาคว้าหนังสือนิยาย "ไซอิ๋ว" ที่วางอยู่ข้างมือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วขว้างใส่หน้าโม่ฮั่นอี่ว์แบบไม่พูดพร่ำทำเพลง "ไอ้ลูกสารเลว! ในสมองของเจ้านอกจากเรื่องกินแล้ว ยังมีอะไรที่มันใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ บ้างหรือไม่? ! "
โม่ฮั่นอี่ว์ผงะถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะหงายหลังนั่งก้นจ้ำเบ้าลงไปกับพื้น
เขากุมหัวตัวเองด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “เสด็จพ่อ ลูกไปทำอะไรให้ท่านโกรธอีกแล้วล่ะ?!”
เมื่อครู่นี้เสด็จพ่อยังบอกว่า เขาพูดได้ฟังดูมีเหตุผลอยู่เลยไม่ใช่หรือ?
ทำไมแค่พริบตาเดียว ถึงได้ทั้งเอาหนังสือขว้าง ทั้งยังด่าเขาแบบสาดเสียเทเสียอีกล่ะเนี่ย? !
โม่จงหรานโกรธจัด หายใจหอบจนหน้าอกกระเพื่อม จ้องโม่ฮั่นอี่ว์ตาเขม็งปากก็แผดเสียงด่าจนหนวดเคราปลิวไสว "เจ้ายังกล้ามาตีฝีปากอีกเรอะ! จะให้ข้าเรียกหลานชายสุดที่รักของตัวเองว่าป้าปาได้อย่างไรกัน?!"
“ทำไมถึงเรียกว่าป้าป้าไม่ได้ล่ะ?”
สมองของโม่ฮั่นอี่ว์ยังไม่กลับเข้าที่ "ไม่ใช่ว่าพวกเราทุกคนต่างก็ต้องเรียกเขาว่าป้าป้าหรอกรึ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...